Home » Riddara RD6 เผยโฉมร่าง PHEV ในประเทศจีน ราคาเริ่มต้น 635,000 บาท
รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

Riddara RD6 เผยโฉมร่าง PHEV ในประเทศจีน ราคาเริ่มต้น 635,000 บาท

RADAR หรือที่รู้จักในบ้านเรา RIDDARA เปิดตัวรถกระบะ RD6 รุ่นย่อยใหม่ที่มาพร้อมกับขุมกำลัง PHEV ครั้งแรก กับชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับตลาดโลกว่า RIDDARA RD6 EM-P

RIDDARA RD6 EM-P หรือชื่ออย่างเป็นทางการในประเทศจีนว่า RADAR King Kong EM-P มาพร้อมกับขุมกำลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่เป็นการผสมผสานกัน ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ซึ่งมีค่าประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงถึง 44.26% จับคู่กับระบบเกียร์ DHT 3 สปีด และมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว

ซึ่งทั้งหมดนี้จะให้พละกำลังสูงสุดรวมกันที่ 349 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 914 นิวตันเมตร พร้อมความสามารถในการเรียงอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 6.3 วินาที หรือหากมีการบรรทุกน้ำหนักเต็มพิกัดที่ 1,000 กิโลกรัม ตัวรถก็ยังสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 8.6 วินาที ซึ่งถือว่าไม่ขี้เหร่เลยสักนิด

ด้านความฉลาดในการกระจายแรงบิดของระบบขับเคลื่อน ทาง RADAR ระบุว่าตัวระบบจะสามารถตอบสนองการทำงานได้ภายในเวลาเพียง 20 มิลลิวินาที จึงทำให้ลูกค้าสามารถงานรถในโหมด หิมะ, โคลน, ออฟโรด, และทราย ได้อย่างสบายใจแน่นอน ว่าหากไม่มีอะไรสุดวิสัยจริงๆ ยังไงรถก็ไปรอด

และด้วยแรงบิดมหาศาล จึงทำให้รถสามารถปีนป่ายทางชันได้สูงสุดถึง 45 องศาเมื่อวิ่งตัวเปล่า หรือหากมีน้ำหนักบรรทุกเต็มพิกัด 1 ตัน ก็ยังสามารถไต่เนินชันระดับบ 33 องศาได้อีก

ในส่วนแบตเตอรี่ที่ติดรถมา จะเป็นแบตเตอรี่ LFP ขนาด 19.09 kWh ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้รถสามารถวิ่งด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุดกว่า 100 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC หรือหากเป็นการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ พร้อมน้ำมันเต็มถัง 60 ลิตร ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยนที่ 1.5 กิโลเมตร/ลิตร ก็จะทำให้รถคันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 1,068 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 1 ถัง+แบตชาร์จเต็มประจุ 1 ครั้ง บนมาตรฐาน CLTC

แต่หากแบตเตอรี่ไฟหมดเกลี้ยง เมื่อเครื่องยนต์ต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถด้วยตัวเองเพียงอย่างเดียว มันก็จะมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 15.6 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าแย่อะไร หากมองว่ามันคือเครื่องยนขนาดเล็กที่ต้องแบกน้ำหนักตัวรถราว 2 ตันเอาไว้

นอกนั้นในส่วนของงานออกแบบตัวรถ ถือว่าแทบไม่ได้มีความแตกต่างจากรุ่นที่ใช้ขุมกำลังพลังงานไฟฟ้าล้วนมากนัก เว้นแค่เพียงดวงไฟหน้า ที่ไม่ใช่ดวงไฟแบบ LED Reflector ดังเดิม แต่ใช้ดวงไฟ LED Projector ขนาบข้างด้วยแถบไฟ DRL แทน

ขณะที่มิติตัวรถอื่นๆยังคงเดิม ทั้ง มิติด้านยาว 5,260-5,500 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,900 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,865 มิลลิเมตร กับระยะฐานล้อ 3,120 – 3,310 มิลลิเมตร แล้วแต่ว่าลูกค้าจะเลือกรุ่นฐานล้อยาว หรือฐานล้อปกติ

ส่วนราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของตัวรถรุ่นนี้ จะแบ่งออกเป็นลำดับ ตาม 3 รุ่นย่อยคือ

  • Radar King Kong EM-P 1000km Standard Bed : ราคา 139,800 หยวน หรือราวๆ 635,000 บาท
  • Radar King Kong EM-P All-Round Long Bed : ราคา 149,800 หยวน หรือราวๆ 681,000 บาท
  • Radar King Kong EM-P Intelligent Long Bed : ราคา 159,800 หยวน หรือราวๆ 726,000 บาท

ขณะที่โอกาสถูกนำมาทำตลาดในไทย ต้องบอกว่ามีแน่นอน เนื่องจากอย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าตัวรถได้มีการเตรียมทำร่างขายในตลาดโลกไม่ใช่แค่ในประเทศจีน แต่มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ อย่างไรนั้น ก็รอติดตามดูกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.