นับตั้งแต่ที่ Mercedes-Benz บรรจุเครื่องใหญ่ V8 ลงในเอสยูวีรุ่นลายครามอย่าง Mercedes-Benz G-Class มาตลอด 30 ปี
และกลายเป็นเอสยูวีที่ทรงพลังที่สุดกับรุ่น 500 GE แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการลดขนาดเครื่องยนต์หรือ Downsizing เพื่อลดมลพิษและประหยัดน้ำมันมากขึ้นกลายเป็นที่นิยมของค่ายรถแต่ละค่ายล่าสุดเตรียมอำลาเครื่องใหญ่ V8 ด้วยการแนะนำ Mercedes-Benz G500 Final Edition
ตกแต่งลวดลายไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกสีไหนโดยมีทั้งหมด 3 สี ถ้าเลือกสี Olive Magno ฝาครอบยางอะไหล่ห้อยท้ายจะตกแต่งขอบฝาด้วยโครเมียม ล้ออัลลอยลวดลสายพิเศษขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางขนาด 275/50 ทูโทนสองสี 5 ก้านคู่ แต่ถ้าเลือกสองสีทั้ง สีดำ Obsidian Black, สีขาว Opalith White ล้อ 5 ก้านคู่จะกลายเป็นสีดำ ติดตั้งโลโก้ G ตรงลูกบิดเปิดประตู
ภายในให้ความอลังการงานสร้างด้วยการติดตั้งโลโก้ “G” มีข้อความ “Stronger Than Time” บนพื้นนอกจากนี้ยังมีข้อความบนผ้าคลุมรถในร่มที่มาพร้อมกับ G500 V8 รุ่นล่าสุดอีกด้วย สคัพเพลตประตูและที่จับตรงคอนโซลหน้าปักตัวอักษร “Final Edition” พร้อมกุญแจรีโมทปักโลโก้ G ด้านวัสดุหนังหุ้มเบาะด้วยวัสดุ Nappa รวมถึงวัสดุหุ้มหลังคาขึ้นรูปด้วยวัสดุหนังลวดลายเพชร Diamond พร้อมลำโพงไฮเอนด์จาก Burmester
ขุมพลังสั่งลาใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ V8 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 422 แรงม้า แรงบิด 610 นิวตันเมตร โดย Mercedes-Benz G500 Final Edition จะผลิตมาแค่ 1,500 คันเท่านั้น โดยสามสีแบ่งเป็นสีละ 500 คัน โดยจะผลิตตั้งแต่กันยายนถึงมีนาคมปีหน้าหลังจากนั้นจะหันมาคบกับพลังเบนซิน 6 สูบแทน และเสริมทัพกับ EQG From Mercedes-EQ พลังอีวีล้วน
