Home » MPV- PPV สายครอบครัว เลือกคันไหนดี
รถใหม่ เปรียบเทียบรถใหม่

MPV- PPV สายครอบครัว เลือกคันไหนดี

เมื่อเริ่มสร้างครอบครัว คนจำนวนไม่น้อยก็ถือโอกาสเปลี่ยนรถยนต์คันเก่าที่ใช้ไปสู่คันใหม่ เพื่อรองรับอนาคต รถที่นิยมถูกมอง ส่วนใหญ่จะเป็นรถ SUV โดยเฉพาะ รถอเนกประสงค์จากกระบะ อยู่คู่คนไทนยมาช้านาน จนเป้นวัฒนธรรมของต้องมีแบบหนึ่ง ทัง้ที่ MPV อาจจะตอบโจทย์มากกว่าก็เป็นไปได้

ค่านิยมคนไทยในการซื้อรถสำหรับครอบครัว มักจะเริ่มต้นที่ PPV และเป็นแบบนี้มาช้านาน ด้วยการออกแบบตัวรถให้มีขนาดใหญ่ เทียบเท่ารถอเนกประสงค์ขนาดกลาง เมื่อมีพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ หลายคนก็มองว่าเหมาะกับการใช้งานแบบครอบครัว ราคาก็ไม่ได้รุ่นแรงมาก แถมผู้ผลิตเริ่มนำเสนอออกมาเป็นรถแบบ 7 ที่นั่ง ทุกอย่างดูลล๊อกเป๊ะ ในการใช้งานแบบครอบครัว

MPV คันนี้เกิดมาเพื่อครอบครัวจริงๆ

เรื่องราวของ PPV เกิดขึ้นในยุค MPV กำลังอำลา แมเไม่กี่ปีที่ผ่านมา รถแบบนี้เริ่มกลับมานิยมจากรถขนาดเล็กกลุ่ม mini MPV อาทิ Suzuki Ertiga, Mitsubishi Xpander จนปัจจุบัน เรามี Nissan Serena ก้าวเข้ามาทำตลาดอีกรุ่น

MPV เป็นรถครอบครัวขนานแท้ มุ่งเน้นลูกค้าใช้งานบนถนนทั่วไป ต้องการรถที่ขับดีแบบเก๋ง แต่อยากได้ความสบายในการโดยสาร มีพื้นที่และความอเนกประสงค์เพิ่มเติม ดั้งเดิมเริ่มในกลุ่ม Mid Size MPV อาทิ honda Strem, Toyota Wish ก่อนจะมาถึงยุค PPV เนื่องจากราคาค่อนข้างแพง ส่วนใหญ่นำเข้า มีบางรุ่นที่ประกอบจากดรงงานในไทย และที่สำคัญรถนำเข้าส่วนใหญ่ ​คุณภาพการประกอบจากอินโดนีเซียในยุคก่อนยังไม่ดีแบบทุกวันนี้ จนทำให้ลูกค้าเริ่มผละมือออกมาเรื่อยๆ

ถ้าจะว่ากันถึงข้อดี ของ รถ MPV คือมันเกิดมาด้วยวัตถุประสงค์ใช้งานแบบขนคน หรือ People Mover ขนานแท้ การออกแบบตัวรถ ส่วนใหญ่ จึงจะโฟกัสไปที่ การจะต้องมีห้องโดยสารนั่งสบาย นั่นรวมถึงการวิศวกรรมโครงสร้าง และช่วงล่างเป็นพิเศษด้วย

ส่วนตัวรถก็ยังต้องมาเป็นทรงที่คนนั่งสบาย ปลอดโปร่ง เดินทางไกลได้ และสำคัญสุด ต้องมีพื้นที่การโดยสารมากพอกับผู้โดยสาร 7 ที่นั่งจะต้องใช้งานได้จริง และสะดวกสบายด้วย

อย่าแปลกใจ ถ้าคุณขึ้น MPV แม้แต่รุ่นที่เล็กที่สุดในตระกูล Mini MPV อาทิ Mitsubishi Xpander แล้วพบง่า พื้นที่ในการโดยสารรวมดีกว่า รถอเนกประสงค์คันโต สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ทุกแห่ง

เว้นเพียงคุณจะสมบุกสมบุน เข้าป่าฝ่าดงแบบนั้น รถ MPV ไม่ตอบโจทย์ หรือที่ตอบโจทย์ก็มี แต่ก็มีเพียงแบรนด์เดียวและไม่เคยขายไทยในรุ่น พร้อมลุยมาก่อน

ไม่เพียงความสบายเท่านั้น ด้วยเนื้อแท้ที่ออกมาเพื่อความเป็นครอบครัว และใช้งานเพื่อการเดินทาง การขึ้นลงรถ จะต้องสะดวก เราจึงมักพบว่า รถ MPV ชอบออกแบบพื้นเตี้ย ขึ้นลงง่าย ประตุหลังเปิดได้กว้าง บางรุ่นอาทิ Nissan Serena หรือ Honda Freed จะมาพร้อมประตูสไลด์ไฟฟ้า หากที่บ้านมีผู้ใหญ่ก็สามารถไปได้สบาย และยังมีความประหยัดน้ำมันมากกว่า หรือ ใกล้เคียงกับรถเก๋งด้วย

แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันมีราคาค่อนข้างแพง แลกกับความสบายในการโดยสาร และฟังชั่นการใช้งาน รวมถึงความสามารถในการขนคน ทำให้ผู้ผลิตมองถึงคุรค่าตัวรถ ที่ทำได้ดีรอบด้าน ยกเว้นเรื่องลุย จึงวางราคามาค่อนข้างแพงเอาเรื่อง

PPV ผู้ถูกตราหน้า นี่แหละรถครอบครัว

กลับมาฝั่ง PPV ผู้รับไม้ต่อมา MPV ยุคก่อน

สาเหตุที่ PPV กลายร่างมาเป็นรถพ่อบ้านนั้น เกิดจากการก้าวเข้าสู่ยุคยุคเติมที่นั่งมาให้ โดยสารได้ 7 ที่ ประกอบกับปัจัยทางด้านราคาจำหน่ายที่ไม่ได้แพงจนเกินงาม ทำให้คนหันมามองพวกมัน

ในยุคก่อน ตั้งต้น รถ PPV มันเป็นรถแบบ 5 ที่นั่ง คนยุคเก่า ตะเรียกรถแบบนี้ว่ารถตรวจการณ์ เนื่องจากมีความสามารถในการบุกผ่าฝ่าดง ผ่านทางยากลำบาก ถึงไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ก็ยังพอจะพาไปถึงที่หมาย จากกายภาพตัวรถที่ออกแบบมาใต้ท้องสูง

เมื่อบวกกับความคุ้นชินของคนไทยมาช้านานว่า เครื่องยนต์ดีเซล = ความประหยัด รวมถึงตัวรถที่มีทรวดทรงขนาดใหญ่ ทั้งหมดกลายเป็นสูตรสำเร็จในความลงตัว เหมาะต่อคำว่าครอบครัว

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ และแม้แต่น้องทีมงาน Ridebuster เราอย่างเจ้าปอพันม้าพลังพันธุ์โม้ ที่มีลูกไปก่อนผมก็ใช้ PPV ในฐานะรถครอบครัว พ่อแม่น้องเข้ายังอยู่ และปอเองก็มีลูก 2 คน บวกภรรยา เมื่อบวกข้าวของที่ขับออกทริปที ก็ไม่ต่างจากย้ายบ้านมากกว่าไปเที่ยว

แถมในหลักเศรษฐศาสตร์เมื่อคุณมีศรีภรรยา จะเสนออะไรก็ต้องผ่านครม. ก่อน รถ PPV แม้ไม่ได้สบายที่สุดในการโดยสาร แต่ราคาของมันนั้นได้ ปัจจุบัน ราคาเริ่มต้นเพียง 1.1 -1.2 ล้านบาทเท่านั้น แถมเป็นรถดีเซลค่าน้ำมันถูก และยังตอบสนองต่อการใช้งานได้อย่างครบครัน มี 7 ที่นั่ง รวมถึงพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ หรือพูดง่ายๆ มันดูแล้วค่อนข้างคุ้มค่า

แต่ผมจะพูดต่อไปว่า จริงๆ มันมีบางอย่างที่ใครคิดว่าจะใช้งานในแบบครอบครัวควรรู้

  1. เครื่องยนต์ดีเซลประหยัดน้ำมันไม่มากที่คิด เนื่องจากรถมีขนาดใหญ่แบกน้ำนหักตัวเยอะ มีดี เพียงราคาน้ำมันต่อลิตถูก และไม่ผันผวนมากเท่าดีเซล
  2. เบาะ 7 ที่นั่งใน PPV นั่น ส่วนใหญ่จะเป็นเบาะแบบ 5+2 ผมเคยเล่าไปแล้วก่อนหน้าในบางบทความ คือมันรองรับการโดยสารจริงๆ 5 คน ส่วน อีก 2 ที่นั่งเป็นเบาะเสริมขึ้นมา
  3. ความสูงตัวรถจากพื้น อาจเป็นปัญหากับผู้ใหญ่วัยเกษียณ ที่ต้องปีขึ้น-ลง ถ้าท่านไม่ไปบ่ายๆ ก็เข้าใจได้ ถึงจะพูดแบบนั้นในวันที่เราอาจต้องพาท่านไปโรงพยาบาล หาหมอในฐานะลูกกตัญญู ก็ไม่สามารถจะเลี่ยงได้
  4. ช่วงล่างรถแบบนี้ทำออกมาติดแข็งสักหน่อย เนื่องจากมันถูกเซทมาเผื่อการฝ่าทางสมบุกสมบัน มีไม่กี่รุ่นที่ช่วงล่างติดนุ่ม ขับและนั่งสบาย จริงๆ

ที่ผมพูดมาทั้ง 4 ข้อ เป็นสิ่งที่ควรพิจารณ์อย่างยิ่ง จากประสบการณ์จริง

จนล่าสุดผมพบเจ้าปอบอก พี่ผมว่าจะเปลี่ยนละ แต่ก็ไม่รู้นะว่ามันจะเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนอย่างไร

สรุป- ใช้งานแบบครอบครัว สมควรเลือกใคร

มาถึงบทส่งท้ายในประเด็นนี้ หากต้องการนำรถทั้ง 2 แบบ มาใช้งานแบบครอบครัว คันไหนดี เวิร์ค และถูกโจทย์

แน่นอนครับ ถ้าคุณจ่ายไหว ผมจะบอกว่า ไป MPV เลย ถ้านั่ง 7 ที่นั่งกันบ่อยๆ ก็ติด แร็ค+กล่องหลังคาเพิ่มได้ความสบายในการโดยสารอีกพอสมควร ไม่ต้องกังวลสัมภาระ

สิ่งเดียวที่จะต้องคิด นั่นคือ สุ้ราคารถไหวมั้ย แถมปัจจุบัน รถ MPV ใหม่ป้ายแดง ดันมีไม่ครบทุกขนาดความต้องการ บ้านเรา จะมีเพียง Mini MPV พวก Xpander- Ertiga แล้วข้ามไปสู่ Mid Size MPV อาทิ Nissan Serena , Toyota Innova

ไม่มีกลุ่ม Compact เช่น Honda Freed ซึ่งคนไทยจำนวนมากอยากเห็นมันกลับมาขาย แต่ได้ยินมาว่า เขาบอกว่า ไม่คุ้มทั้งๆที่มีแฟน และคนรอซื้อเพียบ นับว่าน่าเสียดายมากๆ

ถ้าใช้รถทั่วไป ขับทางดำ 80-90% ไม่ได้พาลูกลุยป่า รับส่งโรงเรียน ต้องการช่วงล่างนุ่มนวลนั่งสบาย คนโดยสารคือสวรรค์ คนขับคือสารถี รถแบบนี้เหมาะครับ เพียงแต่ภาพลักษณ์คนใช้ จะเป็นพ่อบ้านแม่บ้านไปเลย ไม่เท่ห์ไม่เฟี้ยว

อย่างไรก็ดี ประเทศไทย ไม่ได้มีแค่หัวเมืองใหญ่ หรือกรุงเทพมหานคร เท่านั้น ถ้าชีวิตคุณยังต้องเดินทางไกลบ่อยๆ ขับรถในเส้นทางสมบุกสมบันบ้าง มีรถหลายคันในบ้าน วันธรรมดาพาลูกไปโรงเรียนด้วยรถเก๋ง

แบบนี้ PPV เหมาะเลย เพราะสามารถแยกฟังชั่นการใช้งานได้ชัดเจน รถราคาไม่แพง เน้นเอาไว้ไปเที่ยวอย่างเดียว คือถูกต้อง

ดังนั้น ไม่ว่า MPV – PPV ทั้งคู่มีดีมีด้อยต่างกัน หน้าที่ผมไม่ใช่ฟันธงว่า คันไหนดีกว่าคันไหนโดยตรง เราอยากให้คนอ่านได้คิอ แล้วเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเหมาะกับวิถีชีวิตเขามากที่สุด แล้วซื้อรถที่ตรงใจกับความต้องการตัวเองมากที่สุดครับ

💡 ถ้าขับในเมือง มีลูกเล็ก ชอบนั่งสบาย – MPV คือตอบโจทย์
💡 ถ้ามีรถหลายคัน ใช้เที่ยว แบกของ ลุยเส้นทางไกล – PPV คือคำตอบ
🚫 รถทุกคันไม่ได้เกิดมาให้เหมาะกับทุกคน – แต่เราต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเอง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.