ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนจำนวนมากเริ่มคิดถึงอนาคตของการเปลี่ยนถ่ายจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น รถบางรุ่นเริ่มวางจำหน่ายแล้ว และบางรุ่นกำลังพัฒนาให้มีศักยภาพเทียบเท่ารถยนต์ที่ใช้น่ำมันในการการขับขี่  หากว่าคำถามที่หลายคนมักจะสงสัย คงไม่พ้น เครื่องยนต์สันดาปภายในจะหายไปเมื่อไรกัน 

การเปลี่ยนถ่ายสุ่อนาคตยุครถไฟฟ้า ถือว่าเป็นสิ่งที่หลายคาดการณ์ได้ แต่ในแง่เชิงธุรกิจมันคือการลงทุนมหาศาลมากกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้กันมาหลายร้อยปี 

หลายค่ายเริ่มแสดงความมั่นใจว่า รถยนต์ไฟฟ้าอาจจะไม่ใช่ทางออกของปัญหาในการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งหมด รวมถึงแนวคิดการลดขนาดเครื่องยนต์ไปสู่เครื่องเทอร์โบชาร์จ เริ่มที่จะถูกกังขาเรื่องศักยภาพที่แท้จริงของมัน และล่าสุด   Mazda   เป็นบริษัทที่ 3 ที่ออกมากล่าวยืนยันว่า เครื่องยนต์สันดาป-ายในจะยังคงอยู่ต่อไป 

นาย โรเบิร์ท เดวิส  รองประธานของมาสด้า รับผิดชอบทางด้านส่วนงานพิเศษสำหรับตลาดอเมรกาเหนือ เพิ่งจะเปิดเผยแนวคิดส่วนหนึ่งของมาสด้า ว่า พวกเขาไม่เชื่อว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในจะตายเร็วอย่างที่หลายคนคาดการณ์ดันเอาไว้ 

การเปิดเผยครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางวงเสวนาในอเมริกาเหนือ โดย เดวิส กล่าวว่า ภาคัฐบาลพยายามส่งเสริมรถยนต์พลังไฟฟ้าในตลาดที่ถูกต้อง เช่น แคลิฟอร์เนี่ย แต่ปัญหาสำคัญของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข คือจะทำอย่างไร ถ้ามีแบตเตอร์รี่จำนวนมากถูกเลิกการใช้งาน แล้วกลายเป็นขยะ 

นายเดวิส กล่าวต่อไปว่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณควรจะเรียกว่า “การปล่อยไอเสียเป็นศูนย์” หากมันคือการย้ายไอเสียไปเป็นรูปแบบอื่น เปลี่ยนวิธีการปล่อยของมัน

Mazda2 (2)

“เราพยายามวิธีการที่ดีที่สุดเพื่อทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น เราอาจจะไม่ใช่คนสร้างคู่มือที่จะบอกว่าเราจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร” 

แม้ว่าการอสดงท่าทีของ เดวิส อาจจะเหมือนถึงต่อต้านรถยนต์พลังไฟฟ้า แต่   Mazda   ก็เป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่กำลังอยุ่ในระหว่างพัฒนารถยนต์พลังไฟฟ้าเพื่อตอบโจทย์อนาคต 

เดวิสกล่าวว่า  ก่อนที่เราจะตัดสินใจพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด เราถูกทำให้เชื่อว่า เครื่องยนต์สันดาปภายในจะสูญพันธ์ุอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ความจริงยังพัฒนาศักยภาพได้อีกหลายด้าน 

ที่มา   Automotive News

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่