Kia AD

Home » Full Review : 2018 Suzuki  Swift  GLX Navi …. แตกต่างอย่างมีสไตล์

Kia AD

Suzuki AD

Full Review รีวิว

Full Review : 2018 Suzuki  Swift  GLX Navi …. แตกต่างอย่างมีสไตล์

ในบรรดารถยนต์อีโค่คาร์ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เราต่างทราบดีว่ารถเหล่านี้ มาพร้อมความประหยัดน้ำมัน แถมเติมด้วยการรักษาสิ่งแวดล้อม พวกมันเป็นรถเกิดมาอย่างพอเพียงเพื่อการใช้งาน เป็นรถที่ใครก็ทู่ซี้ว่า ไม่ได้มีดีเรื่องสมรรถนะในการขับขี่

แต่หากอีโค่คาร์คันหนึ่งสามารถสร้างความแตกต่าง มันมีความสามารถในการขับขี่ใกล้เคียงรถขนาดเดียวกันที่มีเครื่องยนต์ใหญ่กว่า ขับอย่างมาดมั่น แล้วยังได้ความประหยัด …. คุณคงจะเริ่มสนใจ เจ้าน้องน้อยคันใหม่ Suzuki  Swift   แล้วใช่ไหม ???

ตั้งแต่เปิดตัวออกมาเมื่อช่วงปี 2011   Suzuki Swift   ใหม่ กลายเป็นรถยนต์ที่เชิดหน้าชูตาค่ายรถยนต์ซูซูกิในประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักในอีกมุมของความเป็นผู้เชี่ยวชาญรถยนต์นั่งขนาดเล็กอย่างรวดเร็ว พลิกภาพจากบริษัทที่เอาดีทางด้านรถยนต์สายลุยราคาไม่แพง มาสู่โลกยุคใหม่ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์นั่งที่ครบครันฟังชั่น ขับประหยัด แบรนด์ญี่ปุ่นในราคาไม่แพง

ในคราวนั้น   Suzuki  กวาดยอดขาย   Suzuki Swift   ใหม่ไปอย่างนิ่มๆ ทำเอาบริษัทรถยนต์ชั้นนำจากญี่ปุ่นรายอื่น งงๆไปตามๆ กัน ผมให้ฉายา   Suzuki Swift   รุ่นปี 2011 ว่า   “ม้ามืดแห่งอีโค่คาร์” และกาลเวลาก็ช่างไวอย่างกับโกหก เผลอแผลบเดียว ก็ก้าวสู่โลกยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความความปลอดภัย  โจทย์ที่ยากไม่ใช่เล่นสำหรับค่ายรถยนต์จากเมือง ฮามามัทซึ ในการสร้างรถยนต์ที่ต้องมีความแตกต่างจากเดิม

อะไรเลยจะดีกว่าการคิดใหม่ทำใหม่  Suzuki เล็งเห็นถึงแนวโน้มการตื่นตัวในเรื่องความปลอดภัยในรถยนต์มาสักพักหนึ่งพวกเขาจึงตัดสินใจพัฒนาโครงสร้างตัวถังหลัก หรือ “แพลทฟอร์ม” ใหม่ขึ้นมา นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรถยนต์  Suzuki Swift   ใหม่ ที่ทำให้มันแตกต่างโดยสิ้นเชิง

Suzuki Swift 2018 Review

การพัฒนาแพลทฟอร์มใหม่ ที่ทาง   Suzuki  เรียกว่า “Suzuki Heartect” มีหัวใจหลักสำคัญอยู่ 2 ประการ ได้แก่ 

1.น้ำหนักเบา   (Lightweight)  มุ่งเน้นในการสร้างตัวโครงสร้างหลักให้เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่สูญเสียความแข็งแรง ความเบาของโครงสร้างช่วยให้รถรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาภายใต้โครงสร้างนี้ความสามารถในการขับขี่ดีขึ้น ทั้ง การเร่ง ,การเบรก ,และการเข้าโค้ง ตลอดจนยังช่วยเกิดการใช้น้ำมันอย่างมีประสิทธิภาพ

2.ความปลอดภัย ด้วยความต้องการในแง่ของการทดสอบการชนที่เกิดขึ้นทั่วโลก และได้รับความสนใจจากผู้ใช้คำนึงถึงรถที่ปลอดภัยมากขึ้น   Suzuki    จึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างรถให้มีความปลอดภัยด้วย

 

จากโจทยทั้ง 2 ข้อดังกล่าว  ทาง   Suzuki  ได้เริ่มจากการนำโครงสร้างเดิมมารีวิวดูจุดที่สมควรจะเปลี่ยน โดยใช้หลักการสำคัญ 3 ข้อ ได้แก่ 

                1.ใช้รูปแบบโครงสร้างเรียบง่ายและป้องกันการเกิดความเสียหายในเชิงโครงสร้างได้ดี

                2.ให้ความแข็งแรงมากขึ้นต่อจุดเชื่อมต่อต่างๆ

                3.ลดน้ำหนัก โดยดูภาพรวมเป็นสำคัญมากกว่าแต่ละชิ้นส่วน

 

โครงสร้างหลัก  Suzuki Heartect   จึงนับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ   Suzuki   มันเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ภายในจิตวิญญาณที่จะแตกต่างไปจากเดิม

ผมยอมรับตั้งแต่เปิดตัวในระดับโลก จนมาถึงประเทศไทย   Suzuki  Swift   ใหม่ เป็นรถที่ส่วนตัวให้ความสนใจกับเจ้าว่าที่อีโค่คาร์คันนี้ มันเหมือนการติดตามดูแดนนี่ปาเกียว ต้องมาป้องกันแชมป์กับผู้ท้าชิงหน้าใหม่ พวกเขาไม่ประมาท   Suzuki   อีกต่อไป

Suzuki ทราบดีถึงประเด็นนี้ และในยุคนี้สิ่งสำคัญไม่แพ้สมรรถนะและความปลอดภัยในการขับขี่ดูเหมือนจะเป็นการออกแบบตัวรถใหม่โดนใจลูกค้า ความสปอร์ต ปราดเปรียว ดูคล่องแคล่ว กลายเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ไปแล้ว ที่ผ่านมา   Suzuki  ถูกค่อนขอดว่า ออกแบบจนดูเหมือน   MINI   จากญี่ปุ่น

ด้วยเหตุนี้ใน   Suzuki   Swift   ใหม่ จึงกลับมาพร้อมแนวคิดใหม่หมดในการออกแบบ พวกเขาใส่ความล้ำสมัยเข้าไปในตัวรถ พกพามาพร้อมความน่ารักคิขุอาโนเนะ ในแบบญี่ปุ่นสไตล์มากขึ้น

Suzuki Swift 2018 Review

ครั้งแรกที่ผมเห็น Suzuki Swift ใหม่ วิ่งออกมาจากหลังฉากในงานเปิดตัว มันให้ความรู้สึกคล้าย  วง   BNK48   วิ่งออกมา พร้อมเสียงใสๆ แล้วกล่าวคำว่า   “สวัสดีจ้า”

เจ้าน้องใหม่สลัดคราบความเป็นสปอร์ตออกไปเกือบหมดสิ้น งานออกแบบรุ่นใหม่เน้นความน่ารักสะกดสายตา ดูดีในทุกมุม เริ่มตั้งแต่ทางด้านหน้าที่มาพร้อมโคมไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำ ส่องสว่างด้วยชุดไฟหน้า   LED (ในรุ่นท๊อป) ในโคมเติมเอกลักษณ์ด้วยไฟขับขี่เวลากลางวัน ทำให้รถดูน่าใช้มากขึ้น ชุดกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกมั่นใจในการขับขี่ สปอร์ตมาดมั่นมากขึ้น อาจไม่ปราดเปรียวเท่ารุ่นเดิม หากมันก็ดูดีไปอีกแบบเหมือนกัน

