ตลอดช่วงปลายปีที่ผ่านมา เชื่อว่า พวกเราหลายคนน่าจะได้ยินเรื่องราวของการรวมตัวกันในหมู่ประเทศอาเซียน เพื่อสร้างความแข้งแกร่งทางเศรษฐกิจ หรือที่เราเรียกว่า  ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กันมาอย่างต่อเนื่อง

ในภาคทางเศรษฐกิจแล้ว นี่คือโอกาสสำคัญ ในการสร้างความได้เปรียบการต่อรองทางธุรกิจด้านต่างๆ ในแง่ของการค้าและการขนส่ง แม้ว่าวันนนี้เราจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนมากของประชาคมดังกล่าว เว้นเพียงการหลั่งไหลเข้ามาของแรงงานต่างชาติ ที่มีทั่วทุกหัวระแหงในวันนี้  ทว่าในใจความลึกๆ ของประชาคมดังกล่าว ก็มีข้อได้เปรียบต่างๆ โดยเฉพาะภาคการขนส่งที่หากรวมตัวกันแล้ว จะสามารถเคลื่อนย้ายสินค้าจากฝั่งทะเลตะวันออกไปยังตะวันตก ลดเวลาการขนส่งให้สั้นลง จากที่จะต้องขนด้วยทางเรือเพียงอย่างเดียว

หลายปีทีผ่านมา   Mazda  พาทัพนักข่าวตะลุยรอบอาเซียน เพ่อสำรวจความได้เปรียบของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และดูเป็นบริษัทรถยนต์รายเดียวที่สนใจเรื่องดังกล่าวอย่างแข็งขัน

ปีนี้มาสด้าเองกลับมาอีกครั้งกับการขับคาราวานมาสด้าไปรอบอาเซียน และงวดนี้ความตั้งใจของมาสด้า คือพาเราสำรวจเส้นทางเศษฐกิจ ภาคตะวันออกไปยังตะวันตก ว่ามันมีศักยภาพเพียงใด

การตื่นแต่เช่าเพื่อมาขึ้นเครื่องบินไปยังจังหวัด พิษณุโลก รับไม้เดินทางต่อจากผู้สื่อข่าวกลุ่มแรกที่เดินทางมาจากเวียดนาม เข้าลาว แล้วมาออกไทยทางจังหวัดมุกดาหาร ก่อนมาจบทริป ที่จังหวัดพิษณุโลก อาจจะสร้างความรู้สึกเหนื่อยในบางจังหวะ แต่ทริปนี้สำหรับผม ถือเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าอย่างมาก และตื่นเต้นตั้งแต่ได้รับหมาย ครั้นอยู่เว็บไซต์  Autodeft.com   และพอตัดสินใจว่าเราคงจะต้องออกมาทำเว็บไซต์เอง ก็เลยลองคุยกับทางมาสด้า พวกเขาก็อนุญาตให้ผมเดินทางไปในทริปนี้ด้วย และถือเป็นทริปแรกของผมกับหัวโขนใหม่   RideBuster.com   

การเดินทางไปพิษณุโลกด้วยเครื่องบินสายการบินนกแอร์ สร้างความตื่นเต้นไม่น้อย ปกติผมเคยบินไปพิษณุโลก 2-3 ครั้ง ด้วยสายการบินอื่นที่ใช้เครื่องใหญ่กว่านี้ แต่เช้าการเดินทาง นกแอร์ต้อนรับด้วยเครื่องบินใบพัดขนาดเล็กร่อนจากดอนเมืองไปยังยังเมืองสองแคว

พิษณุโลก เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักเมืองนี้เป็นอย่างดีในฐานะเมืองเอกเมืองหนึ่งของอดีตราชธานีกรุงศรีอยุธยา แถมยังมีพระคู่บ้านคู่เมืองที่คนไทยรู้จักกันดี พระพุทธชินราช ที่ไม่ว่าใครต่างก็รู้จักกันเป็นอย่างดี

ใช้เวลา 50 นาที จาก ดอนเมืองเราก็ร่อนลงที่พิษณุโลกเรียบร้อย ก่อนทางพี่อุทัย พีอาร์ รุ่นใหญ่จากมาสด้า จะพาผมและคณะนักข่าว รับประทานอาหารเช้า เติมพลังก่อนออกเดินทางจากพิษณุโลกในเช้าวันนี้ เย็นวันนี้เราจะไปอยู่ที่สิ้นสุดการเดินทางเมืองมะละแหม่ง … ประเทศพม่า …

ในบรรดาคาราวานของมาสด้า ในทริปนี้ มีรถมากมายหลายรุ่นให้เลือกตามความชอบ แต่งวดนี้ผมได้รถยนต์   Mazda 2   อีโค่คาร์ยอดรถขายดีของมาสด้า ที่วันนี้เห็นมากมายตามท้องถนน จนไม่ต้องบอกว่านี่คือหนึ่งในรถที่สร้างชื่อให้กับมาสด้า ตั้งแต่เปิดตัวออกมา จนผมเองเคยยืมมาเขียนรีวิวแล้วรู้สึกว่า รถดีจนไม่ต้องเขียน เพราะคนต่างหันมาสนใจเอง โดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล  นี่ขายดีจนรถไม่พอส่งขาย

หลังจากได้รถก็เก็บสัมภาระลงไป   Mazda 2   เครื่องเบนซิน 4 ประตู นี่กว้างขวางใช้ได้ ในรถมีผู้โดยสาร 3 คน รวมผมด้วย ก็สามารถจัดแจงสัมภาระยัดเข้าไปได้หมดสบายๆ เห็นตัวเล็กแบบนี้เรียกว่าจุไม่หยอกเลยทีเดียว

แต่เมื่อกะว่าเราจะขึ้นขับพี่นักข่าวอีกท่านก็รีบลั่นทันทีว่า “พี่ขอขับก่อน” เอาเถอะ เราก็เกรงใจผู้อาวุโส ให้เขาขับไป ส่วนผมกระโดดไปนั่งข้างหลังแทน

 Mazda 2 ตั้งแต่ผมเริ่มรู้จักรถคันนี้มา ยอมรับว่า ส่วนที่เรามักติติงรถคันนี้เสอม รวมถึงมาสด้าทุกรุ่น ก็ไม่พ้นเบาะนั่งแถว 2 ตอนหลัง ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาส นั่งเบาะแถว 2 ตอนหลังนานๆ เหมือนกับโดนบัญชาจากมาสด้า ประหนึ่งว่า ติดีนักลองดูละกัน ….. เหอะ !!

เมื่อไม่มีทางเลือก ที่นั่งตอนหลัง  Mazda2   ซีดาน จึงกลายเป็นที่พำนักชั่วคราวระหว่างการเดินทาง ที่นั่งที่ไม่สามารถปรับเอนได้ พื้นที่วางขาที่มีให้อย่างจำกัด เมื่อประกอบความอ้วนตัวใหญ่ของผมแล้ว การนั่งตอนหลังมาสด้า 2 ให้ความรู้สึกอึกอัดบ้าง เนื่องจากเป็นเส้นทางการเดินทางไกล แต่ถ้าถามว่านั่งแบบนี้ใช้ในเมือง ขับประเดี๋ยวประด๋าวถึงที่หมาย ผมว่าก็โอเคอยู่

ทางช่วงแรกจาก พิษณุโลก ตัดออกจังหวัดกำแพงเพชร เสน้ทางเชื่อมระหว่างตะวันออกไปตะวันตกในบ้านเราเป็นถนน 4 เลน (ฝั่งละ 2 เลน) แล้วตลอดทาง

ระหว่างทางยังไม่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่มากนัก เข้าใจว่า สินค้าจากเวียดนาม-ลาว ยังไม่ค่อยผ่านมาทางนี้สักเท่าไร มีเพียงรถบรรทุกสินค้าการเกษตรท้องถิ่นและรถคนพื้นที่ที่เดินทางระหว่างเมือง จำนวนในเส้นทางนี้ก็ค่อนข้างบางตา เรียกว่าใช้ความเร็วได้ ถ้าคุณรู้ว่ากล้องตรวจจับความเร็วอยู่ตรงไหน

เส้นทางแบบนี้บางคนอาจจะคิดว่ามันไม่เหมาะกับรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาสด้า 2 นัก เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3 ลิตร อาจจะออกแบบมาให้ใช้งานในเมืองมากกว่าก็จริง แต่ก็ดีพอจะเดินทางไกลได้ ถ้าคุณไม่รับรอบร้อน ต้องโหมทำความเร็วตลอดเวลา แต่ถ้าต้องหาจังหวะเร่งแซง ชุดเกียร์ของ   Mazda Sky Activ Drive  6 จังหวะก็มีดีพอจะตอบสนองการขับขี่ ตามความต้องการทันที่ที่ถีบคันเร่งลงไป
ไม่นาน เราก็มาถึงทางขึ้นแม่สอด ขบวน  Mazda DNA Sky Activ Caravan   แวะจอดพักชั่วครู่ ก็ไปผจญโค้งอันเลื่องชื่อลือชาที่แม่สอด ที่ว่าหิน และคดเคี้ยวในเมืองไทย

ผมยังนั่งเบาะตอนหลังเหมือนเดิม เมื่อออกเดินทาง เราก็พบว่า แม่สอดวันนี้ทำถนนยาวๆ จนเกือบถึงช่วงตัวอำเภอ ขบวนเราไปได้อย่างช้า เนื่องจาก ตลอดทางจะเจอรถบรรทุกสินค้าที่เตรียมนำไปส่งทางฝั่งพม่า แต่เมื่อพ้นช่วงทำถนนมาได้   Mazda 2 ก็ทำให้เรารู้ว่า ระบบช่วยเหลือ ในการขับขี่ใหม่ล่าสุด   G- Vectoring Control   มีดีกว่าที่คาด มันสามารถควบคุมรถในช่วงทางโค้ง ลดแรงเหวี่ยงได้ดี เสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ได้พอสมควร

ไม่นานเรามาถึงแม่สอด แวะพักรับประทานอาหารกลางวัน พร้อมรอผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ขบวนรถมาสด้าผ่านออกฝั่งไทยแล้วข้ามเข้าฝั่งพม่า โดยมีผมเป็นพลขับในการเดินทางสู่เมืองมะละแหม่ง

ตอนเข้าด่านพม่า เราต้องกลับเส้นทางจากวิ่งชิดซ้ายมาวิ่งชิดขวาต่างจากบ้านเรา ทั้งที่จริงอย่างที่คุณคงจะพอทราบมาบ้างว่า อังกฤษเคยมายึดพม่าเป็นเมืองขึ้นเมื่อนานมาแล้ว แต่พอได้เอกราชจากอังกฤษผู้นำที่นี่ เขาก็พยายามเอาอะไรที่เป็นอังกฤษไว้เลย รวมถึงกฎการจราจร ถนนหนทางในอังกฤษจากที่เคยขับแบบเมืองไทย ก็เลยเปลี่ยนการวิ่งชิดทางใหม่ให้มันไม่เหลือความเป็นอังกฤษ

จากด่านแม่สอด เราจะต้องมุ่งหน้าไปยังเมืองพะอัน ก่อนที่จะเข้าสู่จังหวัดมะละแหม่งของพม่า เส้นทางจากแม่สอดไปพะอันนี้ เดิมทีเป็นเส้นทางที่ผมเคยขับมาแล้ว เมื่อ 4 ปีก่อนหน้านี้ ตอนนั้นมารับบทขับ   Mazda BT50 Pro   จาก ย่างกุ้งกลับกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในทริปที่ไม่เคยลืม

ในครั้งนั้น การจะมาถึงแม่สอดได้ต้องผ่านเทือกเขาถนนธงชัย เส้นทางออฟโรดขึ้นเขาระยะ 30 กิโลเมตร แต่อยู่เหมือนนานหลายร้อยกิโลเมตร เส้นทางถนนที่แคบ ทำให้ รัฐบาลพม่าปรับปรุงตัดเส้นทางใหม่ที่สะดวกสบายมากขึ้น

ตอนนี้ผมกำลังอยู่เส้นทางนั้นที่ชาวพม่าบอกว่าเป็นทางใหม่ ล่าสุดมาชายแดนไทยฝั่งแม่สอดมันเป็นถนน 2 เลนสวน  แบบที่เราเคยเห็นตามชนบท ตัดอ้อมผ่านเขาสูงชัน รายล้อมด้วยป่าไม้ริมทางเขียวขจี ที่ยากเห็นได้ในเมืองไทย

เส้นทางพม่าสายนี้มีความแปลกอยู่ประการคือเมื่อลงทางลดชัน ทางการจะทำลูกระนาดต่อเนื่องเอาไว้ เพื่อชะลอความเร็ว

พวกเราในรถคุยกัน … พม่าคิดได้อย่างไร แล้วเราก็พาลนึกถึงเส้นขีดๆ เสียงดังๆ บ้านเรา ว่าดีกว่าเยอะเลย !!

ขับมาสักพัก เราเริ่มเข้าสู่ถนนเส้นเดิม สภาพถนนเมื่อ 4ปีที่แล้ว จำได้ว่าดีกว่านี้  หากงวดนี้ถนนกลับพังไปตาลกาลเวลา สภาพถนน เหมือนกับชนบทที่ห่างไกล ถนน 2 เลนสวน ที่ไร้แม้แต่เส้นประถนน  แบ่งเลน แถมรถที่พม่า โดยเฉพาะรถบรรทุกขับสวนกันด้วยความเร็ว  ทำเอาผมที่ขับมาสด้า 2 น้องน้อยคันเล็กแต่สู้ฟัดมาพม่า เสียววุบๆ เป็นบางคราว

ถ้าเทียบกับคันอื่นในขบวนแล้ว ผมว่า เรามีโอกาสที่ดีกว่า ตรงความคล่องตัวของมาสด้า 2 ดีกว่า แม้ว่าเครื่องยนต์ 1.3 ลิตร จะไม่ได้แรงจัดมากมาย แต่ถ้าจับจังหวะดีๆ ก็ผ่านไปได้สบาย 

ในการขับถนนเลนสวนที่เริ่มหายากในบ้านเรา เว้นในอำเภอหรือจังหวัดที่ห่างไกลจริง การตัดสินใจเป็นเรื่องสำคัญมาก คุรต้องคิดถึงรถที่คุณขับว่ามีกำลังแรงบิดเท่าไร , ช่วงตัวเท่าไร  จากนั้นมองจังหวะข้างหน้า แล้วตัดสินใจว่าพอหรือไม่ อย่าลังเล

แต่เนื่องจากเราขับชิดขวา แล้วพวงมาลัยรถก็อยู่ทางขวา การขับในพม่า เมื่อตามท้ายรถบรรทุกก็เหมือนเราตาบอดกลายๆ ต้องหันไปสบตาคนข้างๆ หรือไม่ก้บอกว่า พี่ๆ ช่วยดูจังหวะให้หน่อย ทำงานกันเป็นทีม เพื่อจะได้แซงรถช้าขึ้นไป ไม่งั้น พระอาทิตย์ตกก็คงไม่ถึงมะละแหม่ง

มีจังหวะหนึ่งผมยังจำได้ พี่ที่นำขบวน บอกให้เราขับตามเพื่อแซง รถบรรทุกคันหน้าที่ช้ากว่า ผมตามพี่เขาอย่างไม่สงสัย เพราะพี่เขาขับ   Mazda BT50 Pro   คันสูงใหญ่ มองไกลชัดเจน แต่พอ 2 คันแรก ออกไปถึงคันเรา ออกไป ครึ่งคันรถบรรทุก เห็นรถบบรทุกสวยมา ใน 2 ช่วงคันรถข้างหน้า ผมเร่งเครื่อง 1.3 เต็มทีเพื่อแซงแล้ว และผ่านมาได้แบบเฉียดฉิว ซึ่งก็ไม่ได้มีใครผิดหรอกครับ เพราะรถบรรทุกที่สวยมาก็มาเร็วด้วย !!

เส้นทาง 2 เลน ระยะแรกนี้มีระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร ถ้าบ้านเรา ก็คงถึงไปนานแล้ว เพราะถนนหนทางในไทยเราดี

อันนี้ไม่ได้ชมประเทศตัวเอง แต่สภาพถนนที่ผมขับตอนนี้มันสุดจริงๆ นี่ถ้า มาสด้าคิดจะทำรถแรลลี่แข่งขันชิงแชม์ทางฝุ่น ผมว่าคงได้ข้อมูลไปปรับช่วงล่างอีกเพียบเลย หลังจากทริปนี้ 

ตลอดเส้นทาง อาหารกลางวันย่อยไปอย่างรวดเร็ว ถนนไม่ได้ถึงขนาดเป็นหลุมบ่อ แต่ก็ไม่มีคำว่าเรียบ คุณคงพอนึกออกถึงถนนลาดยางเก่าๆ ที่ไม่ได้ดูแลมานาน แล้วรถบรรทุกวิ่งกันถนนเสีย นั้นคือเส้นทางที่เราเผชิญตอนนี้ แถมระหว่างทางเมื่อผ่านเข้าเขตเมือง ก็อารมณ์คล้ายๆ คุณผ่านทางในหมู่บ้าน ห่างไกล แต่คนจะเยอะกว่า การจราจรเขตเมืองเป็นไปอย่างลำบาก

ผมถามทางผู้จัดว่า นี่มันไม่มีเส้นทางอื่นที่จะไปแม่สอดแล้วหรือ คำตอบสันๆ คือ ใช่ ..
ผมนั่งนึกเส้นทางจากตะวันออกมาตะวันตกของการขนส่งทางการค้าในฝัน คงอาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะใหญ่  เลยทีเดียว

