OMODA 5 EV คือหนึ่งในรถยนต์ที่ทาง Chery Group จะส่งมาบุกตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเร็วๆนี้ ดังนั้นเพื่อเป็นการทำความรู้จักมันแต่ๆเนิ่นๆ เราลองมาดูกันหน่อยดีกว่าว่าตัวรถรุ่นนี้จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง ?
OMODA 5 EV อาจไม่ใช่รถที่ถูกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อ Chery โดยตรง แต่ก็ถือเป็นแบรนด์ลูกที่อยู่ในเครืออย่างเต็มตัว คล้ายๆกับรถยนต์หลายๆแบรนด์จากผู้ผลิตสัญชาติจีน และตัวรถรุ่นนี้ก็พึ่งถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกไปเมื่อต้นปี ก่อนที่จะถูกนำไปเผยโฉมร่างขายยุโรปอีกครั้งในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงถือว่ามันเป็นรถยนต์ที่มีความใหม่อยู่พอสมควร ก่อนถูกนำมาวางจำหน่ายในไทย
อย่างไรก็ดี แท้จริงแล้วตัวรถรุ่นนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยใช้พื้นฐานเดียวกันกับ OMODA 5 ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขุมกำลังสันดาปภายใน ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2021
ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่ามันมีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับร่างต้นเป็นอย่างมาก ด้วยขนาดตัวด้านยาว 4,400 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,830 มิลลิเมตร และด้านสูง 1,588 มิลลิเมตร
งานออกแบบเอง ก็เน้นความโฉบเฉี่ยวตั้งแต่หัวจรดท้าย ตามนิยาม หรือคอนเซ็ปท์ “Art in Motion” ทั้ง ชุดไฟ DRL พร้อมแถบไฟ LED แบบคาดยาวตามแนวฝากระโปรง, โป่งแก้มข้าง และเส้นหลังคาที่มีความลาดนิดๆคล้ายอเนกประสงค์ลุคสปอร์ตแบรนด์อังกฤษ
แต่สิ่งที่ต่างออกไปเมื่อมันถูกทำให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ก็คือการที่คราวนี้ชุดกันชนหน้าของมันได้ถูกเปลี่ยนใหม่ยกแผง ตั้งแต่ช่องกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่ถูกตัดทิ้งไป ให้กลายเป็นแบบปิดเกือบทึบ เหลือไว้เพียงช่องดักอากาศด้านล่าง และแถบไฟ LED ด้านบนก็ถูกเปลี่ยนเป็นแถบคาดขนาดใหญ่พร้อมตัวอักษร LED ชื่อแบรนด์ขนาดใหญ่ ตามด้วยกรอบไฟหน้าที่ถูกออกแบบใหม่ให้ดูมีความเหลี่ยมสันชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกนั้น ชุดกันชนท้ายก็ได้ถูกออกแบบใหม่ ให้เป็นแบบที่ดูปิดทึบมากขึ้นเพื่อหลักอากาศพลศาสตร์ และเช่นเดียวกันว่าชุดกันชนท้ายก็ถูกเปลี่ยนงานออกแบบใหม่เช่นกัน โดยจะไม่มีช่องสำหรับปลายท่ออีกต่อไป เพราะไม่มีให้ใช้แล้วนั่นเอง
ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยคอนโซลหน้าที่เน้นความเรียบง่ายและมินิมอลอย่างลงตัว โดยแทบไม่มีปุ่มกดให้กวนสายตา เว้นเพียงปุ่มปรับระบบปรับอากาศตรงกลาง และช่องแอร์ยังคงเป็นแบบปรับมือ ไม่ได้เป็นแบบปรับดิจิตอลในหน้าจอคู่ ขนาด 10.25 นิ้ว ติดตั้งแบบกึ่งลอยตัวตามสมัยนิยม
ด้านพวงมาลัยยังคงเป็นแบบมัลติฟังก์ชันตัดขอบด้านล่าง คอนโซลกลางเป็นแบบ Dual-Layer พร้อมถาดชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย กับช่องเก็บของขนาดเล็กแต่เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนชุดเบาะยังคงเป็นเบาะผ้า แบบ 2 ตอน (เบาะรองก้น+พนักหลัง หัวหมอนไม่สามารถปรับความสูง-ต่ำได้) แต่เน้นการใช้โทนสีและลายผ้าที่ดูทันสมัยเพื่อดึงดูดลูกค้าคนยุคใหม่
ด้านขุมกำลังของตัวรถ เนื่องจากดั้งเดิมร่างต้นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปล้วน ก็ไม่ใช่รถอเนกประสงค์ที่เกิดมาเพื่อแสดงความโดดเด่นในเรื่องพละกำลังอยู่แล้ว ดังนั้นตัวรถร่าง EV ของมัน จึงพกมอเตอร์ไฟฟ้ามาเพียงลูกเดียวสำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้า และสามารถทำกำลังสูงสุดได้ราวๆ 200 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดอีกราวๆ 400 นิวตันเมตร พร้อมทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.6 วินาที
ส่วนตัวแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนใต้ท้องรถ จะมีขนาด 61 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 450 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC และสามารถชาร์จไฟจาก 0-80% ได้ภายในเวลา 30 นาที ด้วยระบบชาร์จไฟแบบ DC กำลังสูงสุด 110 kW ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดนี้จะอิงจากตัวรถร่างขายยุโรปเป็นหลัก หากเป็นตัวรถสเป็คประเทศจีน อาจจะมีรายละเอียดบางส่วนที่แตกต่างออกไป
ด้านกำหนดการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Omoda 5 EV ถูกระบุว่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า และในล็อตแรกๆจะเป็นการนำรถเข้ามาวางจำหน่ายจากประเทศจีนก่อน ส่วนการผลิตตัวรถในไทย ยังต้องรอการอัพเดทข้อมูลกันต่อไป
