นอกจากจะเปิดตัวและขาย GEELY EX2 แล้ว ธนบุรีนอยสเติร์น ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการมีเซอร์ไพรส์กับการโชว์ตัวของ GEELY STARRAY EM-i
GEELY STARRAY EM-i เอสยูวีพื้นฐานเดียวกับรุ่น EX5 มาพร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ล้ำสมัยที่สุดในเวลานี้ หล่อตั้งแต่ กระจังหน้าแบบทึบช่วยลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ไฟหน้า LED Daytime 3 ดวงและเส้นแนวยาวซ้าย-ขวาในโคมเดียวกัน ไฟ LED เส้นเล็กใต้ไฟด้านหน้า
มีหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ พร้อมราวหลังคา คิ้วขอบล้อสีดำ ไฟท้าย LED แนวยาว ติดตราโลโก้ตัวอักษร GEELY ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า กันชนหลังดีไซน์ลงตัวกับตัวรถ และล้อแม็กซ์ให้เลือกทั้งขนาด 18-19 นิ้ว
ภายในมาพร้อมระบบห้องโดยสารอัจฉริยะ FLYME Auto พร้อมออปชันหลากหลายทั้ง แผงคอนโซลหน้าที่เรียบง่ายตั้งแต่มาตรวัดสีดิจิทัล LCD ขนาด 10.2 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.4 นิ้วชัดแบบ 2.5k HD ผ่านชิป Dragon Eagle-1 ชิขนาด 7 นาโนเมตร ทำหน้าที่ขับเคลื่อน HMI ของรถยนต์
ระบบ FLYME Auto HMI ที่ Meizu จัดหาให้ การใช้ระบบนี้ทำให้รถมีความสามารถด้าน AI และรองรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น การควบคุมด้วยเสียง ข้อความ และเพลง จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า HUD ขนาด 13.8 นิ้ว
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านแบบหัวตัดท้ายตัด ช่องแอร์โครเมียมคอนโซลกลางมีช่องเก็บของ ที่ชาร์จมือถือไร้สายคู่กำลัง 50 W ลำโพง FLYME 16 จุดรอบคัน กำลังขับ 1,000 Wที่เสียบ USB 4 จุด เครื่องปรับอากาศแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวาพร้อมช่องแอร์ด้านหลัง ไฟส่องสว่างภายใน Ambient Lighting 256 สี
ขุมพลังปลั๊กอินไฮยบริด EM-i บนพื้นฐานเบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 99 แรงม้า แรงบิด 125 นิวตันเมตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 262 นิวตันเมตรพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต LFP ขนาดความจุ 18.4 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ารวม 262 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 1 สปีด Dedicated Hybrid Transmission อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 8.0 วินาที
วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าล้วนทำได้ 83 กิโลเมตร (WLTP) แถมยังให้ระยะทางรวมต่อการชาร์จและการเติมน้ำมัน 1 ถัง 943 กิโลเมตร (WLTP) ชาร์จได้ทั้ง DC รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 30 kW 30-80% ภายใน 20 นาทีและชาร์จ AC 6.6 kW ได้
พร้อมโหมดการขับขี่ Pure/Hybrid/Power ฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) 3.3 kW สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานได้ รวมทั้งยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่น เพื่อรีชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพและระบบความปลอดภัยแบบ L2-ADAS (Level 2 Advanced Driver Assistance System) โดยเตรียมโขว์ให้ชาวไทยได้รู้จักก่อนมีแผนที่จะขายจริงเร็วๆนี้ที่งาน Motor Expo 2025