Suzuki Swift 2018 Review

ทางด้านข้าง   Suzuki  ทำงานหนักในการสร้างเส้นสายลายระเอียด   Suzuki  Swift   ใหม่ พวกเขายังนำแนวคิดเดิมบางส่วนมาใช้ นั่นคือการให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งสบาย เส้นหลังคารถรุ่นนี้ถูกเชิดขึ้นตั้งแต่เสา   A   แล้ว ให้เส้นสายเทลาดลงยังท้ายรถ แถมในรุ่นนี้เพิ่มความเป็นเอกในแง่ดูสปอร์ตมากขึ้น ด้วยมือจับเปิดประตูเบาะนั่งตอนหลังซ่อนหา ทางทีมออกแบบจัดการยกมันมาไว้ที่เสา   C  แล้วกลบเกลื่อนด้วย   Floating Roof   เสกมือจับประตูหลังหายไป อย่างน่าอัศจรรย์ใจ  จนบางทีคนนั่งหลังก็อาจจะหามือเปิดประตูไม่เจอ น่าเสียดาย  ชุดล้อขอบ 16 นิ้วไม่ยอมให้ล้อลายทูโทนแบบรุ่นที่วางจำหน่ายในญี่ปุ่น ไม่งั้นน่าจะดูลงตัวกว่านี้

ด้านท้ายเน้นภาพการออกแบบอันทันสมัย ด้วยไฟท้าย  LED   ฝาท้ายขนาดกำลังดี ลงตัวกับการออกแบบกันท้ายทรวดทรงสปอร์ต  จนเมื่อมองรวมๆ   Suzuki  Swift   ใหม่ กลายเป็นรถที่มีครบทุกอารมณ์ ทั้งชิค คูล สปอร์ต และ ยังแอบทันสมัยอีกด้วย

Suzuki Swift 2018 Review

Suzuki Swift 2018 Review

รับกุญแจมาจากทาง   Suzuki   ผมเดินสำรวจรอบคันอีกครั้ง เหลียวมองรถรุ่นเก่าที่จอดในลาน   Suzuki Swift   ใหม่ ดูย่อมลงมาจากรุ่นเดิมเล็กน้อย ตามรายละเอียดทางเทคนิค ตัวรถรุ่นใหม่มีความยาว 3,840 มม. (-10 มม.) กว้าง 1,735 มม. (+40 มม.) และ สูง 1,495 มม. (-15มม.) รวมถึงยังปรับฐานล้อจนมีขนาด 2,450 มม. (+20มม.) และความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถยังเพิ่มขึ้นเป็น 140 มม. (+20 มม.) 

การปรับมิติตัวถังดังกล่าวสัมผัสได้ทันทีที่เมื่อก้าวเท้าขึ้นรถ การขึ้นลง ดูสะดวกมากขึ้น เมื่อเข้ามาในห้องโดยสาร ดูกว้างขึ้นอย่างทันตาเห็น ผมสังเกตได้ทันทีจากเบาะนั่งคู่หน้า ที่ดูมีระยะห่างระหว่างสองเราเพิ่มขึ้น ส่วนเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหลังดูจะสนิทแนบชิดมากกว่ารุ่นเดิมอีกเล็กน้อย

เบาะนั่งคู่หน้าทั้งหมดปรับด้วยมือใช้งานงาน ตัวเบาะนั่งได้สบาย พนักผิงหลังมีขนาดใหญ่พอสมควร ตัวที่รองนั่งสั้นเล็กน้อยตามขนาดรถ แต่ก็ยังยั่งอย่างสบาย ตัวเบาะนั่ง ตัดเย็บด้วยผ้าลวดลายไฮเทค ดูสปอร์ต ลงตัวกับชุดคอนโซลหน้าสีดำ ติดตั้งพวงมาลัยทรงสปอร์ตตัดตูดดูมีความไฮโซมากขึ้น 

Suzuki Swift 2018 Review

วงพวงมาลัยใหม่ให้ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงทางฝั่งซ้าย ด้านขวาติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)   มาให้ครบเครื่องในเฉพาะรุ่น GLX   ขึ้นไป  หน้าคนขับได้มาตรวัดไมล์เรืองแสงสไตล์สปอร์ต เล่นโทนขาวแดง ดูสว่างสบายตา และอ่านง่ายใช้สะดวก กลางเรือนไมล์มีระบบหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ LCD  บอกค่าต่างๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะ อัตราประหยัดเฉลี่ย ,เวลาการทำงานของระบบหยุดการทำงานเครื่องยนต์ ( Idling Stop)  , การใช้คันเร่งของผู้ขับขี่ เป็นต้น ชุดจอนี้เป็นแบบ 2 สี แต่ก็ดูดีลงตัวไม่หยอก

