Range Rover ถือเป็นรถยนต์แนวอเนกประสงค์ระดับเรือธงจากแบรนด์ชื่อดัง Land Rover จากสหราชอานาจักร แต่ด้วยความนิยมในตัวรถที่สูงขึ้น จึงทำให้แค่ไลน์ผลิตในบ้านเกิดอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอสำหรับการตอบรับความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกอีกต่อไป

จากการประกาศข้อมูลโดย Jaguar-Land Rover (JLR) ระบุว่า ในส่วนของรถยนต์รุ่น Range Rover และ Range Rover Sport จากนี้จะมีการขึ้นไลน์ผลิตในประเทศอินเดียด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่รถยนต์ตระกูล Range Rover ของแบรนด์จะถูกผลิตขึ้นนอกสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทมา

ส่วนไลน์การผลิตแห่งใหม่ของรถยนต์ทั้งสองรุ่นเอง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นการเปิดไลน์ผลิตในโรงงาน ณ เมือง Pune ประเทศอินเดีย ซึ่งอันที่จริงก็เป็นโรงงานที่ทางบริษัทแม่ของ Jaquar-Land Rover ในปัจจุบัน อย่าง Tata Motors ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อผลิต-ประกอบรถยนต์ของแบรนด์และในเครือมาตั้งแต่ปี 2011

โดยโรงงานแห่งนี้ แรกเริ่มเดิมที ก็มีไว้เพื่อผลิตรถยนต์อเนกประสงค์น้องเล็กอย่าง Land Freelander ก่อนที่ต่อมาทางแบรนด์จะมอบหมายให้โรงงานแห่งนี้ ผลิตรถยนต์โมเดลอื่นๆอีกหลายรุ่น ซึ่งปัจจุบันก็ประกอบไปด้วย Range Rover Evoque, Velar, Discovery Sport, และยังมีรถยนต์แบรนด์ Jaquar รุ่น F-Pace ถูกผลิตขึ้นในโรงงานแห่งนี้ด้วย

อย่างไรก็ดี สำหรับการขึ้นไลน์ผลิตรถยนต์ Range Rover และ Range Rover Sport ในโรงงานเมือง Pune ประเทศอินเดียวครั้งนี้ เบื้องต้นแล้ว จะเห็นการขึ้นไลน์ผลิตโดยนำเข้าชิ้นส่วนรถจากโรงงานในประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นไลน์ผลิตต้นทาง มาประกอบที่อินเดียแบบ CKD เท่านั้น ไม่ใช่การผลิตตัวรถขึ้นจากวัสดุตั้งต้นด้วยตนเองตั้งแต่แรก

นอกจากนี้ ตัวรถทั้งสองรุ่นที่ถูกผลิต หรือประกอบในโรงงาน ณ ประเทศอินเดียแห่งนี้ ก็จะเป็นตัวรถที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายในประเทศอินเดียเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อลดปัญหาการรอรับรถที่ยาวนานของลูกค้าชาวอินเดียที่มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางแบรนด์ก็ยืนยันกับเหล่าลูกค้าว่ารถยนต์ตระกูล Range Rover ที่ถูกผลิต-ประกอบในประเทศอินเดียจะมีคุณภาพที่ไว้ใจได้แน่นอน เพราะยังไงโรงงานแห่งนี้ก็มีประสบการณ์ในการผลิตรถยนต์รุ่นอื่นๆของ Land Rover มานานไม่น้อยกว่า 10 ปี อยู่แล้ว

โดยสำหรับตัวรถ Range Rover ที่ถูกผลิตในประเทศอินเดีย เพื่อวางขายในประเทศอินเดีย เบื้องต้นแล้วจะมีเพียง 2 รุ่นย่อยเท่านั้น นั่นคือรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศแบบ Twin-Charge และเสริมอัตราเร่งในรอบต้นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Mild Hybrid ให้กำลังสุทธิสูงสุดที่ 398 PS

ขณะที่อีกรุ่นจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร เทอร์โบ พ่วงระบบเสริมกำลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Mild Hybrid เช่นกัน และให้กำลังสูงสุดที่ 351 PS โดยทั้งสองรุ่นจะเป็นแบบตัวถังฐานล้อยาว Long Wheel Base สนนราคาเริ่มต้นที่ 23,600,000 รูปีย์ หรือ ราวๆ 10.4 ล้านบาท

ด้านตัวรถรุ่น Ranger Rover Sport ก็จะมีการใช้ขุมกำลังทั้ง 2 แบบให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ แต่ด้วยความที่เป็นรุ่นย่อยล่างกว่า เพราะมีรหัสต่อท้ายว่า Dynamic SE ไม่ใช่ Dynamic HSE จึงทำให้มันจะสนนราคาเริ่มต้นเพียง 14,000,000 รูปีย์ หรือราวๆ 6.2 ล้านบาท เท่านั้น

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่