ทุกวันนี้รถยนต์มีนวัตกรรมต่างมากมายแนะนำออกมา มันช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้น ขับขี่มันใจมากขึ้น และมันช่วยให้ผู้ผลิตมีกำไรมหาศาล แต่บางสิ่งอย่างกระจกมองข้างก็ไม่เคยเปลี่ยนไปแปลงไปตลอดหลาย 10 ปีที่ผ่านมา ทว่ารถยนต์ในอนาคตกำลังจะเปลี่ยนแปลงบางอย่างไปตลอดกาล

“กระจกมองข้าง” เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในรถยนต์ตลอดหลายปี ทว่าความล้ำสมัยของกล้องวีดีโอที่ชัดระดับ   high definition  และมีความสามารถมากกว่า กำลังทำให้หน้าที่ของกระจกส่องสะท้อนมองภาพทางด้านข้างรถยนต์เหล่านี้มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในอีกไม่ช้า โดยเฉพาะหลายบริษัทรถยนต์กำลังจะแทนที่มันด้วยกล้องวีดีโอที่ทำหน้าที่ได้ดีกว่า ในแง่การให้ทัศนวิสัยไร้จุดบอดยามคุณมองเพื่อเปลี่ยนทิศทางรถไปด้านข้าง

Mirrorless Car   กำลังถูกกล่าวขวัญอย่างมากในวงการยานยนต์ทั่วโลก มันเป็นนวัตกรรมใช้งานได้จริง และสามารถทำได้ทันที ถ้ารัฐบาลในหลายประเทศเปลี่ยนระบบข้อบังคับเดิมที่เคยตราไว้ในกฎหมายให้ชัดเจนและครอบคลุมการมองรอบข้างรถด้วยกล้องแทนกระจกที่ล้าสมัยและมีมุมมองแคบ จนเกิดจุดบอดในระหว่างการขับขี่

หนึ่งในค่ายที่ล่วงหน้าไปแล้ว คือ  BMW  ค่ายรถยนต์เยอรมันเผยแนวคิดในการทำรถยนต์แบบไร้กระจกมองข้างรวมถึงกระจกมองหลัง พวกมันถูกแทนที่ด้วยกล้องวีดีโอทั้งหมด โดยตัวกล้องจะถูกใส่ไว้ในตำแหน่งเดิมของกระจกมองข้าง โดยทาง   BMW   เรียกต้นแบบนี้ที่โชว์ในรถยนต์   BMW i8   ว่า   Mirrorless concept  โดยนอกจากกล้อง 2 ตัวทางด้านข้างแล้ว กล้องอีกตัวยังติดตั้งอยู่หลังกระจกด้านหลัง เพื่อสอดส่องเหตุการณ์ทางด้านหลังแล้วส่งกลับมาบนชุดจอในตำแหน่งกระจกมองหลังเดิม

แนวคิดดังกล่าวค่อนข้างล้ำสมัยมากๆ เมื่อเทียบกับกระจกที่มีจุดบอดในเรื่องการสะท้อนมุมมอง ซึ่งอาจจะมีปัญหาเรื่องจุดบอกในการขับขี่ หากผู้ใช้ปรับกระจกไม่ดี หรือผู้ผลิตใช้ผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ไม่ได้คุณภาพ แต่กล้องไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ และด้วยเทคโนโลยีกล้องวีดีโอปัจจุบัน ก็มีความละเอียดสูงมากพอ และมุมมองกว้างกว่ากระจกลดอาการเกิดจุดบอดที่พบบ่อยครั้ง จนนำไปสู่อุบัติเหตุได้

ที่สำคัญที่สุดนอกจากที่กล่าวในเบื้องต้นแล้ว การหันมาใช้กล้องแทนกระจกมองหลัง ยังช่วยประหยัดพื้นที่ยื่นจากตัวรถลดการปะทะของกระจกข้าง ส่งให้รถมีความลู่ลมมากขึ้น  แน่นอนมันเกี่ยวข้องกับเรื่องประหยัดน้ำมันด้วย

ในปัจจุบันเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันมีแนะนำออกมาบ้างแล้ว อย่างเช่น   Honda  ติดตั้งระบบ   Honda  Lane Watch  ในรถยนต์   Honda  Accord Hybrid และ Honda  Civic RS  พวกมันทำงานภายใต้แนวคิดเดียวกับ ด้วยระบบกล้อง แต่เพียงใช้งานชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

จากที่เคยลองใช้ ปัญหาของการใช้กล้องมองภาพทางด้านข้าง คือตัวกล้องเอง จะต้องมีความละเอียดในระดับหนึ่ง เพื่อให้ผู้ขับขี่มองได้อย่างชัดเจน และเข้าใจถึงวัตถุ ที่อยู่ทางด้านข้างตัวรถ มันดีกว่ากระจก ตรงมุมมองที่กว้างขวางมากกว่า สามารถมองทัศนวิสัยดีกว่า ก่อนการตัดสินใจเปลี่ยนช่องทาง หรือทำอะไรก็ตามเพื่อบังคับทิศทางรถ

อย่างไรก็ดีปัญหาเดียวที่ขวางไม่ให้เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นได้ คือการกฎหมายในหลายประเทศ ที่ยังคงเชื่อว่ากระจกมองข้างยังเป็นสิง่ที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์การขับขี่ แต่ประเทศญี่ปุ่น เพิ่งจะทำให้ทั่วโลกต้องตัดสินใจใหม่ หลังปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลญี่ปุ่นมีแนวคิดว่า จะเปลี่ยนกฎหมายอนุญาตใช้กล้องแทนกระจกได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เช่นเดียวกับหลายประเทศในยุโรปมีแนวโน้มเดียวกัน
อเมริกาก็แสดงท่าทีก่อนที่ ท่านประธานาธิบดีทรัมป์จะเข้ามารับตำแหน่งว่าจะผลักดันเรื่องดังกล่าวให้กลายเป็นมาตรฐานภายในปี 2018 เช่นเดียวกับจีนก็มีแนวโน้มจะตามเทคโนโลยีนี้ไปติดๆ

ในอนาคตรถยนต์จะเปลี่ยนไป นั่นเป็นสิ่งที่พวกเรารู้ แต่อย่าแปลกใจถ้าวันหน้าคุณซื้อรถแล้วไม่เห็นกระจกมองข้างติดมาด้วย เพราะพวกมันแทนที่ด้วยกล้องวีดีโอเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นของผู้ขับขี่ คำถามคือเมื่อโลกหมุนแล้ว ประเทศไทยเราควรจะมองความเป็นไปได้ในเทคโนโลยีนี้แล้วหรือยัง ว่าอนาคตรถยนต์อาจจะไร้กระจกมองข้าง

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 



[ngg_images source=”galleries” container_ids=”188″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่