หลังปล่อยให้ผู้ผลิตสัญชาติจีนตีตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในระดับโลกกันโครมคราม เช่นเดียวกับผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นร่วมกันแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดบ้างอีกนิดหน่อย ในที่สุดทาง Mitsubishi ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรถยนต์ในกลุ่มนี้ด้วยบ้างเสียที
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการให้ข้อมูลโดย นาย Luca de Meo ผู้บริหารสูงสุดของ Renault บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสที่ในปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Mitsubishi ท่ามกลางงานเปิดตัวรถ Renault Twingo รถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ล่าสุดของแบรนด์ ที่มาพร้อมกับหน้าตาแบบ Modern Classic ซึ่งในจังหวะหนึ่งเจ้าตัวได้มีการพูดถึงแบรนด์ลูกของเจ้าตัวเอาไว้ว่า
“ผมขอยืนยันว่า Mitsubishi กำลังจะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม C (Segment) SUV เพื่อทำตลาดในระดับโลกบนพื้นฐาน(แพลตฟอร์ม) AmpR Medium, แน่นอนใน(เมือง) Douai, และแน่นอน มันคือรถไฟฟ้าล้วน”, “ในความคิดของเรา มันยังเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น” นาย de Meo กล่าว
จากข้อความในข้างต้น หมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของทาง Mitsubishi อาจเป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ที่เข้ามาแทนที่ หรือไม่ก็ทำตลาดคู่ขนานกันไปกับ Mitsubishi ASX ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง ที่ชาวไทยหลายคนก็ให้ความสนใจ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใดทาง Mitsubishi ประเทศไทย ถึงยังไม่มีท่าทีจะวางจำหน่ายมันในบ้านเรา
นอกจากนี้ ด้วยการระบุว่าตัวรถจะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม AmpR Medium จึงเท่ากับว่ามันจะใช้แพลตฟอร์มร่วมกันกับรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นที่ทั่วโลกรู้จักกันอยู่แล้วอย่าง Renault Megane E-Tech, Renault Scenic E-Tech และที่ชาวไทยหลายคนคุ้นหูกันดี (แต่ไม่คุ้นตาเลยสักนิด เพราะน้อยคนนักจะเห็นคันจริงในต่างประเทศ) อย่าง Nissan Ariya
อย่างไรก็ดี เนื่องจากการให้ข้อมูลครั้งนี้ มีเพียงการเกริ่นข้อมูลแบบสั้นๆเท่านั้น และยังไม่มีการเผยให้เห็นรูปหน้าค่าตาโดยคร่าวๆของตัวรถแต่อย่างใด จึงทำให้ยังไม่มีใครสามารถมองออกได้ว่ามันจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทาง Mitsubishi ลงทุนออกแบบและปรับปรุงขึ้นมาเองโดยอาศัยชิ้นส่วนไส้ในเพียงเท่านั้น ร่วมกับเหล่าเพื่อนๆร่วมแพลตฟอร์ม
หรือ ด้วยการระบุว่า มันจะเป็นรถที่ถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นหลัก มันจึงอาจจะเป็นเพียงการเอารถยนต์ของ Renault มาเปลี่ยนโลโก้ แล้วแต่งหน้าทาปากใหม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เหมือนที่ทาง Mitsubishi เคยทำมาแล้วก่อนหน้านี้กับ ASX และ Colt ตัวล่าสุดก็ได้
โดยหากการพัฒนาตัวรถครั้งนี้ เป็นการพัฒนาโดยทาง Mitsubishi รับจบด้วยตนเองเกือบทั้งหมด เว้นแค่การใช้แพลตฟอร์มกับชิ้นส่วนกับบริษัทในเครือบางรายการ เพื่อวางจำหน่ายในระดับโลกดังคำที่นาย de Meo กล่าวไว้จริง โปรเจ็กท์การสร้างตัวรถอาจต้องใช้เวลาอีก 2-3 ปี เป็น เป็นอย่างน้อย กว่าที่เราจะได้เห็นรูปร่างของตัวรถโดยคร่าวๆ ก่อนที่จะขายจริงในปี 2028 เป็นอย่างเร็วตามข้อมูลก่อนหน้าของทางบริษัท
แต่หากสุดท้ายแล้ว ตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ว่านี้ เป็นเพียงแค่การเอารถยนต์ของ Renault มาตีตราใหม่ (แล้วเอาไว้วางขายแต่ในยุโรป หรืออเมริกา เพียงเล็กน้อย ไม่ใช่ในระดับโลกดังที่กล่าว) ทางค่ายก็อาจจะใช้เวลาในการปรับปรุงตัวรถแค่เพียง 1-2 นับจากนี้เท่านั้น
ซึ่งเราก็ภาวนาให้มันไม่เป็นอย่างหลัง เพราะหากเป็นอย่างแรก มันก็มีโอกาสที่จะถูกนำมาวางจำหน่ายในบ้านเราด้วยมากกว่าแน่นอนนั่นเอง
