ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะอยากซื้อยางรถยนต์ใหม่ๆ ติดรถสักชุด แต่ครั้นดูเงินในกระเป๋าก็ไม่ได้มีมากมาย จะซื้อบางเปอร์เซ็นต์มาใช่ก็ใช่ว่าจะถูกเสียทีเดียว นั่นทำให้เกิดยางรถยนต์ประเภทใหม่ ที่เรียกว่า “ยางเก่าเก็บ” ยางรถยนต์ใหม่คุณภาพดี ราคาย่อมเยาเพียงแต่เป็นของคงเหลือในสต๊อกร้านยาง

“ยางเก่าเก็บ” เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากบรรดาร้านค้าเริ่มทำการตลาดแบบนี้และยางบางรุ่นบางยี่ห้อลดต่ำลงจนถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งเมื่อเทียบกับยางใหม่ ทว่ามีคนจำนวนมากต่างคิดว่ายางเหล่านี้เป็นยางด้อยคุณภาพเสื่อมสมรรถนะจากการจัดเก็บ ด้วยปัจจัยทางด้านความร้อนของอากาศและจากวิธีการจัดเก็บของร้านยาง

ยางรถยนต์เก่าเก็บที่เราเห็นขายกันตามท้องตลอดอยู่มากมาย แท้ที่จริงแล้วหาได้เสื่อสภาพอย่างที่เข้าใจไม่ อาจจะจริงอยู่ที่ยางรถยนต์เหล่านี้สามารถเสื่อมประสิทธิภาพได้จากความร้อน เนื่องจากส่วนผสมสำคัญของยางที่ทำมาจากยางพาราที่เรารู้จักกัน และตามหลักวิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐานง่ายๆ เมื่อยางโดนความร้อน ออกซินเจน มันจะมีความตึงตัวเองขึ้นจนในท้าที่สุดเกิดรอยแตกลายงาที่ยาง แสดงถึงการเสื่อมสภาพของยาง

Bridgestone-Ecopia-EP300 (4)

ความเข้าใจว่าอากาศร้อน จะเป็นปัญหาต่อยาง จนด้อยประสิทธิภาพไม่ใช่ข้องกังขาใหม่ในวงการยานยนต์ จนทำให้บรรดาห้างร้านต่างไม่กล้าสั่งยางจำนวนมากมาเก็บ เนื่องจากเกรงว่าถ้าขายไม่หมดแล้วลูกค้าจะไม่ซื้อหรือต้องขายในราคาถูกกว่า เพราะมองเป็นยางเก่าเก็บ

เรื่องนี้ไม่ได้เกิดแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเมืองนอกอย่างอเมริกา จนสร้างความโกลาหลกับบรรดาร้านยางไม่น้อย และเป็นประเด็นที่หลายคนกังวล จนยังมาถึงข้อกังขาว่า ร้านที่ขายยางเก่าเก็บควรติดคำเตือนให้ลูกค้าไหม  เพื่อการตัดสินใจซื้อที่ถูกต้อง

ประเด็นดังกล่าวทำให้หน่วยงานในสหรัฐ   National  Highway Traffic Safty Administration  หรือ   NHTSA  เข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่า “ยางเก่าเก็บ” จะส่อปัญหาต่อการใช้งานหรือไม่

การทดสอบของ   NHTSA  ใช้วิธีเก็บตัวอย่างยากที่ใชแล้วมาศึกษาหากความแตกต่างในประสิทิภาพ และอีกส่วนนำมาจำลองเสมือนการใช้งานจริงจากผู้ใช้

ผลจากการวิจัยดังกล่าวทาง  NHTSA   ระบุว่ายางรถยนต์จะเริ่มเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเมื่อยางมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6 ปี ขึ้นไป แต่ยางจะเริ่มเสื่อสภาพจริงๆ ก็ต่อเมื่อยางเส้นนั้นๆ ถูกติดตั้งบนชุดล้อและเริ่มมีกระบวนการเติมลมยางพร้อมใช้งานแล้วเท่านั้น ส่วนการนับการเสื่ออายุจากการจัดเก็บยาง ทาง   NHTSA   ให้คำแนะนำว่ายางใหม่ที่ไม่ได้ถูกใช้งานมา 3 ปี จะมีอายุเท่ากับยางที่ติดตั้งในล้อครึ่งปี (6 เดือน) นั่นหมายความว่า ยางที่เก่าเก็บ 3 ปี ยังสามารถใช้งานได้อีก 4.5 ปี

Nitrogen-tire001

และถ้าเทียบอายุการใช้งานยางรถยนต์โดยทั่วไปแล้ว เจะต้องเปลี่ยนยางทุก 3-4 หมื่นกิโลเมตรในการใช้งาน ถ้าคำนวนตามการใช้งานทั่วไปของคนปกติ ก็อยู่ราวๆ 3-4 ปี หมายความว่า ยางเก่าเก็บ 3 ปี ก็ยังสามารถใช้งานได้ดี แถมมีราคาถูกกว่าด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ดี หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่ายางเก่าเก็บ 3 ปี ยังสามารถใช้งานได้ดี แม้ว่าจะขึ้นหิ้งในร้านยางมานาน ก็เป็นหน้าที่ของคุณเองที่สมควรจะต้องตรวจสอบสภาพยางเส้นนั้นๆ ก่อนที่ทางร้านจะติดตั้งสู่ล้อรถของคุณ

อย่างแรก สมควรจะดูสภาพยางและตรวจสอบวันเดือนปีบนแก้มยางให้ถี่ถ้วน ดูให้แน่ใจว่าวันเดือนปีถูกต้องไม่เกินระยะเวลา 3 ปี   และยางไม่เคยมีร่องรอยของการติดตั้งใส่ล้อชุดใดมาก่อนหน้านี้ หน้าสัมผัสยางกดแล้วยังนิดเนื้อยุบได้เป็นปกติ แก้มยางไม่มีร่องรอยบกพร่องเสียหาย เพียงเท่านี้ยางเก่าเก็บราคาถูกคุณภาพดี ก็ดูจะพร้อมสำหรับคุณแล้วครับ

อย่างไรก็ดี   NHTSA   เปิดเรื่องที่น่าสนใจต่อไปว่า ยางประเภทยางแก้มเตี้ย (Low Aspect Ratio) มีอาการเสื่อมคุณภาพน้อยกว่ายางแก้มสูง  เช่นเดียวกับยางที่มีค่าความเร็วใช้งานสูงกว่าดูจะมีการเสื่อน้อยกว่า เนื่องจากอาจจะสร้างมาดีกว่า

หลายคนกังวลมากเมื่อโดนคนพูดบ่อยๆ ว่า ยางรถยนต์ใหม่เก่าเก็บเป็นของด้อยคุณภาพ ทั้งที่ความจริงแล้วหากคุณรู้ คงไม่เชื่อว่ายางเหล่านี้มีคุณภาพในการใช้งานไม่ต่างจากยางใหม่ที่ขายราคาแพงกว่า และยางไม่ใช่อาหาหรือเบเกอร์รี่ที่ต้องการสดออกจากเตาใหม่สดเสมอ คุณเพียงต้องการให้ยางใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างที่ควรเป็น และมีข้อพิสูจนแล้วว่ายางเก่าเก็บไม่เกิน 3 ปี ยังใช้ได้ดีเหมือนใหม่เช่นกัน

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ติดตามบทความยานยนต์และรีวิวทดสอบรถได้ทาง   Facebook

 

 

 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่