เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Mazda MX-5 โรสเตอร์หลังคาแข็งที่คราวปรับหน้าตาไม่พอเพิ่มความซาดิสม์กระชากจิตวิญญาณนักซิ่ง

ด้วยระบบปิดการควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC-Track (Dynamic Stability Control: -Track ) เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้เหมือนกับการขับรถแข่งในสนามแข่ง โดยระบบจะยอมให้เกิด Understeer หรือ Oversteer เพียงเล็กน้อย และระบบจะเข้ามาช่วยเหลือกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้ เพื่อช่วยควบคุมรถเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

และยังทำงานประสานกันอย่างสมบูรณ์กับเฟืองท้าย LSD แบบ Asymmetric (Asymmetric Limited Slip Differential: Asymmetric LSD) ช่วยรักษาเสถียรภาพในการเลี้ยวของรถ ควบคุมแรงที่เกิดขึ้นระหว่างล้อหลังและพื้นถนน ควบคุมความเร็วของล้อที่เหมาะสมระหว่างล้อหลังทั้งซ้ายและขวาจึงช่วยให้รถมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น โดยระบบนี้สงวนเฉพาะรุ่นเกียร์กระปุก

ด้านหน้าตา ปรับใหม่เริ่มที่ชุดไฟหน้าใหม่แบบ Bi-Beam LED ที่มีไฟหน้า ไฟเลี้ยว และไฟส่องสว่างเวลากลางวันรวมอยู่ในโคมดียวกัน จากเดิมไฟส่องสว่างเวลากลางวันจะอยู่ที่ข้างๆกันชนหน้าซ้าย-ขวา ชุดไฟท้าย LED ออกแบบใหม่รวมทั้งไฟเลี้ยวไฟเบรกและไฟถอยหลังในโคมเดียวที่ดูหรู มองชัดเจนในเวลากลางคืน ชุดรีเฟล็กเตอร์สะท้อนแสงบริเวณกันชนหลังแบบใหม่ หลังคาแข็ง RF Retractable Fastback ที่ด้านบนหลังคาถอดได้และส่วนด้านหลังสามารถพับเก็บได้ ในเวลา 13 วินาที กับความเร็วสูงสุด 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ล้ออัลลอยลายใหม่ 8 ก้านคู่สีดำเมทาลิค ขนาด 17 นิ้ว

ภายในพัฒนาให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอ Center Display ใหม่ ขนาด 8.8 นิ้ว รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android AutoTM พร้อมปุ่มควบคุม Center Commander แบบใหม่ รวมถึงกระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติแบบไร้กรอบรูปทรงใหม่ ที่ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น ตกแต่งด้วยคอนโซลกลางหุ้มหนัง มอบสัมผัสสปอร์ต หรูหรา พรีเมี่ยม รวมถึงหน้าปัดวัดความเร็วรอบดีไซน์ใหม่ พร้อมปุ่มควบคุมบริเวณด้านข้าง และระบบเสียงคุณภาพ Bose® รอบทิศทาง พร้อมลำโพงถึง 9 ตำแหน่ง

ขุมพลังแรงเช่นเดิมกับเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 2.0 ลิตร 184 แรงม้า แรงบิด 205 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด SKYACTIV-MT สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 6.8 วินาที โดยให้ความเร็วสูงสุดถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด พร้อม Paddle Shift ขับเคลื่อนล้อหลัง

พร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการทรงตัวขณะเข้าโค้ง KPC (Kinemetic Posture Control) ช่วยให้รถทำงานผสานกันอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ไม่เพิ่มน้ำหนักให้กับตัวรถ ช่วงล่างด้านหลังถูกออกแบบเพื่อช่วยป้องกันการยกของตัวรถ (Anti-Lift) จะทำการควบคุมแรงเบรกที่ล้อหลังฝั่งด้านในโค้ง ในขณะที่รถเข้าโค้งเพื่อลดอาการโคลงของตัวรถ ทำให้รถมีเสถียรภาพและเข้าโค้งได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิม

พร้อมความปลอดภัยครบครันทั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างและด้านหน้า 2 คู่ ระบบสัญญานเตือนกันขโมย เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด เพื่อมอบความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ไปตลอดเส้นทาง

ความปลอดภัยสุดล้ำ i-ACTIVSENSE เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงเมื่อเผชิญเหตุไม่คาดคิดบนท้องถนน ที่มีมาเพิ่มเติมอีกหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติหลังการชน (Secondary Collision Reduction) เตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ แบบ Advance (Advanced SBS) ช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (SBS-RC) และยังเพิ่มกล้องมองหลังเพื่อช่วยมอบความปลอดภัยสูงสุด

มีให้เลือกทั้งหมด 7 สีได้แก่ ใหม่! สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray) สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray) สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal) สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl) สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black) สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue) และ สีน้ำตาล เซอร์คอน แซนด์ (Zircon Sand) ในราคาใหม่เพิ่มจากเดิม 117,000 บาท ทั้งรุ่น RF เกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติราคาเท่ากันเพียง 3,029,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่