นับตั้งแต่ MAXUS เปิดตัวกระบต้นแบบ MAXUS GST ที่เมืองจีนและพร้อมที่จะพัฒนาอีกขั้นในเวอร์ชัน Production Car ในอีกไม่ช้า
พร้อมแปะตราอื่นๆในเครือส่งขายหลายประเทศทั้งแบรนด์ LDV ออสเตรเลีย และ MG และล่าสุดพร้อมแล้วที่จะเปิดตัวถอดแบบมาตั้งแต่ ไฟหน้า LED ในโคมล้อมกรอบไฟ DRL LED ติดตรา MAXUS หรือตราอื่นๆในเครือขนาดใหญ่ ฝากระโปรงหน้ามีขอบหนา ซุ้มล้อทรงเหลี่ยม ไฟท้าย LED แนวตั้ง ด้านภายในแน่นอนว่ามาพร้อมจอคู่ที่รวมการทำงานทั้งมาตรวัดความเร็วและจอสัมผัสระบบความบันเทิงเต็มรูปแบบ
การเปิดตัวในช่วงแรกมาในเวอร์ชันอีวีอาจนำขุมพลังจากตัวปัจจุบันมาพัฒนา ด้วยความจุแบตเตอรี่ 88.55 kWh มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวลงสู่ล้อหลังให้พลังมากสุด 177 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร วิ่งไกลสุด 330 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน WLTP ความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้านการชาร์จโดยชาร์จช้า AC กระแสสลับ รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 11 kW โดยชาร์จตั้งแต่ 5-100% แบบเฝสเดียว 13 ชั่วโมงและสามเฝด 9 ชั่วโมง ส่วนชาร์จเร็ว DC กระแสตรง รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 80 kW ภายในเวลา 45 นาที
ขุมพลังดีเซลเทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร แรงสุด 218 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดจาก ZF เพิ่มพลังลุยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time with Terrain Selection 4WD พร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย electronic differential lock (EDL) กับ ดีเซลคอมมอลเรลเทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 161 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้งโหมด ECO และ POWER มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ
จะตามมาหลังการเปิดตัวเวอร์ชันอีวีและมีการปรับพละกำลังตอบรับกับเจนใหม่ ออสเตรเลียเตรียมที่จะเปิดตัวช่วงปลายปี 2024 หรือต้นปี 2025 ส่วนเมืองไทย MG Extender จะได้พบกับเจนใหม่ด้วยหรือไม่ติตตามในครั้งต่อไป
