หลังเข้าสู่ยุครถปลายรุ่นของเอสยูวีหรูสายเลือดซามูไรอย่าง Lexus RX เจเนอเรชันที่ 4 ทำให้ Lexus เข็นเจเนอเรชันที่ 5 รับช่วงต่อทันที

โดย Lexus RX 2023 ได้ถูกเปิดตัวไปแล้วทั้งในญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรป ล่าสุด Lexus ประเทศไทยเอง ก็พร้อมพร้อมแล้วที่จะนำเข้ามาขายโดยเจเนอเรชันใหม่นี้มีทั้งรุ่นปกติและรุ่นแรง F Sport Performance เข้มด้วยกระจังหน้า Spindle Gril ทรงตาข่าย ช่องระบายอากาศตกแต่งสปอร์ตสีดำ ภายในตกแต่งแตกต่างจากรุ่นปกติทั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังพิเศษ แป้นเหยียบอะลูมิเนียม แผงประตูหนังกลับ และสครัพเพลตชายประตูลาย F SPORT

ด้านรุ่นปกติภูมิฐานด้วยไฟหน้า LED แบบใหม่ สี่ตา พร้อมไฟเลี้ยววิ่ง Sequential Turning มีไฟส่องกลางวัน DRL แบบ “Nike-swoosh” รูปตัว L ที่แยกจากกัน ประกบกับกระจังหน้า Spindle Gril มีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ ล้ออัลลอยขนาดใหญ่เลือกได้ตั้งแต่ขนาด 19 นิ้ว และ 21 นิ้ว ไฟท้าย LED ดีไซน์ลากยาว ปะโลโก้ตัวอักษร Lexus แทนโลโก้ทรงกลมประดับไว้โชว์ความหรู รับกันชนหลังพร้อมช่องระบายอากาศ โดยตัวรถเทียบกับเจเนอเรชันที่แล้วมีความยาว ฐานล้อ ความกว้าง เพิ่มขึ้นและความสูงลดลงเล็กน้อย

ภายในเทียบชั้นรถคู่แข่งจากเยอรมนีได้ด้วยชุดหนังสัมผัสคุณภาพตกแต่งทั้งเบาะคอนโซลหน้าแผงประตู ที่เปิดประตูภายในมาแปลกมาแบบกดปุ่ม จอสัมผัสขนาดใหญ่  14 นิ้ว  มาตรวัดดิจิตอลขนาดใหญ่ 9.8 นิ้ว พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน หลังคาพาโนรามิกขนาดใหญ่ จอแสดงข้อมูล Head-up Display พร้อมไฟส่องภายในแบบ multi-colored illumination มีทั้งหมด 64 สี เป็นต้น

ขุมพลังลดขนาดความจุลงแต่เพิ่มแรงม้ามากขึ้น ด้วยเบนซินเทอร์โบ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 279 แรงม้า แรงบิด 429 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้ากับขับเคลื่อนสี่ล้อ electronically controlled full-time AWD กระจายกำลังล้อหน้าและล้อหลังแบบ 75:25 และ 50:50

ส่วนรุ่น HEV Full Hybrid ก็จะใช้ขุมพลัง 2.4 ลิตร เทอร์โบจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ โดยให้กำลังรวม 372 แรงม้า แรงบิด 406 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ DIRECT4

และรุ่นไฮบริดเล็กก็จะใช้เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า-หลังแบบ 5NM และแบตเตอรี่ Hybrid แบบ Nickel-Metal ทำงานร่วมกันได้กำลังสูงถึง 249 แรงม้าแรงบิด 316 นิวตันเมตร จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ ECVT มีให้เลือกทั้งรุ่นขับเคลื่อนสองล้อหน้ากับขับเคลื่อนสี่ล้อ E-Four

ปิดท้ายด้วยรุ่นมีถ่านก้อนใหญ่แบบเสียบปลั๊ก Plug-in hybrid เบนซิน 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว และความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 18.1 kWh เมื่อทำงานร่วมกันให้แรงม้ารวม 306 แรงม้า วิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้า EV 60 กม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ECVT พร้อม Sequential Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ e-Four มอเตอร์ไฟฟ้าแบบติดตั้งด้านหลัง กระจายแรงบิดระหว่างล้อคู่หน้าและล้อคู่หลัง ได้ตั้งแต่ 100 : 0 ถึง 20 : 80 

Lexus RX เอสยูวีญี่ปุ่นหรูเจเนอเรชันใหม่พร้อมเปิดตัวและประกาศราคาที่งาน Motor Expo 1-12 ธันวาคม นี้ โดยมีทั้งรุ่น RX350, RX350h, RX500h และ RX450h+

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่