ทำตลาดมาเกือบปีแต่ยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากสาวกรถไฟฟ้าชาวไทยที่อยากได้ความคุ้มค่าคล่องตัวและสะดวกสบายสำหรับ NETA V

และเพื่อตอกย้ำความสำเร็จจึงเป็นที่มาของการแนะนำรุ่น Model Year ปรับปรุงใหม่สำหรับ NETA V โดยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลักๆ 2 อย่าง อย่างแรกเป็นการเพิ่มสีใหม่นั่นคือสีเขียวมูนไลท์ จากเดิมมีเพียง 5 สี ทั้ง สีขาวไวท์สตรอม, สีเทา, สีฟ้าเซรามิก, สีฟ้าคราม, สีชมพูซากุระ

เท่านั้นยังไม่พอมีการอัปเกรดพลังไฟฟ้าให้เร้าใจมากขึ้นด้วยการปรับความจุแบตเตอรี่ Lithium-ion ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม 40.7 kWh ชนิด LFP (Lithium-ion Phoshate) แต่กำลังยังเท่าเดิม 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตรและยังให้ระยะทางในการวิ่งสูงสุดเท่าเดิม 384 กม./ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC

รองรับการชาร์จกระแสสลับ AC Normal Charge จาก 0-100% ในระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และการชาร์จกระแสตรง DC Quick Charge จาก 30-80% ในระยะเวลาประมาณ 30 นาที และยังมีฟังก์ชัน V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 3,300 วัตต์

กับออปชันเด่นๆทั้งหน้าจอ Infotainment ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว ล้ำสมัยด้วยระบบการสั่งการระบบการทำงานต่างๆ ของรถพร้อมกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ที่มีระบบ Ride & Go ให้รถพร้อมสำหรับการขับขี่ทันทีที่เปิดประตูรถ ในราคาเดิม 549,000 บาท สำหรับ NETA V MY2023 เปิดรับจองตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและส่งมอบตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: