เปิดราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ MG ES แวกอนร่างที่สองของ MG EP ที่ปรับหน้าตาใหม่หมดรวมถึงอัปพลังจนพ่อบ้านยุคใหม่ชื่นชอบเลยทีเดียว

โดยราคาจำหน่ายก่อนหักส่วนลดอยู่ที่ 1,200,000 บาท แต่หลังจากหักส่วนลดมาตรการทางภาครัฐจะอยู่ที่ 959,000 บาทด้วยหน้าตาโฉบเฉี่ยวกว่ารุ่นเดิม MG EP เริ่มที่กระจังหน้าทรงทึบ ขนาบข้างด้วยไฟหน้า Projector แบบ LED ควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ พร้อมไฟ DRL ออกแบบช่องเสียบใหม่ที่มองเห็นชัดเจนขึ้น โลโก้ MG ย้ายไปอยู่บนฝากระโปรงหน้าและ ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า

ล้ออัลลอยลายใหม่ทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/50R17 กรอบหน้าต่างโครเมียม ราวหลังคารองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กก. ด้านท้ายใหม่ดีไซน์ไฟท้าย LED แบบ Light Curtain Design กันชนหลังออกแบบใหม่และมีช่องเล็กๆทรงสามเหลี่ยมคล้ายกับด้านหน้าและสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED

ภายในเใหม่หมดเรียบหรูด้วยโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่หมด ติดตั้งมาตรวัดดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.25 นิ้วเชื่อมต่อความบันเทิงเต็มรูปทั้ง Apple Car Play Android Auto Bluetooth ลำโพง 6 จุด พร้อมช่องต่อ USB 4 จุด เครื่องปรับอากาศแบบดิจิตัล พร้อมกรองอากาศ PM 2.5 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปรับ 4 ทิศทาง และมี i-SMART สั่งการ ค้นหารถ หรือเชื่อมต่อการทำงานของตัวรถ และสถานีชาร์จ และ กุญแจดิจิตอล กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ พร้อมปุ่ม Push Start

เบาะนั่ง 5 ที่นั่งหุ้มหนังสังเคราะห์ปรับด้วยระบบไฟฟ้าด้านคนขับ 6 ทิศทาง ตอนหลังพับได้แบบ 60:40 เมื่อพับจะมีพื้นที่มากถึง 1,367 ลิตร (ไม่พับเบาะ 479 ลิตร) และที่ปิดห้องเก็บสัมภาระท้าย

ขุมพลังไฟฟ้าพัฒนาใหม่ด้วยแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนความจุ 51 kWh กับมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้าให้กำลังมากถึง 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กม./ชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC มีรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport พร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) สามารถชาร์จในระหว่างขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ ได้ถึง 3 ระดับ

รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% – 80%) ใช้เวลา 40 นาที กำลังชาร์จสูงสุด 87 kW และการชาร์จไฟบ้านแบบ AC  0-100% ใช้เวลา 7.15 ชม. กำลังชาร์จสูงสุด 6.6 kW ผ่าน MG HOME CHARGER พร้อมระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์

กับความปลอดภัยเด่นๆทั้ง ตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System), ช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking), ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control), ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist), ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping Assist), ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning) เป็นต้น

MG ES มีให้เลือกถึง 5 สีภายนอกได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: