ขณะที่เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนในรถยนต์ไฟฟ้า ค่อยๆก้าวล้ำมากขึ้นไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่าช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง มันก็ช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีของรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดเช่นกัน และ Geely Galaxy A7 คือหนึ่งในตัวอย่างชั้นดีเกี่ยวกับเรื่องนี้

Geely Galaxy A7 ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของแบรนด์ Samsung แต่เป็นเป็นรถยนต์รุ่นใหม่จากแบรนด์ Geely ที่พึ่งถูกเปิดตัวออกมาเพื่อตีตลาดรถยนต์ซีดานขนาดกลางในประเทศจีน เซ็กเมนท์เดียวกับ Toyota Camry ที่เราคุ้นเคยกันดี
โดยจุดขายของตัวรถรุ่นนี้ ก็คือขุมกำลัง ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ของมัน ที่ประกอบไปด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กับมอเตอร์ลูกเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้หากแบตเตอรี่มีกระแสไฟเต็มความจุด และน้ำมันเต็มถัง 1 ถัง มันก็จะสามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 2,100 กิโลเมตร ด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 2 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 50 กิโลเมตร/ลิตร นั่นเอง
ส่วนระยะทางในการขับเคลื่อนสูงสุดด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าล้วน ก็คาดว่าจะอยู่ที่ราวๆ 150-180 กิโลเมตร/ชาร์จ เนื่องจากรุ่นพี่ที่มีขนาดใหญ่กว่าแต่ใช้ขุมกำลัง และแบตเตอรี่รูปแบบเดียวกันอย่าง Geely Galaxy Star 8 สามารถทำตัวเลขได้ราวๆ 130 กิโลเมตร/ชาร์จ นั่นเอง
ด้านข้อมูลมิติตัวรถ เราก็จะพบว่ามันมีขนาดตัวด้านยาว 4,918 มิลลิเมตร กับระยะฐานล้ออีก 2,845 มิลลิเมตร ทำให้มันมีความใกล้เคียงกับ Toyota Camry ที่มีตัวถังยาว 4,920 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,825 มิลลิเมตร เป็นอย่างมาก และเผลอๆอาจจะทำให้ห้องโดยสารมีความสะดวกสบายกว่า เพราะฐานล้อยาวกว่ากันอยู่ 20 มิลลิเมตร อีกด้วย
ส่วนงานดีไซน์ตัวรถ ก็จะเน้นไปที่การใช้เส้นสายเรียบง่าย ดูดี มีมิติให้เล่นกับแสงเงาเล็กน้อยตามแนวแก้มข้างและบานประตู ขณะที่แนวหลังคา กลับมีการแบ่งทรงเป็นแบบ “Three-Box” ชัดเจน ระหว่างโซนห้องเครื่อง, ห้องโดยสาร, และห้องสัมภาระท้าย
ซึ่งเป็นงานดีไซน์ที่ค่ายญี่ปุ่นไม่นิยมใช้กันแล้วในปัจจุบัน เนื่องจากพวกเขาต้องการเพิ่มพื้นที่เหนือศรีษะภายในห้องโดยสารตอนหลัง โดยการใช้แนวหลังคาช่วงท้ายแบบรถ Fastback มากกว่า
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการออกแบบหลังคาในลักษณะรถซีดานแบบดั้งเดิมของเจ้า A7 คันนี้จะทำให้ที่ว่างเหนือศรษะผู้โดยสารตอนหลังแคบกว่าแต่อย่างใด เพราะกว่าที่แนวหลังคาจะลดหลั่นลงมาจรดแนวขอบไฟท้ายอย่างชัดเจน ก็คือช่วงแนวพนักหลังของเบาะแถว 2 ไปแล้ว
โดยที่กันชนหน้ามีการออกแบบให้ชายล่างมีความยื่นยาวเล็กน้อยเพื่อเพิ่มลุคโฉมเฉี่ยว และไฟหน้าทรงนอนยาว คาดแนวรับกับเส้นวาดใต้ฝากระโปรงหน้า โดยที่กระจังหน้าเป็นแบบทึบ เนื่องจากโยนหน้าที่การรับลมไปไว้ที่ช่องเหนือชายล่างกันชนหน้าทั้งหมดแล้ว
และด้านท้ายรถ ก็จะยังคงใช้งานดีไซน์ไฟท้ายแบบ Cross Tail Light และทำดีไซน์ฝาท้ายให้มีความเป็นจงอยตูดเป็ดเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม และรับกับเส้นสันบนกันชนท้ายในภาพรวมได้เป็นอย่างดี
ภายในห้องโดยสาร คุ้นเคยด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้านแบบตัดตูด และหน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถแบบลอยตัวจากคอนโซล ขนาด 10.2 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลข้อมูลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 15.4 นิ้ว แบบเดียวกับ Geely EX5 ที่ทำตลาดในบ้านเราแล้วเป็นที่เรียบร้อย
นอกนั้นคอนโซลหน้าและแผงประตู จะเน้นความเรียบง่าย แต่มีลูกเล่นตัดโทนเรียบหรูเล็กน้อย ด้วยแถบช่องแอร์สีเงิน และขั้นกลางครึ่งล่างสีเทาด้วยแถบไฟ Ambient Light และคอนโซลกลางก็จะเป็นที่ตั้งของแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และปุ่มลูกบิดปรับตำแหน่งเกียร์ กับปรับการทำงานของโหมดการขับขี่ และอื่นๆอีกเล็กน้อย ตามด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระ ทั้งช่องวางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง ช่องเก็บของตรงกลางใต้ที่พักแขน ซึ่งหากไม่พอ ยังมีช่องเก็บของด้านล่างคอนโซลกลางอีก
และในส่วนของเบาะนั่งทุกตำแหน่งจะถูกหุ้มด้วยหนังเจาะรู้ลดความร้อนสะสม และแน่นนอนว่าตัวเบาะคู่หน้าจะมีการติดตั้งระบบทำความร้อน และเป่าลมในตัว รวมถึงปรับตำแหน่งด้วยไฟฟ้ามาให้ครบๆ
ส่วนราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมา เนื่องจากกำหนดการวางขายจริงของตัวรถรุ่นนี้ คือช่วงปลายปี 2025 นั่นเอง