Suzuki Swift 2018 Review

เหลียวมองไปตรงกลาง สง่าผ่าเผยด้วยชุดจอเครื่องเสียง   Suzuki Connect   ดูดีเมื่อจัดวางคู่การตบแต่ง  Paino Black ถัดลงมาเป็นระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ทำงานสั่งการณ์ด้วยการหมุน มันดูดีกว่ารถรุ่นเดิมพอสมควร ใต้ล่างลงไปเป็นช่องเสียบชาร์จไฟอุปกรณ์ 12 โวล์ต และช่องเสียบเสริมสำหรับเครื่องเสียง รวมถึงยังเป็นตำแหน่งช่องเสียบ   USB  ที่ดูเหมือนจะให้มาเพียงช่องเดียว อาจสร้างความร้าวฉานระหว่างคู่รักได้ …

ชุดคันเกียร์ยังคงเป็นสไตล์เดิมใช้ระบบปุ่ม  Over Drive   ที่จัดวางไว้ข้างหัวเกียร์ ใช้งานสะดวกด้วยการกดปุ่ม สำหรับใครที่ไม่ชอบป้ายคันเร่งลึกๆ 

Suzuki Swift 2018 Review

มองทางด้านหลัง เบาะนั่งหลังออกแบบมาดูแล้วช่วงวางขาสั้นลงเล็กน้อย ผมลองลงไปนั่งดูชั่วคราวก่อนทดลองขับมันนั่งได้ดีในระดับหนึ่ง ท่านั่งเอนหลังเล็กน้อยไม่ชันมาก พอเหมาะถ้าจะโดยสารเส้นทางใกล้ๆ แต่ถ้าคิดว่าจะขนเพื่อนขับรถเที่ยวไกลๆ อาจจะต้องลองพิจารณาจัดระเบียบคนนั่งให้คนตัวเล็กมานั่งทางด้านหลังจะดีกว่า และอยากแนะนำว่า ไม่ควรโดยสารแน่นเอี้ยด … 5 คน ภายในรถ

เขยิบมาทางด้านหลังพื้นที่เก็บของมากพอจะจุสัมภาระผู้โดยสารครบทุกคนได้ครบ ความกว้างสัมภาระท้ายใหญ่พอจะส่งกระเป๋าเดินทางใบขนาด 20 นิ้ว ลงไปวางนอนได้สบายๆ  แบบไม่ต้องจัดระเบียบห้องสัมภาระ ในกรณีที่คุณต้องการใช้งานพื้นที่สัมภาระเพิ่มเติมเบาะนั่งตอนหลังยังสามารถแยกพับอิสระ 60/40 ได้สบาย ผมลองขนจักรยานขึ้นรถ สามารถใช้งานได้สบาย เพียงถอดล้อหน้าจักรยาน พับเบาะตอนหลัง แล้วถอดแผงกันฝาท้าย ก็สามารถขนไปปั่นในวันหยุดได้สบายๆ ทันที

Suzuki Swift 2018 Review

Suzuki Swift 2018 Review

อย่างไรก็ดี ผมพบปัญหาการใช้ฝาท้ายรถข้อหนึ่งที่สำคัญ คือ คุณไม่สามารถเปิดฝาท้ายได้ทันทีเมื่อล็อครถ คุณต้องไปกดเปิดล็อคที่ประตูหน้า หรือไม่ก็ต้องคว้ารีโมทขึ้นมาเปิด … ทำเอาผมเซ็งไปเล็กน้อยหลายครั้ง จนบางทีนึกถ้าเป็นคุณผู้หญิงช็อปปิ้งมาเต็มคราบ พกกุญแจรีโมท มาถึงรถกะจะเปิดของใส่ท้ายรถทำไมได้ ต้องวางของพะรุงพะรังคว้ารีโมทก่อนหรือต้องเดินไปจิ้มสวิทช์ทางประตูหน้าก่อน คงจะรู้สึกเซ็งไม่ต่างจากผมนัก

ใต้เรือนร่าง   Suzuki Swift   ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่  Suzuki Dual jet  รหัสขุมพลัง K12M   ปรับขนาดเครื่องยนต์จากเดิม 1.25 ลิตร ลดลงเหลือเพียง 1.2 ลิตร ด้วยการปรับลดระยะช่วงชักลูกสูบจากรุ่นเดิม 74.2 มม. ลดลงเหลือเพียง 71.5  มม. (หายไป 2.7 มม.) 

ขนาดปริมาตรเครื่องยนต์จริงหายไป 45 ซีซี ทดแทนด้วยประสิทธิภาพการจุดระเบิด ติดตั้งระบบหัวฉีดคู่ 2 หัวต่อสูบ รีดกำลังอัดเครื่องยนต์เพิ่มจาก 11.0:1   เป็น 11.5 :1   ทำให้เผาไหม้สมบูรณ์มากขึ้นเครื่องยนต์ตอบสนองดีขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง ทว่า   Suzuki Swift  ใหม่ กลับมีกำลังน้อยลง มันให้กำลังเพียง 83  PS ที่ 6,000 รอบต่อนาที ทำแรงบิด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที  ชุดเกียร์  CVT   ไม่ได้มีการเปลี่ยนยังคงใช้เกียร์ที่มีอัตราทดระหว่าง 4.006- 0.550 ส่งกำลังลงอัตราทดเฟืองท้าย  3.757

หากเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์   K12B   ขนาด 1.25 รุ่นเดิม ให้กำลัง 90 PS   ที่  6,000  รอบต่อนาที  ทำแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที  จะเห็นว่ากำลังเครื่องยนต์หายไป   7 PS  และ แรงบิดหายไป 10 นิวตันเมตร

ย้อนไป ครั้นงานเปิดตัวผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า Suzuki  คิดอย่างไร จึงตอนขนาดและกำลังเครื่องยนต์ลงจากรุ่นเดิม เหตุผลเดียวที่ผมดูจะนึกออก คือการลดการปล่อยไอเสียลง เพื่อให้ภาษีสรรพสามิตรที่คิดตามปริมาตรการปล่อยไอเสียจริง หรือ   Co2 ถูกลง  หากกลับกันในมุมมองของคนใช้รถ อาจกังวลว่ามันจะขับดีเหมือนเดิม หรือไม่ ด้วยจริตคนไทยแคร์กับเรื่องพละกำลังมากพอสมควร

ความท้าทายนี้ … เป็นสิ่งที่ผมกำลังพิสูจน์ใน   Suzuki Swift   ใหม่ ทันทีที่กวาดพวงมาลัยออกมาเดินทางในเมือง สัมผัสแรกทำเอาต้องอ้าปากค้าง​ ไม่น่าเชื่อว่ารถที่ปรับลดกำลังเครื่องยนต์จะขับดีขึ้นผิดหูผิด อย่างน่าประหลาดใจ

Suzuki Swift 2018 Review

Suzuki Swift  ใหม่ได้ความรู้สึกเวลาออกตัวใกล้เคียงรถนั่งขนาดเล็กที่มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1,500 ซีซี มันเจ๋งพอที่จะเร่งออกจากไฟแดงแล้วทิ้งคันหลังไว้เป็นจุดบนกระจกมองหลัง อย่างๆ งง  เมื่อกดคันเร่งเต็มบาทา หลายคนคงไม่คิดว่าอีโค่คาร์จะออกตัวไวปานนี้

สาเหตุหนึ่งที่แม้นกำลังจะลดลงแต่   Suzuki Swift   กลับเร่งดีขึ้น มาจากโครงสร้าง   Suzuki Heartect   ที่มีน้ำหนักโครงสร้างเบาลงถึง 85 กิโลกรัม จากการเปลี่ยนวัสดุมาใช้เหล็ก   Ultra High Tensile   ทนแรงดึง 980  MPa  17%   และใช้วัสดุเหล็ก   High Tensile   ทนแรงดึง 780 MPa  เพิ่มขึ้น  4%   

เมื่อมาดูรายละเอียดทางเทคนิคแล้ว  น้ำหนักตัวเปล่า   Suzuki  Swift GLX- Navi  กลับมีน้ำหนักรถตัวเปล่าเพียง 910 กก. เทียบกับรุ่นเดิมมันเบาลง 65 กก. (รุ่นก่อนรถเปล่าหนัก 975 กก.) มากพอจะเร่งปรู๊ดปราดทันใจมากกว่าเดิม แถมช่วงแรกขับในเมืองแบบนี้ ยอมรับว่า ความเบาและขนาดตัวรถที่ย่อมลงมาหน่อย ช่วยให้แทรกรถง่ายขึ้น โดยเฉพาะใครที่เป็นพ่อนักมุดแห่งท้องถนนตัวยงคงจะติดใจไม่น้อยกับ ความรู้สึกขับสนุกทันใจเร่งมันส์พะย่ะค่ะ และยังหาที่จอดง่าย จะแปะตรงไหนก็ได้ หรือจะเบียดหาที่จอด ในพื้นแสนสุดจะยากเย็นก็ทำได้ง่ายดาย

นอกจากนี้โครงสร้างตัวถังเบาลง ไม่เพียงเร่งง่ายขึ้นในอีกทางมันหมายถึงประหยัดน้ำมันมากขึ้นด้วย แถม   Suzuki Swift  ใหม่ ยังติดตั้งระบบ   Idling Stop   หยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวมาให้ เป็นประโยชน์มากยามติดไฟแดง หรือคุณใช้ชีวิตท่ามกลางการจราจรแน่นิ่งในเมืองกรุง ระบบจะทำงานแม้ว่าอากาศจะร้อนมากก็ตาม โดยคำนึงถึงความสบายของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

Suzuki Swift 2018 Review

จะว่าไปฟังชั่นใช้งาน   Suzuki  Swift   กับชีวิตในเมืองถือว่าจัดมาครบเต็มเต็งพอสมควร และแล้วก็ถึงเวลาที่เราจะพิสูจน์ความประหยัด ผมมาแวะปั้มเดิมเจ้าประจำแถวบ้าน วิ่งในเมืองมา 51 กิโลเมตร เติมลงถังไป 3.404 ลิตร ได้อัตราประหยัด 15.12 ก.ม./ลิตร ในกรณีที่คุณขับโดยเปิด idling stop   เอาไว้

แต่ถ้าคุณไม่เปิดหรือเป็นคนขี้รำคาญ เครื่องยนต์ติดๆ ดับๆ ขับแล้วไม่ค่อยสะดวกใจ อีกวันผมกับน้องนัท ทีมงาน   Ridebuster   เราขับฝ่ารถติดเมืองกรุงไปลองให้รู้กันอีกรอบว่าถ้าไม่เปิดระบบหยุดเครื่องยนต์อัตโนมัติจะได้อัตราประหยัดเท่าไร  งวดนี้เราขับระยะทาง 75.3 กิโลเมตร เติมน้ำมันลงถังไป 6.3 ลิตร สรุปอัตราประหยัด ถ้าไม่เปิด   idling Stop   ได้ 11.95 ก.ม./ลิตร ในภาวะการณ์ใช้งานจริง รถติดจริงในเมือง ถือว่าทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ

พูดถึงรถอีโค่คาร์หลายคนมักจะกังวลใจเมื่อต้องตัดสินในซื้ออีโค่คาร์ โดยคิดเอาเหมาว่ารถเล็กราคาประหยัด เครื่องยนต์ขนาดเล็กจะขับไม่ดี เมื่อต้องเดินทางไกล

ถ้าคุณคิดแบบนั้นกับ   Suzuki Swift   ผมกล้าพูดว่าคุณคิดผิดถนัด!!!

 เจ้าเปี้ยกคันนี้กลับขับได้ดีเมื่อคุณเดินทางต่างจังหวัดอย่างไม่น่าเชื่อ น้ำหนักที่เบาลง และเครื่องยนต์ใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพความประหยัดมากขึ้น สรรค์สร้างให้มันขับได้อย่างมั่นใจ และแม้จะเบาลง แต่โครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากขึ้น ทำให้ช่วงล่างยึดเกาะถนนดีขึ้น  แม้ระบบช่วงล่างจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ด้านหน้ายังคงใช้แบบแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง เช่นเดียวกับทางด้านหลังยังคงการเซทอัพแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยย์สปริง รวมถึงชุดล้อยังคงเป็นตัวท๊อปขนาด 16 นิ้ว จัดมาพร้อมยางประหยัดน้ำมัน   Ecopia EP150  รุ่นยอดนิยมประจำโรงงาน ขนาด 185/55/R16   กลับขับได้อย่างมั่นใจแม้ใช้ความเร็วสูง

