อาจจะจริงอยู่ว่า หากนับกันตามจริงแล้ว Nissan GT-R (R35) ได้ถูกเปิดตัวและยังคงถูกลากขายให้ชาวโลกได้รู้จักกันมานานนับสิบกว่าปี แต่ล่าสุดทางค่ายกลับเผยโฉมปี 2024 ของมันออกมาอีกครั้ง พร้อมกับการปรับรายละเอียดใหม่ที่ทำให้พวกเขายังสามารถลากขายมันต่อไปได้อีกเฮือก

Nissan GT-R รุ่นปี 2024 ยังคงใช้พื้นฐานเดียวกันกับตัวรถโฉมก่อนหน้าเช่นเคย แต่แน่นอนว่ามันจะมาพร้อมกับการปรับงานดีไซน์ชิ้นส่วนเปลือกนอกใหม่แทบทั้งหมด โดยเฉพาะกับกันชนหน้า ที่ถูกปรับให้ดูมีความโค้งมนมากยิ่งขึ้นเพื่อความลื่นไหลในการแหวกอากาศ แถมยังมีการเปลี่ยนงานออกแบบกระจังหน้าใหม่ ทิ้งความเป็น V-Motion ไป แล้วแทนที่ด้วยกรอบเหลี่ยม ให้ความรู้สึกคล้ายกับรุ่นพี่อย่าง GT-R R34 อยู่นิดๆ

โดยที่ตัวกระจังด้านในทั้งตัวบนและตัวล่าง จะเป็นช่องตะแกรงหกเหลี่ยมขนาดใหญ่ เพื่อลดแรงต้านอากาศ และช่วยเพิ่มปริมาณอากาศที่ไหลเข้าไประบายความร้อนเครื่องยนต์ได้มากขึ้น

เช่นเดียวกับชุดกันชนท้าย ที่ถูกออกแบบชายล่างใหม่ ให้ดูมีมิติมากกว่าเดิมตั้งแต่แนวซุ้มล้อหลัง มาจนถึงกรอบปลายท่อ และตรงกลางที่มีตะแกรง 6 เหลี่ยม ขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับฝั่งกันชนหน้า ซึ่งมันก็จะเผยให้เห็นหม้อพักท่อไอเสียได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงสปอยเลอร์หลัง ก็ยังถูกปรับใหม่ ให้ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิมเช่นกัน

ซึ่งในการปรับปรุงชิ้นส่วนเปลือกนอกทั้งหมดที่ไล่เรียงมานั้น ทาง Nissan ระบุว่ามันช่วยให้เจ้า GT-R รุ่นใหม่ ขีดความสามารถทางด้านหลักอากาศพลศาสตร์ที่ดียิ่งขึ้น แม้ว่ามันจะยังคงมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเท่าเดิมคือ 0.26 Cd

ในส่วนเครื่องยนต์ของมัน ก็ยังคงเป็นเครื่องยนต์รหัส VR38DETT แบบ V6 3.8 ลิตร เทอร์โบคู่เช่นเดิม แถมยังให้พละกำลังสูงสุดเท่าเดิมคือ 573 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด 632 นิวตันเมตร และส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ ATTESA E-TS อันเป็นเอกลักษณ์

ซึ่งหากไล่เรียงตามนี้ ทุกอย่างอาจดูคล้ายเดิม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เครื่องยนต์ได้ถูกปรับปรุงชิ้นส่วนภายในใหม่ เพื่อการเรียกรอบที่ต่อเนื่องกว่าเดิม เช่นเดียวกับท่อไอเสีย ที่มีการออกแบบท่อขดในหม้อพักใหม่ เพื่อการไหลเวียนของไอเสียที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ ในการเปิดตัวครั้งเดียวกับ ทาง Nissan ยังได้ทำการเผยโฉมตัวรถรหัส T-Spec อีกครั้ง ซึ่งในภาพรวมมันก็มีหน้าตาและชิ้นส่วนต่างๆที่ไม่ได้แตกต่างไปจาก GT-R รุ่นปกติเท่าไหร่นัก ไม่เว้นแม้กระทั่งเครื่องยนต์ที่ก็ยังคงมีแรงม้า แรงบิดเท่าเดิม

ทว่าความพิเศษของมัน ก็จะมาจากเฉดสีภายนอกเฉพาะรุ่น ที่ยังคงมีให้เลือกสองแบบ คือ Millennium Jade และ Midnight Purple, ชุดล้ออัลลอยด์ฟอร์จขนาด 20 นิ้ว แบบเดียวกับ GT-R Nismo, โป่งซุ้มล้อหน้าที่กว้างกว่าเดิม, ชุดเบรกคาร์บอนเซรามิก จาก GT-R Nismo, ฝากระโปรงคาร์บอนทำสีเคลือบ, ฝาครอบเครื่องยนต์เฉพาะรุ่น, และการตกแต่งภายในอีกเล็กน้อย

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่เราได้ทำการสืบค้นเพิ่มเติม ดูเหมือนว่า Nissan GT-R 2024 อาจมีโอกาสที่จะถูกนำเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศของเราด้วย แต่จะมีจำนวนมากน้อยแค่ไหน และจะมาครบไปจนถึงรุ่นพิเศษอย่างรหัส T-Spec ด้วยหรือไม่ ? ก็ต้องรอการอัพเดทข้อมูลกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่