ขณะที่ในไทย ยังมีท่าทีเพียงแค่การนำมาโชว์ตัวเท่านั้น แต่สำหรับในประเทศบ้านเกิดของเจ้าของคนปัจจุบันอย่างจีน MG Cyberster กลับถูกเปิดราคาสำหรับการขายอย่างเป็นทางการแล้วในตอนนี้

อย่างที่หลายท่านพอจะทราบกัน ว่าหลังผ่านเวลาไปกว่าปี นับตั้งแต่ที่มีการเผยร่างคอนเซปท์เป็นครั้งแรก ในที่สุดตอนนี้ MG Cyberster ก็ได้มีการเผยร่างขายจริงออกมา และกำลังมีทริปเดินทางไปทั่ว 3 ทวีป ระยะทางรวมกว่า 16,000 กิโลเมตรกันอยู่

ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ มันก็ได้พร้อมแล้วที่จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศจีน โดยมีการประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการว่าจะเริ่มต้นที่ 319,800 หยวน หรือราวๆ 1,595,000 บาท และจะขยับขึ้นไปเป็น 359,800 หยวน หรือราวๆ 1,815,000 บาท ในรุ่นท็อปสุด

โดยหากให้ลงลึกไปอีกนิดถึงรายละเอียดตัวรถ เจ้า Cyberster ก็จะมาพร้อมกับขนาดตัวถังด้านยาว 4,535 มิลลิเมตร, ด้านกว้าง 1,913 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,329 มิลลิเมตร และระยะฐานล้ออีก 2,690 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่กว่าคู่แข่งที่มีรูปทรงตัวถังใกล้เคียงกันอย่าง Mazda MX-5 อยู่พอตัว

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกชุดล้อทั้งขนาด 19 นิ้ว และ 20 นิ้วตามรุ่นย่อย โดยยางที่ให้มาก็จัดเต็มด้วยชุดยาง Pirelli P Zero ซึ่งเป็นยางที่รถสปอร์ตสมรรถนะสูงหลายคันเลือกใช้ ตัวระบบเบรกก็รับผิดชอบโดยใช้ของ Brembo และตัวระบบช่วงล่างก็ถูกปรับเซ็ทโดยทีมวิศวกรมากฝีมือจากอิตาลี

ส่วนรายละเอียดเรื่องระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบ ตาม 3 ตัวเลือกรุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่นล่างสุด มาพร้อมกับระบบมอเตอร์เดี่ยวสำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลัง ให้กำลังสูงสุด 314 PS และแรงบิดสูงสุด 475 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 64 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 501 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC พร้อมเคลมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 193 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • รุ่นกลาง มาพร้อมกับระบบมอเตอร์คู่สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อทั้งสี่ ให้กำลังสูงสุด 340 PS และแรงบิดสูงสุด 475 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 77 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 580 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC พร้อมเคลมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4.9 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 195 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • รุ่นบนสุด มาพร้อมกับระบบมอเตอร์เดี่ยวสำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หลัง ให้กำลังสูงสุด 544 PS และแรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 77 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุด 520 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC พร้อมเคลมอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทั้งนี้ แม้จะมีการเปิดราคาไว้ค่อนข้างน่าสนใจ แต่เราก็ยังไม่สามารถนำราคาขายจริงดังกล่าว มาคาดหวังว่ามันจะเป็นราคาเดียวกันเมื่อตัวรถถูกนำมาวางจำหน่ายในบ้านเราได้ เพราะหากเทียบราคาของ MG Cyberster กับ MG4 ที่วางขายในประเทศจีน เราก็จะพบว่ามันมีราคาที่ต่างกันราวๆ 1 เท่าตัว

ดังนั้น ช่วงราคาที่สามารถเป็นไปได้ของตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้เมื่อถูกนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทย จึงสามารถเป็นไปได้ตั้งแต่ราวๆ 1.8 ล้านบาทขึ้นไปจนถึงราวๆ 2 ล้านบาทนิดๆ ซึ่งเราก็ต้องรอลุ้นกันจนกว่าจะถึงกำหนดการวางขายจริง ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีหน้าเป็นอย่างช้า

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่