หลังเปิดตัวไปแล้วสำหรับ Nissan Leaf เจเนอเรชันที่ 3 ร่างใหม่เอสยูวีนอกจากเตรียมทำตลาดโลกแล้วในบ้านเกิดที่ญี่ปุ่นก็เตรียมทำตลาดเช่นกัน
ด้วยตัวรถเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแปลกแตกต่างและสำคัญที่สุด มาพร้อมความเป็นอเนกประสงค์มากขึ้น สำหรับ Nissan LEAF เจนที่ 3 ไม่เพียงความทันสมัย มันยังถูกใส่ใจเรื่องค่าสัมประสิทธิ์เสียดทานอากาศ ต่ำสุด 0.25 Cd สำหรับรุ่นที่ขายในญี่ปุ่น พร้อมใบหน้าหน้า แบบ Evolved V Motion ที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เราคุ้นหน้าตากันอย่างสิ้นเชิง
กระจังหน้าออกแบบใหม่พร้อมแถบไฟด้านหน้า และตราโลโก้ นิสสัน 3 มิติให้ความทันสมัยมากขึ้น ส่วนด้านหลังมาพร้อมไฟท้าย 3 มิติ เอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เป็นงานออกแบบ ที่ทางนิสสัน เรียกว่า Digital Zen ล้อ 19 นิ้ว กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในรถรุ่นนี้ ให้ความเต็มดูสปอร์ตลงตัวมากขึ้น
ส่วนภายในห้องโดยสาร ปรับให้มีความทันสมัย และมีความมินิมอลในแบบญี่ปุ่น ด้วย จอภาพคู่ขนาด 12.3 แนวนิ้ว และ 14.3 นิ้ว ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องเสียงจากทาง BOSE โดดเด่นด้วยลำโพงหัวหมอน ให้มาครบเครื่องตอบสนองต่อความต้องการในเรื่องความสุนทรีย์
นอกจากนี้ นิสสัน ยังนำเสนอ Dimming Panoramic Roof ครั้งแรกในรถยนต์นิสสัน มีคุณสมบัติในการกันความร้อน รวมถึง มันยังใช้ Polymer Dispersed Liquid Crystal (PDLC) technology ซึ่งเพียงปุ่มเดียวก็ตัดแสงจากภายนอกใ้ความสบายในการโดยสารมากขึ้นได้ทันที
ด้านระบบขับเคลื่อน ถือเป็นไฮไลท์หลัก ด้วยการประยุกต์ 3 ชิ้นส่วนสำคัญเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อน , อินเวอร์เตอร์ และ หน่วยควบคุม ลดขนาดจากเดิมถึง 10% มอเตอร์รุ่นใหม่ ยังถูกปรับปรุงในส่วนของจุดติดตั้งให้มีความแข็งแรงมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 75% ลดการสั่นสะเทือนในระหว่างการขับเคลื่อน
แบตเตอร์รี่ปรับปรุงใหม่ มาใช้การระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมฟังชั่นในการควบคุมอุณหภูมิในการใช้งานให้เหมาะสม ตามสภาวะต่างๆที่ต้องการด้วยการนำเสนอ แบตเตอร์รี่ขนาด 55 กิโลวัตต์ มาพร้อม มอเตอร์ขับเคลื่อน ให้กำลังขับสูงสุด 130 Kw แรงบิด สูงสุด 345 นิวตันเมตร ทางด้านรุ่นแบตเตอร์รี่ 75 Kw ทาง นิสสัน นำเสนอกำลังขับ 160 Kw แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตร รุ่นนี้สามารถชาร์จ 10-80% ได้ในเวลา 35 นาที
ยังอัดฟังชั่นเพิ่มระยะทางมากมาย ไม่เพียงแค่เรื่องของระบบช่วยจัดการพลังงานและแบตเตอร์รี่เท่านั้นมาพร้อม Intelligent Distance Control Assist ระบบนี้จะทำการประมวลในการขับขี่ โดยจะเว้นระยะห่างและสร้างการรีเจนที่เหมาะสม ในการขับขี่ในเมือง เพื่อให้มีระยะทางเพิ่มขึ้นอย่างเหมาะส มและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้นด้วย
รวมถึง ยังติดตั้งระบบ Intelligent Route Planner ระบบอัจแริยะที่จะช่วยประมวลผล ว่า จะชาร์จที่ไหน เดินทางแลิวเหลือไฟฟ้าเท่าไร ก็มีแล้วในรุ่นนี้ ตลอดจนรถยังมีฟังชั่น ที่น่าสนใจ อาทิ V2L สำหรับการใช้ไฟฟ้าในการทำกิจการรรมต่าง และยังสามารถใช้ระบบ Vehicle to Home และ Vehicle To Grid ได้ด้วย ยามเกิดภัยพิบัติ
Nissan Leaf ที่เตรียมเปิดตัวที่ญี่ปุ่นจะผลิตที่โรงงาน Nissan Tochigi จับตาสเปกและราคาจะออกมาในรูปแบบไหนติดตามกันในวันที่ 8 ตุลาคม