เมื่อผ่านพะอัน เราก็เข้าสู่ช่วงโปรโมชั่น ถนนลาดยางใหม่ ไปยังเมืองมะละแหม่ง ถนนที่พม่าค่อนข้างวางเลนกว้างกว่าถนนเลนสวนบ้านเรา มีไหล่ทางพอจะจอดรถบรรทุกได้โดยไม่เกะกะ รถที่ใช้เส้นทาง แต่ก็ยังเป็นถนนเลนสวนอยู่ดี 

เส้นทางลาดยางใหม่นี้ทำให้เราใช้ความเร็วเพิ่มขึ้นได้นิดหน่อย เมื่ออยู่ถนนแบบนี้ มาสด้า 2 คงยิ้มแก้มปริ หลังจากที่พาเราย่าตลอดทางมายาวนาน

Mazda 2 ใหม่ที่มีระบบ   G Vectoring Control   ได้แสดงให้เราเห็นศักยภาพในการขับขี่ เมื่อเข้าโค้ง รถจะตอบสนองต่อการคัดพวงมาลัยอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนทิศทางในการขับขี่ อย่างว่องไวมากขึ้น ส่วนที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด คือการตอบสนองของแรงเหวี่ยงที่ลดลงอย่างชัดเจน มันช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น แต่ก็มีขัดจำกัดเช่นกัน ไม่ใช่ว่าคุณเข้าโค้งแรงแล้วรถจะไม่มีแรงเหวี่ยงเลย

ไม่นานผมมาถึงเมืองมะละแหม่ง ปลายทางเส้นทางการขนส่ง ตะวันออกมายังตะวันตก  Mazda DNA Sky Activ Caravan   มาถึงปลายทางของเส้นทางเศรษฐกิจในฝัน ที่วันนี้ยังไม่เป็นจริง

ผมย้อนดูข้อมูลเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก  หรือ East West Economic Corridor  เส้นทางหมายเลข R2  มีความยาวทั้งสิ้น   1,450 กิโลเมตร ในจำนวนนี้ 950 กิโลเมตร เป็นเสน้ทางที่อยู่ในประเทศไทย ตัดจากจังหวัดมุกดาหาร, กาฬสินธุ์,ของแก่น ,เพชรบูรณ์ พิษณุโลก กำแพงเพชรและไปยังชายแดนพม่าที่ จังหวัดตาก  

เส้นทางนี้ ถ้าไม่นับเพื่อนบ้านเรา ถือว่ามีความพร้อมอย่างมาก ถนนในไทย ถือว่าดีแล้วและสามารถข้ามไปมาได้สบาย แต่จากท่ลองเข้าไปสำรวจเส้นทางในพม่า ถือว่าน่าจะยังอีกยาวไกล คงต้องมีการปรับปรุงอีกเยอะ จึงจะใช้งานได้ เช้นในส่วนของจุดผ่านแดนทั้ง 2 ประเทศ (ไทย-พม่า) ที่อาจจะต้องทำให้รองรับการเดินทางเข้าออกของคาราวานขนสินค้า หากเส้นทางเศรษฐกิจนี้เป็นจริง

ผมยืมมองอ่าวเมาะตะมะ คงเป็นคนไทยไม่กี่คนที่มาถึงที่นี่ ที่เมาะตะมะ เคยเป็นเมืองท่าแรกๆที่อังกฤษเข้ามาปกครองก่อนจะมีการรบเกิดขึ้น จนมีการปกครองพม่าทั้งหมด

แต่วันนี้ผมได้ยินมาว่าเมือง “ทวาย” จะเป็นจุดสำคัญต่อไปของการขนส่งสินค้าในเสน้ทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก  ผมเชื่อว่าคงอีกไม่นานที่เราจะเห็นเส้นทางเศรษฐกิจนี้เป็นจริง อย่างน้อยที่สุดก็จากไทยไปพม่า … แน่นอนมัน คงจะสร้างรายได้ให้บ้านเราไม่น้อย หากเส้นทางนี้เริ่มถูกใช้งานตามที่นักเศรษฐศาสตร์หวังเอาไว้

 

เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง

ขอบคุณมาสด้า ประเทศไทย ที่เชิญเข้าร่วมกิจกรรม   Mazda DNA Sky Active Caravan  ช่วงที่ 2 พิษณุโลก – เมืองมะละแหม่ง ประเทศพม่า

 

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 

[ngg_images source=”galleries” container_ids=”258″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่