ในงาน Motor Expo 2023 ทางค่ายรถตราดาวส่งรุ่นใหม่เข้าขายถึงสามรุ่นด้วยกันโดยเป็นรถใหม่ใช้ขุมพลังดีเซลโดยหนึ่งในนั้นมี Mercedes-Benz GLC 220 d

เอสยูวีในรหัส X254 แนะนำรุ่นย่อยใหม่ Mercedes-Benz GLC 220 d 4MATIC Avantgarde เหมาะกับการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On-Road และ Off-Road ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ภายนอกมาพร้อมดีไซน์สปอร์ตและหรูหราอย่างลงตัวด้วยชุดตกแต่งสไตล์ Avantgarde กระจังหน้าแบบ Star pattern กันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบ A-shape มาพร้อมไฟหน้าแบบใหม่ LED High Performance พร้อมปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist) กันชนหน้าเสริมคิ้วโครเมียมที่ช่องระบายอากาศ ตกแต่งด้วยราวหลังคาอลูมิเนียม บันไดข้างแบบสแตนเลสดีไซน์สปอร์ต กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว ไฟส่องทางใต้กระจกมองข้างแสดงผลเป็นตราสัญลักษณ์ Mercedes–Benz ล้ออัลลอยแบบ 10 ก้านคู่ขนาด 19 นิ้ว ไฟท้าย LED รวมถึงดีไซน์ด้านท้ายที่เป็นเอกลักษณ์ด้วยโลโก้ดาวสามแฉกคิ้วกรอบป้ายทะเบียนอยู่แนวเดียวกับชุดไฟท้าย กันชนหลังใหม่แบบสีทูโทน

ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบความหรูยังแฝงความสปอร์ตตั้งแต่เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Comfort Seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อม memory seat 3 ตำแหน่งพร้อมระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support เบาะหลังพับได้แบบ 40:20:40 มีการดีไซน์พื้นที่บรรทุกสัมภาระใหม่แบบ Flat trunk floor ความจุสูงถึง 470 ถึง 1,530 ลิตร หุ้มด้วยหนัง ARTICO man-made ลวดลายแบบ Nappa แผงคอนโซลกลางใช้วัสดุแบบ High-Gloss Black สีดำเงา และ Metal Structure trim คอนโซลหน้าและแผงประตูหุ้มหนัง ARTICO man-made ตกแต่งลวดลายแบบ Nappa และวัสดุตกแต่งห้องโดยสารแบบ Anthracite linestructure lime word trim

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านหุ้มหนัง ระบบเสียงรอบทิศทางทรงพลังด้วยลำโพง 15 ตำแหน่ง ไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบ Ambient Lighting ปรับได้ 64 เฉดสี ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC ระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบ Wireless charging และช่อง USB Type–C 6 ตําแหน่ง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Instrument cluster ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอตรงกลางความละเอียดสูงขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมผ่านระบบสัมผัส ทำงานควบคู่กับ MBUX7 ที่สามารถเรียนรู้ผู้ใช้งานด้วยระบบ AI และปรับระบบการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงการประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างระบบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น

ขุมพลังใหม่ดีเซลเทอร์โบเป็นขนาด 2.0 ลิตร OM654 M ให้กำลังมากถึง 197 แรงม้า แรงบิด 440 นิวตันเมตรจับคู่กับระบบ Mild Hybrid สร้างและจ่ายไฟฟ้าเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 48 โวลต์ได้ มอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษพร้อม EQ Boost ให้กำลังถึง 23 แรงม้า แรงบิด 200 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเพียง 68 วินาที ความเร็วสูงสุด 219 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด 9G-TRONIC ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4MATIC จำหน่ายแบบรถประกอบในไทยในราคา 3,720,000 บาท พบตัวจริงได้ที่งาน Motor Expo 2023 30 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่