Suzuki Swift 2018 Review

ผมมีโอกาสลองขับที่ความเร็วสูงเหยียบยาวๆ บนถนนสายเอเชีย วิ่งมุ่งหน้าไปยังจังหวัดลพบุรี เจ้า  Suzuki  Swift   ขับนิ่งมั่นใจตลอดการเดินทางไม่มีอาการเบาหวิวโคลงน่ากลัว โดยเฉพาะปัญหาสำคัญสำหรับรถเล็ก เมื่อต้องเจอรถที่มีขนาดใหญ่ อาทิ รถกระบะ, รถสิบล้อ วิ่งผ่าน  มันนิ่งจนน่าตกใจ แถมเมื่อขับด้วยความเร็วขนาดนี้ รอบเครื่องยนต์กลับต่ำมากป้วนเปี้ยนที่ราวๆ 2,200 รอบต่อนาที และในกรณีคุณต้องเร่งรีบ การจะมุดไปมาท่ามกลางจราจรก็ทำได้ง่ายมาก รถโคลงตัวค่อนข้างน้อย และมีความคล่องตัวสูงมาก จนกลายเป็นรถที่คุณจะสนุกกับการจราจรคับคั่งโดยปริยาย 

Suzuki Swift 2018 Review

อาจดูแล้วต่ำมาก แต่เมื่อเร่งแซงก็มาทันใจ ไร้ปัญหา ยิ่งเจอรถใหญ่บี้ตูด หมดปัญหาเรื่องเร่งไม่ออกจนคุณอยากจะตะโกนบอกคันหลังว่า “เอ้ย ใจเย็นพี่ รถผมเครื่อง 1,200” เพราะเพียงคุณป้ายคันเร่งลงไป รถจะพุ่งไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากช่วงล่างที่มั่นใจ เครื่องยนต์รอบต่ำ และการตอบสนองที่ดียามต้องการกำลัง ในเรื่องการเก็บเสียงในห้องโดยสารก็ไม่น้อยหน้าใครๆ เหมือนกัน เสียงรบกวนจากภายนอกเข้าห้องโดยสาร ถือว่าทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจ ขับที่ความเร็ว 120 ก.ม./ช.ม เสียงจากพื้นและลมเล็ดรอดเข้ามาไม่มากนัก  คุณสามารถคุยกันได้รู้เรื่อง ไม่ต้องตะเบงเสียงพูดเวลาคุยกับคนรู้ใจ

แถมเครื่องเสียง  Suzuki  Connect   ก็ไม่ขี้เหร่การขับกล่อมเสียงใช้ได้ ขาดเพียงพวกเสียงเบสหนัก ซึ่งคุณอาจต้องไปติดเพิ่มเอาตามกำลังทรัพย์ ก็จะได้ความบันเทิงในรถที่ยอดเยี่ยม

ผมถึงลพบุรี พร้อมจัดการวัดอัตราประหยัดความประหยัดนอกเมือง การขับนอกเมืองยืนความเร็วสูงสุด 120 ก.ม./ช.ม. ขับโดยใช้  Cruise Control   ตลอดการเดินทาง และได้อัตราประหยัดสูงถึง 17.2 ก.ม./ลิตร โดยเปิด   idling Stop   ตลอดการขับขี่ สำหรับผมแล้วถือว่าค่อนข้างประหยัดอยู่พอสมควร

 

สรุป   2018 Suzuki Swift   …แตกต่างเหนือชั้น อย่ามองภาพแค่ภาพ “อีโค่คาร์”  …  

รถ “อีโค่คาร์” สมัยนี้ ดูถูกไม่ได้จริง … ผมอยากจะบอกเพื่อนๆ อย่างงั้น 

หลังจากลงจาก  Suzuki   Swift  ใหม่ มาผมเหลียวมองหน้าตาอันจิ้มลิ้มของมัน ภายนอกคล้ายสาวญี่ปุ่นแรกรุ่นในโรงเรียนไฮสคูล ดูทันสมัย ชิค และมีอารมณ์เป็นแฟชั่นนิสต้า ผมบอกกับตัวเอง นี่คืออีโค่คาร์ที่ยัดความคุ้มค่าไว้อย่างครบครัน

Suzuki Swift 2018 Review

Suzuki  กล้าคิดแตกต่างและท้าทาย ด้วยการลดขนาดและกำลังเครื่องยนต์ แต่พวกเขาไม่สูญเสียความรู้สึกสปอร์ตในการขับขี่ไปแม้แต่น้อย แถมเมื่อเครื่องยนต์เล็กลง มันประหยัดมากขึ้น ตอบสนองโจทย์คนหารถใช้งานขับในเมือง ถูกต้องตรงความต้องการมากขึ้น ยิ่งกว่านั้นเรื่องสมรรถนะการขับขี่กลับดีขึ้นด้วยซ้ำ ด้วยโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาลงจากเดิม 85 กิโลกรัม ตามการกล่าวอ้างของ   Suzuki   เท่ากับคุณถีบเพื่อนตัวอ้วนสุดแสบที่ขึ้นมาซ่อนแอบลงไปจากรถ  

สิ่งที่เกิดขึ้นคือรถเร่งดีขึ้นไวขึ้นจนใกล้เคียงรถ 5 ประตู 1,500 ซีซีรุ่นยอดนิยม  Honda  Jazz   ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. เฉลี่ยได้ 12.48 วินาที แต่  Suzuki  Swift   ทำอัตราเร่งได้ในเวลาเฉลี่ย 12.995 วินาที   ช้ากว่าเพียง 0.51 วินาที  หรือแทบจะพูดว่า ถ้าคุณมีเพื่อนขอท้าแข่ง ก็ตีคู่กันไปตอนเข้าเส้นชัย

ทางด้านอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม. เป็นสิ่งเดียวที่ยังไม่สามารถเอาชนะรถเครื่อง 1500 ได้ ด้วยอัตราเร่ง 80-120 ก.ม./ช.ม .เพียง  11.333 วินาที (   Honda  Jazz   ทำได้ 6.0 วินาที)

 

Suzuki Swift 2018 Review

แต่ถ้าเทียบกับอีโค่คาร์ 5 ประตูด้วยกัน ถือว่า ค่อนข้างตอบสนองดีกว่าชัดเจนกว่ามา เช่น ถ้าเทียบกับ   Nissan  Note   1.2   VL   ที่เคยนำมาทดสอบ เจ้า   Suzuki  Swift  ใหม่ เร่งดี 0-100 ก.ม./ช.ม. ดีกว่า 4 วินาที  แต่ในช่วง 80-120ก.ม./ช.ม. เร่งดีกว่า 1.8 วินาที

สำหรับผมแล้ว   Suzuki  Swift   เป็นรถอีโค่คาร์คันแรกที่ให้ความรู้สึกการขับได้ใกล้เคียงรถเล็กเครื่อง 1,500 ซีซี มากที่สุดในเวลานี้ นับเป็นความประหลาดใจอย่างยิ่งในเจ้าเปี้ยกคันนี้ แถมยังได้ความประหยัดเรียกว่าค่อนข้างมาครบเครื่องตรงใจความต้องการคนใช้รถพอสมควร

ผมขับ  Suzuki  Swift  กำลังจะไปคืนเจ้าสำนักพลันคิดว่า มันมีดีหลายอย่าง ในตัว น่าเสียดายเรื่องเล็กๆ น้อย ทำให้ รถคันนี้อาจจะยังขัดใจไปบ้าง อาทิ ปลดล็อคเปิดเฉพาะฝาท้ายไม่ได้เมื่ออยู่นอกรถ , พับเบาะหลังยังไม่เรียบ ช่องเสียบ   USB   ที่น้อยเกินไป  และยังขาดกล้องมองหลัง แม้นว่าจะสามารถติดเซ็นเซอร์ถอยหลังได้ที่โชว์รูมตอนขอของแถมจากเซลล์ก็ตาม  

ผมลงจากรถพร้อมตั้งคำถามว่า   629,000  บาท  กับเจ้า  Suzuki  Swift  GLX Navi  คุ้มไหม สำหรับผมถือว่าสมน้ำสมเนื้อ คุณอาจขาดบางออพชั่นเล็กๆ น้อยๆ ไปบ้าง แต่ถ้านึกว่าราคานี้คุณได้รถที่ขับดีวิ่งปลิวเบียดกับรถเครื่อง 1500 ได้ ในราคาที่ถูกกว่าเกือบแสนบาท  …ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คืออีโค่คาร์ ตัวเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์   Ridebuster.com  ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง  Facebook 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”490″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]



 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.