แม้ Maserati Grecale จะถูกสร้างขึ้นมาด้วยคอนเซ็ปท์ที่เน้นนำเสนอในเรื่องความแรง แต่ด้วยขนาดที่กระทัดรัดของมัน จึงทำให้ไม่ยากเท่าไหร่นักที่ทางค่ายจะนำมันไปร่วมมือกับ Barbie จนเกิดเป็นรถยนต์รุ่นพิเศษที่มีเพียง 2 คันในโลกเท่านั้นออกมา

Maserati Grecale x Barbie

Maserati Grecale x Barbie คันนี้ ถือเป็น 1 ใน 2 คัน เท่านั้น ที่จะถูกผลิตขึ้นมาจากความร่วมมือระหว่างทั้งสองบริษัท ซึ่งจุดเด่นของมันที่เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด ก็แน่นอนว่าจะต้องเป็นเฉดสีของตัวถัง ที่หากมองผ่านๆจากในภาพมันอาจจะดูเหมือนเป็นแค่เฉดสีชมพูธรรมดาๆเท่านั้น แต่หากลองสังเกตแสงเงาของมันให้ดี มันก็จะมีการเหลือบเฉดสีรุ้งอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของตุ๊กตาแบรนด์ดังขึ้นมา

การตกแต่งภายนอกฉบับของ Barbie ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะทาง Marserati ยังเลือกตัดโทนเพิ่มความโดดเด่นของตัวรถด้วยการใช้เส้นขอบเหลืองนีออนแทรกเข้าไปตามชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกรอบกระจังหน้า, ขอบบนของช่องดักลมซ้าย-ขวา ที่กันชนหน้า, ขอบช่องระบายอากาศ 3 รู เยื้องซุ้มล้อ, กรอบเส้นกันชนท้าย, และตราสัญลักษณ์แบรนด์ที่ตัวปิดดุมล้อทั้งสี่

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนโลโก้ชื่อรุ่นย่อย ที่อยู่บนช่องระบายอากาศ 3 รู เยื้องซุ้มล้อใหม่ ให้กลายเป็นโลโก้ลายเซ็น Barbie โดยที่ทางด้านล่าง ก็จะเป็นการใส่ลายเซ็นบริษัทเจ้าของรถตัวจริง(ก่อนเปิดประมูล)นั่นคือ Neiman Marcus ส่วนโลโก้รูปตรีศูลที่เสาซีเองก็ถูกเปลี่ยนเป็นโลโก้รูปตัว “B” สัญลักษณ์ของตุ๊กตาแบรนด์ดังด้วยเช่นกัน

Maserati Grecale x Barbie

ฝั่งงานตกแต่งภายในก็เน้นคุมโทนที่ไม่ต่างจากภายนอกเท่าไหร่นัก โดยในฝั่งชิ้นงานหุ้มหนังทั้งหลาย ก็จะเลือกใช้หนังกลับสีดำ ที่เดินด้ายเย็บเป็นตะเข็บสีชมพู ส่วนชิ้นงานที่เคยเป็นผิวคาร์บอน ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นชิ้นงานที่ถูกเคลือบด้วยสีชมพูเหลือบรุ้งเช่นเดียวกับสีตัวถังภายนอก

อย่างไรก็ดี แม้ตัวรถจะถูกตกแต่งด้วยความหวานแหวว แต่สเป็คของตัวรถ กลับเป็นตัวแรงสุดของตระกูล นั่นคือรุ่นย่อย Trofeo ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ “Nettuno” V6 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ซึ่งให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัต 8 สปีด ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.8 วินาที และมีความเร็วสูงสุด ที่ 285 กิโลเมตร/ชั่วโมง

Maserati Grecale x Barbie

โดยตัวรถ Maserati Grecale x Barbie คันนี้ จะถูกวางจำหน่ายในลักษณะของการเปิดประมูล ภายใต้การดูแลของบริษัทห้างสรรพสินค้าสุดหรูของสหรัฐอเมริกาอย่าง Neiman Marcus และรายได้จากการขาย 10% จะถูกนำไปสมทบทุนในโครงการ Barbie Dream Gap Project หรือโครงการสนับสนุนความฝันของเด็กๆให้เป็นจริง ซึ่งคาดว่าตัวรถจะถูกปิดการประมูลด้วยตัวเลขสูงสุดราวๆ 330,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.5 ล้านบาท

ข้อมูลจาก Carscoops

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่