Tank 300 ดีเซล กลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจในชั่วข้ามคืน ในเดือนนี้เรามีโอกาสลองขับเจ้าพี่ใหญ่ Tank 500 ดีเซล ตัว Black Warrior ที่ได้รับความสนใจน่าซื้อน่าใช้ ไม่แพ้กัน

รถที่เราทดสอบวันนี้คือ Tank 500 Diesel รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ตบแต่งพิเศษ Black Warrior

• ข้อมูลตัวรถ : Tank 500 Diesel
• ระบบขับเคลื่อน : เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จเดี่ยว พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
• พละกำลังขับ : กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร
• พื้นที่ในการโดยสารสูงสุด : 7 ที่นั่ง ในรูปแบบ 5+2
• ความสามารถในการลุย : ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Part time 4WD
• ราคาจำหน่าย 1,699,000 บาท (ราคาแนะนำช่วงเปิดตัว 1,599,000 บาท)

รายงานข้อมูลการทดสอบ

ในการขับทดสอบของเรา ในด้านการทดสอบอัตราประหยัด ขับโดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 3 คน ผู้ใหญ่ 2 คน และเด็ก อายุ 2.8 ขวบ 1คน ขับโดยใช้ความเร็ว 100-120 ก.ม./ช.ม.​บนสภาพการจราจรจริง เส้นทาง คลองหลวง – มอเตอร์เวย์ M81 แล้วตัดไปเข้าเส้นเพชรเกษม ไปยัง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีระยะทาง 291.1 ก.ม.​เติมน้ำมันดีเซล ไปทั้งสิ้น 25.39 ลิตร

คำนวนเป็นอัตราประหยัดในการทดสอบได้ 11.46 ก.ม.ลิตร

ข้อมูลการทดสอบอัตราเร่ง ทดสอบด้วยข้อมูลผู้โดยสารและผู้ขับขี่ เดียวกัน และจากการทดสอบ พบว่า

• อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ดีที่สุด 13.17 วินาที
• อัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม .ได้ 9.96 วินาที
• อัตราเร่ง 0-160 ก.ม./ช.ม. ได้ 42.80 วินาที
• ความเร็วสูงสุด ทำได้ 171 ก.ม./ช.ม. (176 ก.ม./ช.ม บนหน้าปัด)

รีวิว ย่อ Tank 500 ดีเซล Black Warrior

Tank 500 ดีเซล มีจุดแตกต่างจากรุ่น 300 อยู่กหลายอย่าง มันไม่ใช่พี่น้องกันโดยตรง แต่เป็นรถที่สื่อสารความอตกต่างระหว่างตัวลุยขนานแท้กกับความเป็นรถตรวจการณ์ไปลุยได้ ถ้าต้องการ

ขนาดตัวรถเป็นหัวใจสำคัญของความแตกต่าง แต่การเปลี่ยนแปลงมาใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร มอบกำลังขะบ 184 แรงมา้ แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร อาจทำให้คนจำนวนไม่น้อยสนใจมากขึ้น กว่ารุ่นไฮบริดที่เคยทำตลาดมาก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี เราต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์อาจสร้างความน่าสนใจและคุ้นเคยกว่าคนไทย แต่เมื่อมามองตัวเลขอัตราประหยัดระหว่างดีเซล และไฮบริด มันไม่ได้แตกต่างมากมายอย่างที่หลายคนคิดเท่าไรนัก

แม้ว่าตัวเลขระหว่าง 8.45 ก.ม./ลิตร กับ 11.46 ก.ม./ลิตร จากการลองขับจริงในภาวะน้ำหนักผู้โดยสารเดียวกัน อาจจะมีความหมายกับหลายคนที่มองหารถใช้งานทั่วไป กับคนที่ต้องการสมรรถนะ เมื่อบวกกับความเป็นรถเครื่องดีเซลก็ทำให้มันน่าใช้มากขึ้น แต่ก็ต้องต่อสู้กับเจ้าตลาดที่มีทางเลือกมากกว่าหลายรุ่น

ถึงเครื่องยนต์ ส่วนตัวจะไม่ได้ประทับใจอะไรมากมายนัก แต่ทางด้านระบบกันสะเทือนรถคันนี้กลายเป็นจุดที่ทำให้ผมอยากแนะนำให้หลายคนลองเปิดใจไปลองขับ

ช่วงล่าง GWM Tank 500 ดีเซล มีการปรับเซทตัวรถให้เหมาะสมกับเมืองไทย มีการเข้ามาสำรวจจากทาง GWM สำนักงานใหญ่ว่า สภาพภนนเมืองไทยเป็นอย่างไร แล้วปรับจูนช่วงล่างให้มีความเหมาะสมต่อการขับขี่และใช้งานของคนไทยมากที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การติดตั้งปีกนกอลูมิเนียมทางด้านหน้า ทำให้รถมีการตอบสนองในการขับขี่ดีมากในแง่การควบคุม และให้ความนุ่ในวลแก่ผู้โดยสารตอนหน้า โช๊คอัพปรับปรุงใหม่ให้ความแน่นมั่นใจการขับขี่ บวกกับล้อ 20 นิ้ว มันจึงมอบความมั่นใจและปลอดภัยยามเดินทาง จนแม้แต่ในช่วงความเร็วสูง ก็ยังมั่นใจในทุกกิโลเมตรที่ขับไป

ความคุ้มค่า

สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือ Tank 500 ดีเซล ต่างจาก Tank 300 ตรงคู่แข่งเพียบ เพราะมันจัดอยู่ในตลาด PPV ครองตลาดโดยค่ายญี่ปุ่น

การตัดสินใจใส่เครื่องยนต์ดีเซล เป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ไม่เหมือน Tank 300 ทำตลาดแบบไร้คู่แข่ง เพระาตลาด Tank 500 คู่แข่งเพียบ มันจะพอไปได้แต่ไม่ถึงกับเดินสะดวกแน่นอน นี่คือเรื่องที่ผมเองก็ปรารภกับทางค่ายไว้เช่นกัน

ในมุมมองว่าคุ้มไหม มันพกความคุ้มมาเยอะมาก โดยเฉพาะออพชั่นหลายอย่างที่ไม่ได้ถูกตัดทอนออกไป เหมือน ตัว 300 ที่แล้ว คิดดีๆจะพบว่ามันหายไปหลายอย่าง แต่ในตัว 500 แทบไม่ได้ขาดอะไรจากตัวไฮบริด มีให้ครบเครื่องเหมือนเดิม ในราคาถูกลงกว่าเดิม 4-5 แสน เป็นราคาที่คุ้มค่า น่าคบ

แต่ตัวตนที่มาในสายหรู ต้องยอมรับว่า มันอาจจะยังไม่ถูกใจคนไทย อย่างที่ค่ายอาจคิดว่า คนไทยติดหรู ทั้งที่จริงรถสายลุยแบบนี่คนไทยชอบภาพความสปอร์ต มากกว่า ตัว Black Warrior อาจจะช่วยได้ แต่ไม่มากเพราะความดำดุ ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนชอบ อาจต้องมีลูกเล่นเพิ่มมากกว่านี้