เปิดตัวที่จีนกับไทยเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ MG HS เอสยูวีไซซ์คอมแพ็ครุ่นปรับโฉมที่ไปได้สวยในด้านความนิยมและยอดขายมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

ล่าสุดอังกฤษเปิดตัวรุ่น Facelift แบบเดียวกับเมืองไทยและจีนด้วยความหรูจากกระจังหน้าดีไซน์เอกลักษณ์เฉพาะแบบ 2-Tone ดีไซน์ Digital Burning Grille กันชนหน้า-กันชนท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมท่อไอเสียคู่ ไฟหน้าแบบ QUAD LED Projector ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (DRL) ไฟท้ายแบบ Full LED มีไฟ Welcome Light สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา ฝาท้ายเปิดปิดด้วยระบบไฟฟ้ามีฟังก์ชันปรับระดับสูง-ต่ำ พร้อมสั่งการผ่านทางรีโมทคอนโทรล ล้ออัลลอยสีทูโทนห้าก้านขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสารพรั่งพร้อมด้วยฟังก์ชันที่ให้ทั้งความสะดวกสบายและคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครันด้วยการใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch เบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Bucket Seat ใช้วัสดุ Alcantara สีดำเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าทั้งฝั่งคนขับ6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้า 4 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันพร้อม Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หลังคา Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ ไฟสร้างบรรยากาศภายใน Interactive Ambient Light ปรับได้ 64 เฉดสี หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว หน้าจอกลาง แบบ Multi-Function Touchscreen ขนาด 10.1 นิ้ว ระบบเสียง Surround 6 จุด 

เย็นสบายด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และ Android Auto เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Digital Key และ NAVIGATION ระบบนำทาง ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมียมในทุกรายละเอียด

เบนซินเทอร์โบเป็นแบบเดียวกับสเปกไทยด้วยพลัง 1.5 15E4E 162 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตรคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่  TST แบบ 7 สปีดมาพร้อมรูปแบบการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco โหมด Sport เสริมด้วยปุ่ม Super Sport เพิ่มประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นขับเคลื่อนล้อหน้าพร้อมช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังแบบ Multi-link พร้อมเหล็กกันโคลงทั้งหน้าและหลัง ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อนและดิสก์เบรกหลัง

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคันด้วยความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทั้งด้านหน้าและด้านท้ายรถ ซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Autonomous Level 2) รวมกัน 8 ระบบ ได้แก่ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมป้องกันคนบนนถนนและคนปั่นจักรยาน AEB (Autonomous Emergency Brake with Pedestrian and Bicycle Detection) ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist) ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) จำกัดความเร็วอัตโนมัติ Intelligent Speed Limit Assist ช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)

และในรุ่นเกียร์อัตโนมัติเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist) และควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control) ที่ต่างจากไทยคือไม่มีระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning) ช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist) และช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) เป็นต้น

ด้านราคาจำหน่าย MG HS Facelift ขายทั้งรุ่น SE และ Trophy ทั้งหมดสี่รุ่นย่อยที่อังกฤษเริ่ม £23,495- £27,495 หรือราว 1,021,000-1,199,000 บาทพร้อมสีตัวถังทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Pearl) สีเทา (Urban Grey) และสีแดง (Scarlet Red) สีฟ้า Holborn Blue สีขาวมุก White Pearl และสีบอรนซ์เงิน Cosmic Silver

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: