Ford Ranger MS-RT เดิมที่ก็ได้ชื่อว่าเป็นกระบะที่พร้อมซิ่งมากกว่าใครอยู่แล้วในเวอร์ชันแรก ล่าสุดมันยังมีเวอร์ชัน 2 เปิดตัวตามออกมาอีก โดยมีไฮไลท์สำคัญที่เปลี่ยนไป นั่นคือการหันไปใช้เครื่องยนต์ PHEV ที่มีเรี่ยวแรงจัดจ้านมากกว่าเดิมแทน

Ford Ranger MS-RT “PHEV” คือทางเลือกใหม่ของผู้ใช้รถกระบะในยุโรปที่ทาง Ford ทำเพิ่มขึ้นมาขายคู่กับรุ่นเดิมที่ใช้ขุมกำลังดีเซล V6 เทอร์โบ 3.0 ลิตร

โดยเพียงแค่มีรหัส PHEV ต่อท้าย หลายคนก็สามารถนึกออกได้ทันทีว่าเจ้ารถคันนี้ คือรุ่นที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง เทอร์โบ ขนาด 2.3 ลิตร ที่จะผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 1 ลูก เพื่อให้กำลังสูงสุดรวมกันที่ 281 แรงม้า PS และมีแรงบิดสูงสุดอีก 697 นิวตันเมตร

ซึ่งหากเทียบกับตัวรถ Ranger MS-RT ขุมกำลังดีเซลที่มีอยู่แล้ว ก็หมายความว่าไลน์อัพใหม่นี้ จะยิ่งมีพละกำลังมากขึ้นกว่าเดิม 41 PS (Ranger MS-RT เครื่องยนต์ดีเซล V6 3.0 ลิตร เทอร์โบ ของสเป็คยุโรป ถูกจำกัดแรงม้าไว้ที่ 240 PS น้อยกว่าสเป็คที่ทำตลาดในไทยอยู่ 10 PS) และมีแรงบิดที่มากขึ้นกว่าเดิมถึง 97 นิวตันเมตร ก่อนที่จะส่งกำลังไปขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 แบบ e4WD ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด

และด้วยความเป็นรถขุมกำลัง PHEV จึงทำให้มันสามารถขับเคลื่อนด้วยโหมดพลังงานไฟฟ้าล้วนได้ไกลสุดที่ 40 กิโลเมตร/ชาร์จ จากแบตเตอรี่ขนาด 11.8 kWh ขณะที่ขีดความสามารถในการบรรทุกสัมภาระน้ำหนัก 1 ตัน และการลากจูงอีก 3.5 ตัน ยังคงเดิม ไม่ได้ถูกลดทอนไปจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล

ส่วนการตกแต่งอื่นๆของตัวรถ ก็จะคล้ายกันกับรุ่นขุมกำลังดีเซล เริ่มจากงานตกแต่งภายนอก ที่ได้ความพิเศษจาก กระจังหน้าแบบรังผึ้ง, กันชนหน้าที่เตี้ยกว่า และมีช่องดักลมใหญ่กว่า Ranger รุ่นปกติ พร้อมครีบไล่ลมอย่างดี, แก้มข้างด้านหน้า และแก้มข้างกระบะหลัง ถูกตีโป่ง เพื่อเพิ่มความกว้างซุ้มล้อและฐานล้อซ้าย-ขวา, เสริมสปอยเลอร์ตูดเป็ดที่กระบะท้าย, เปลี่ยนกันชนท้ายให้เป็นแบบมีครีบดิฟฟิวเซอร์, และใช้ชุดล้อลายเฉพาะตัวขนาด 21 นิ้ว

โดยทั้งหมดล้วนเป็นงานตกแต่งเดียวกันกับรุ่นดีเซล เว้นเพียงแต่คุณจะสังเกตเห็นว่ารถมีฝาเติมน้ำมัน 2 จุด นั่นคือฝาเติมน้ำมันเดิม และฝาใหม่ ที่ถัดมาทางด้านหลัง ซึ่งมีไว้ปิดพอทชาร์จไฟต่างหากอีกจุดนึง

หรือไม่เช่นนั้น ก็อาจจะต้องสังเกตจากเฉดสีตัวถัง ซึ่งในคราวนี้ได้มีการเพิ่มเฉดสี Turini Purple เข้าไป แต่ถ้าลูกค้าที่ซื้อรถขุมกำลังดีเซลในปีล่าสุดไปอยากได้สีนี้ พวกเขาก็สามารถสั่งทำได้เช่นกัน

ภายในห้องโดยสารเอง ก็ยังคงตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัดเย็บด้วยตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน ตามจุดต่างๆรอบคัน, โดยเบาะนั่งยังมีการปรับทรงใหม่เล็กน้อยให้มีปีกข้างสูงขึ้นเล็กน้อย และยังวาดลวดลายแบบธงตราหมากรุกสัญลักษณ์ของสำนัก MS-RT ลงไปบนชิ้นรองนั่งและพนักหลัง, พวงมาลัยหุ้มหนังสังเคราะห์ และหนังกลับเดินตะเข็บด้ายสีน้ำเงิน, และมีการติดตั้งเพลท MS-RT เข้าไปที่ฐานคันเกียร์ กับพรม MS-RT อีก เพื่อบ่งบอกความเฉพาะตัว

นอกนั้นตัวรถยังคงจัดเต็มด้วยออพชันตัวท็อป ทั้ง หน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12 นิ้ว, ระบบปรับอากาศแบบแยกส่วนซ้าย-ขวา, และระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่มีฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน

ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทาง Ford ยุโรป ยังไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขออกมา เนื่องจากกำหนดการส่งมอบรถจริงๆจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า

ส่วนใครที่รอคอยการมาของรถรุ่นนี้ อาจจะต้องรอการอัพเดทกันต่อไป เพราะ Ford Ranger PHEV ที่จะใช้เป็นร่างพื้นฐาน ให้กับ MS-RT PHEV ยังไม่มีแผนวางจำหน่ายในประเทศไทยเลยนั่นเอง