ในบรรดาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กรีฑาทัพ เข้ามาขายในไทย ต้องยอมรับว่า MG เป็นแบรนด์ ผู้สร้างกรุยทางตลาดรถยนต์ไฟ้า จนก่อร่างสร้างตัวเป้นชิ้นเป็นอัน

MGแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าพ่อบ้าน MG EP เข้าทำตลาดมาระยะใหญ่ และภายหลังได้รับความนิยม เนื่องจากมีราคาค่อนข้างถูก และได้ตัวรถขนาดใหญ่ ทำให้ทางแบรนด์ไม่รอช้าในการส่งรุ่นใหม่เข้ามา ในชื่อใหม่ ว่า MG ES

MG ES เป็น รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ โดยใครที่ตามข่าวในต่างประเทศ คงจะทราบดีกว่า นี่คือ การปรับหน้าตาของ MG EP ให้ทันสมัยมากขึ้น กว่าเดิม หน้าตาใหม่นี้มีความสปอร์ตมากกว่าเดิม เริม่จากกระจังหน้าใหม่ แบบปิดทุบตามยุคสมัย พร้อมโยนงานออกแบบเดิม ที่เน้นไปทางความหรูหรา ปรับมาเป็นทางสปอร์ตทันสมัย ให้ความโดดเด่น สะดุดตาตั้งแต่แรกเห้น ทำให้ ตัวรถมีความน่าใช้มากขึ้น

เริ่มจากงานออกแบบกันชนใหม่ , พกไฟหน้าใหม่ ที่เรียกว่า Curtain Design ออกแบบไฟหน้าเล็กลง แต่ส่องสว่างมากขึ้น ฝากระโปร่งหน้าใหม่ ทั้งยังปรับงานออกแบบฝากระโปรงตัวรถใหม่ด้วยเช่นกัน

ในห้องโดยสาร นำเสนอ คอนโซล 2 ชั้น หรือ Double Layer งานออกแบบ ทำให้ ดูมีความทันสมัยกว่ารุ่นเดิม ไม่ว่าจะ การตบแต่งด้วยอลูมิเนียม ติดปลายนวมด้วยการตบแต่งด้วยผ้าเดินิม

เบาะนั่งปรับปรุงการตัดเย็บใหม่เป็นการตัดเย็บในแบบสปอร์ต ให้หนังสังเคราะห์ ผสมกับผ้า ทั้งทางด้านหน้า และด้านหลัง เบาะหลังยังคงฟังชั่นปรับพับได้ 60/40 ไว้อย่างเหนียวแน่น

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุง จอระบบความบันเทิงใหม่ เป็นขนาด 10.25 นิ้ว ยกตรงมาจาก MG 4 EV รุ่นน้องคันใหม่ ให้กรอง PM 2.5 มาด้วยในรถคันนี้

ทางด้าน การขับขี่ ทางเอ็มจี จัดการปรับปรุง หลายอย่างเริ่มจาก แนะนำมอเตอร์ไฟฟ้าลูกใหม่ แบบ 8 Layer Hairpin ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น สูงสุด 177 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร สามารถ ทำความเร็วสูงสุดได้ 185 ก.ม./ช.ม.

ส่งกำลัง โดยแบตเตอร์รี่ขนาด 51 Kwh รองรับการชาร์จสูงสุด 87 KW ใช้เวลา 0-80% ของแบตเตอร์รี่ในเวลา 40 นาที และ ยังรองรับการชาร์จ AC สูงสุด 11 KW ด้วย ทำให้เหนือกว่ารถคันอื่นๆในคลาส

MG ES มีระยะทาง ในการเคลมต่อการชาร์จ อยู่ที่ 412 ก.ม.​ตามมาตรฐาน NEDC ใช้หัวชาร์จแบบ AC Type 2 และ CCS Combo 2 ตอบการขับขี่

สำหรับ MG ES ใหม่ นั้นจะเปิดให้จองตั้งแต่วันที่ 13-19 มีนาคมนี้ และส่งมอบล็อตแรกในเดือนเมษายนนี้ อย่างเป็นทางการ โดยราคาจะประกาศ ในัวนที่ 20 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: