ท่ามกลางตลาดรถยนต์อเนกประสงค์จากกระบะ หรือ ที่หลายคนรู้จักในนาม PPV “Nissan Terra” เป็นหนึ่งในรถที่เข้ามาทำตลาด เรียกความสนใจได้มากพอสมควร แต่ความสนใจนี้ก็ยังไม่พอทำให้ยอดขายรถรุ่นนี้ก้าวเข้ามาในใจ คนมองหารถกลุ่มนี้ได้มากนัก

แม้ว่า จะมีการเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 และ มีการปรับโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2021 จนกระทั่งล่าสุด มีกระแสว่า นิสสัน อาจจะเลิกขายรถรุ่นนี้เร็วกว่ากำหนด ที่ควรจะอยู่ราวๆ 7-10 ปีนั้น ทำให้หลายคนเริ่มพูดถึงมันอีกครั้ง ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่สาเหตุที่มันไม่ปัง มีหลายปัจจัย เพราะทั้งๆที่ ใครที่เคยสัมผัส ลองขับ จะรู้ว่า รถรุ่นนี้มีดีน่าสนใจ คุ้มค่าคุ้มราคา ตอบโจทย์ สายครอบครัว ที่มองหารถคันใหญ่สำหรับเดินทางไกล พอสมควร แต่..

“มันมาทับไลน์กับ ครอสโอเวอร์”

จริงๆ ต้องย้อนกลับปในราวๆ ปี 2018 ในวันที่ นิสสัน ยังมีรถยนต์ อเนกประสงค์ Nissan X-Trail วางจำหน่ายอยู่ แล้ววันนั้น นิสสัน ก็เปิดตัวรถอเนกประสงค์ อย่าง นิสสัน เทอร์ร่า ออกมาตอบโจทย์ เพิ่มขึ้น โดยมองว่า เทอร์ร่า ใหญ่กว่า และพร้อมลุยมากกว่า ในการทำตลาดวันนั้น

ต้องยอมรับว่ามันมีคำถามที่นิสสัน เคยสอบถาม ผู้สื่อข่าวว่า ถ้าต้องเลือกระหว่าง นิสสัน เทอร์ร่า กับ รถครอสโอเวอร์ควรจะเลือกอะไร วางขายต่อไปดี ?

และ คำตัดสินใจ ส่วนใหญ่ ลงความเห็นว่าเป็น นิสสัน เทอร์ร่า แต่ที่จริงแล้ว นิสสัน ลืมมองไปข้อหนึ่งว่า ที่ผ่านมา รถอเนกประสงค์นิสสัน ที่ขายดี เป็นครอสโอเวอร์ทั้งหมด ตั้งแต่ Nissan Juke, Nissan X-Trail มาจน เป็น Nissan Kicks e-Power

พื้นฐานของลูกค้า นิสสัน ชาวไทย ไม่ใช่ลูกค้าสายครอบครัวบุกตะลุย อะไรมากมาย ลูกค้านิสัสน ยุคใหม่ที่มาถึงตลาดอเนกประสงค์ ส่วนใหญ่ก็มาแนวเติบโตมาจากรถเก๋งแทบทั้งสิ้น

ส่วนสายกระบะ โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้า สายพาณิชย์ ซื้อแคปตอนครึ่งไว้ใช้งาน มีระยะหลังนี่แหละที่ ขับสองยกสูง สี่ประตูมาขายดี ส่วนขับสี่ล้อ นี่ก็ไม่มียอดขายมากมายเท่าที่ควร

นั่นสะท้อนว่า ความจริง ลูกค้าของนิสสัน โดยมาก น่าจะอินกับครอสโอเวอร์มากกว่า รถอเนกประสงค์จากกระบะ สไตล์ PPV ซึ่งนั่นก็พิสูจน์แล้ว่าจริง จาก การมาของ นิสสัน คิกส์ใหม่

“หน้าตา ไม่โดนใจ”

ประการต่อมา ต้องยอมรับว่า ทุกครั้งที่คุยว่า Nissan Terra ทำไม ยอดเดินไม่ดี ส่วนใหญ่คนจะพูดไปในทางเดียวกันว่า หน้าตาของมัน ค่อนข้างจะสูงวัยไปหน่อย

ที่จริงแล้ว นิสสัน ไม่ได้พลาด เรื่องงานออกแบบ เพราะ รถอเนกประสงค์จากกระบะ มันก็มักจะมีดีเอ็นเอ กระบะแฝงมาด้วยตอนเทอร์ร่าเปิดตัวครั้งแรก หน้าตาของมัน แทบจะตัดแปะจากนิสสัน นาวาร่า ในเวลานั้น เปลี่ยนเพียงกระจังหน้า ทว่าก็แลดู จะโครเมี่ยมเยอะไปอยู่ดี

ตลอดจน ตอนเปิดตัวครั้งแรกนั้น เข้าใจว่าต้องการจับกลุ่มผู้ใหญ่ ที่ซื้อรถแบบนี้ไว้เที่ยวยามเกษียณ ก็เลยใช้สีโปรโมท มาเป็นสีน้ำตาล ทำให้มันยิ่งดูเหมาะกับคนวัยดึก มากกว่าเดิมยิ่งขึ้นไปอีก

ตอนปี 2021 พอเปลี่ยนโฉม ทาง นิสสัน ก็ปรับงานออกแบบมาขนานใหญ่ จนเรียกเสียงฮอือฮา ได้พอตัว กลายเป็นรถที่น่าสนใจสำหรับหลายคน

แต่ตอนออกแบบ ดันอยู่ห้องข้างๆ กับ ทีมออกแบบ Nissan Pathfinder อเนกประสงค์รุ่นใหญ่ ก็เลยได้ดีเอ็นเอ ติดปลายนวมมาด้วย เรียกว่า เหมือนเป็นพี่น้องตามออกกันมา หน้าตาของมันดูดีขึ้น หากก็ยังดูสูงวัย ไม่ได้ดูวัยรุ่น เท่าไร

แต่งานดีไซน์แบบนี้น่าจะถูกใจ ทางตะวันออกกลาง ที่ชอบรถสไตล์ลุย ดูหรู เพียงแต่มันไม่ถูกจริต แนวความคิดของคนไทย ก็เท่านั้นเอง

“คนยังไม่เก็ท กับเทอร์โบคู่”

อย่างไรก็ดี แม้ว่างานออกแบบ ตัวรถจะไม่โดนใจนัก จนต้องทำแพ็คเกจเสริมตามออกมาในภายหลัง แต่เมื่อพูดถึง เรื่องสมรรถนะ การขับขี่ รถรุ่นนี้ ไม่เป็นสองรองใคร ในตลาดเลย เพียงแต่ นิสสันพัฒนารถรุ่นนี้ออกมา ให้มันเป็นกลางในทุกด้าน จนคนส่วนใหญ่รู้สึกว่ามันไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ประเด็นหนึ่งที่ผมเคยแลกเปลี่ยนความคิดกับ เพื่อนที่ซื้อรถกลุ่มนี้มาใช้ เขามองว่า แม้ นิสสัน เทอร์ร่าจะราคาถูกกว่า รถบางรุ่นในระดับราคาเดียวกัน หากการไปต่อ หรือ นำไปแต่ง ของนิสสัน ดูจะมีคนจับทำน้อยกว่า (แม้ว่าจะทำได้ก็ตาม)

นอกจากนี้ นิสสันยังให้เครื่องยนต์แบบ เทอร์โบชาร์จคู่ ที่ถือว่า เด็ดดวงกว่าเจ้าตลาดได้รับความสนใจในช่วงแรกๆ แต่กำลังขับ 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ถือว่า ไม่ได้มากมายอะไรนัก เป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่กลับรู้สึกว่าไม่ว้าว

เทียบกับ อีกค่ายที่เขาให้เทอร์โบคู่ ค่ายนั้น ทะลุ 200 แรงม้า และมีแรงบิดพลังช้างสาร ในเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้ เครื่อง 2.3 แม้ในความจริง จะตอบสนองดี และเป็นเครื่องยนต์ที่มีการพัฒนาจากทางยุโรป

แต่เมื่อมาอยุ่ในตลาดมันกลับไม่โดดเด่นไปเสียอย่างนั้น และเมื่อเทียบกับ รถที่มีขนาดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน กำลังขับของมัน ก็แทบไม่ต่างกันเท่าไรนัก จน คนมองกลับกันว่า จะกลายเป็นว่า เทอร์โบคู่ จะสร้างประเด็นความทนทานมากกว่าเทอร์โบแปรผัน หรือไม่ เพราะ เวลาซ่อม ค่าใช้จ่าย จะเทียบเท่า X2

นอกจากนี้ อีกประการ แม้ว่าตัวรถจะมีราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับคู่แข้ง จ่ายราคานี้ได้ 190 ม้าทันที แต่ ลูกค้าบางคนที่เป็นสายใช้งาน ก็ไม่ได้ต้องการรถที่มีกำลังมากขนาดนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มขับเคลื่อนสองล้อ อาจมองหาความประหยัดน้ำมันมากกว่า ซึ่ง เทอร์ร่า ดันเป็น PPV ที่ไม่มี เครื่องยนต์ Low Power เน้นความประหยัดมาให้เลือก

ทั้งที่ นิสสัน นาวาร่าก็มี เครื่องยนต์ 2.3 ลิตรเทอร์โบเดี่ยว วางขาย และ มันน่าจะทำราคาได้ถูกลงด้วย ซึ่งจะดึงลูกค้ากลุ่มก้ำกึ่งมาได้พอตัว

ในภาพรวม Nissan Terra เป็นรถที่ดี ตอบโจทย์ในแง่ของการเป็นรถเดินทาง สาเหตุที่มันขายไม่ดี ก็มาจากทั้งมุมมองของผู้ซื้อและ ตัวผลิตภัณฑ์ ที่มีช่องว่างทางการตลาด ไม่สามารถไปเบียดกับคู่แข่งได้ เวลาลูกค้าต้องคิดตัดสินใจ

แม้ว่า ตัวรถ จะมีดี ที่พอให้หลายคนแวะเข้ามามอง หากการสร้างจุดขาย ที่โดดเด่น ชัดเจน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่