ในขณะที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในหลายๆประเทศทั่วโลก มีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนหลายๆครั้งก็เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทว่านั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ในช่วงขวบปีที่ผ่านมาเสียอย่างนั้น
จากการรายงานข้อมูลโดยสื่อในเกาหลีใต้ ระบุว่าในปี 2023 ที่ผ่านมา ยอดขายของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ไม่ใช่แค่ชลอเฉยๆตัวเท่านั้น แต่ด้วยจำนวนยอดขาย 157,823 คัน เท่ากับว่าเป็นยอดที่หดตัวลง -0.1% เมื่อเทียบกับยอดขายปีก่อน ซึ่งมันอาจดูไม่ได้ลดลงมากมายอะไรเลย แต่มันคือการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มนี้เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2017
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ลดลง หลักๆแล้วก็เกิดจากการที่ชาวเกาหลีใต้เริ่มพะวงถึงปัญหาความเสี่ยงที่รถอาจจะเกิดไฟไหม้จากระบบแบตเตอรี่ ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในขณะที่รถกำลังจอดชาร์จอยู่ หรือหลังเกิดอุบัติเหตุ อ้างอิงจากการสำรวจและเปิดเผยข้อมูลขององค์การแห่งความปลอดภัยในการคมนาคมแห่งเกาหลีเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
ไม่เพียงเท่านั้นหากย้อนไปในปี 2020 และ 2021 ยังเคยเกิดกรณรถยนต์ไฟฟ้าไฟใหม้อยู่หลายครั้งในเกาหลีใต้ และยังมีครั้งหนึ่งเป็นกรณีของรถบัสไฟฟ้าของทาง KIA เกิดไฟไหม้ขณะกำลังใช้งานรับส่งผู้โดยสารอีกด้วย ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ในประเทศอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้า ทาง Hyundai Motor ยังได้มีการแจ้งรีคอลล์รถยนต์ไฟฟ้า Hyundai Kona ของลูกค้าทั่วโลกกว่า 77,000 คัน หลังพบกรณีรถยนต์รุ่นดังกล่าวเกิดเหตุไฟไหม้ไปถึง 13 ครั้ง ซึ่งทางฝั่งผู้ผลิตระบุว่าปัญหาเกิดจากความผิดพลาดของตัวแบตเตอรี่ติดรถที่ผลิตโดย LG บริษัทอิเล็กทรอนิกส์เจ้าดังสัญชาติเดียวกัน
ทว่าในฝั่งผู้รับผิดชอบในการผลิตแบตเตอรี่กลับออกมาให้ข้อมูลปฏิเสธว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากแบตเตอรี่ที่ตนผลิตให้ แต่เกิดจากปัญหาในด้านอื่นต่างหาก และทาง Hyundai ควรตรวจสอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นใหม่ แต่ท้ายที่สุดก็ดูเหมือนว่าจะจบลงด้วยการที่ทางผู้ผลิตรถยนต์หันไปหาซัพพลายเออร์รายใหม่แทน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าเป็นการเฉพาะหน้าไปก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น จากปัญหาความเสี่ยงที่จะเกิดเพลิงไหม้ จึงทำให้ประชากรเกาหลีใต้หลายคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนเมือง ซึ่งมักมีที่พักเป็นอาการปิด หรือคอนโดมิเนียม ตัดสินใจที่จะใช้รถยนต์ขุมกำลังสันดาปภายใน หรือเต็มที่คือแค่รถยนต์ไฮบริดต่อไป เนื่องจากหากเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ขึ้นมา ความเสียหายที่เกิดขึ้น มีโอกาสที่จะเกิดน้อยกว่า และหน่วยกู้ภัย หรือหน่วยดับเพลิงสามารถจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า รวดเร็วกว่าด้วย
อีกสาเหตุที่ทำให้ชาวเกาหลีใต้ ให้ความสนใจในตัวรถยนต์ไฟฟ้าน้อยลง ก็เป็นเพราะแม้ประเทศของพวกเขา จะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีสถานีชาร์จ และตู้ชาร์จแบบติดผนัง (Wall Charge) มากเป็นอันดับต้นๆของโลก (เมื่อเทียบกับอัตราสัดส่วนประชากร) แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะสอดรับกับความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในเกาหลีใต้ ณ ปัจจุบันอยู่ดี จนทำให้เกิดกรณีแย่งกันหาจุดชาร์จ รอชาร์จ และสร้างความติดขัดในการใช้งานเป็นอย่างมาก
ประเด็นสุดท้ายคือ เรื่องของราคา ที่นับวันดูเหมือนว่า ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าจะพุ่งสูงเกินไป แต่ในขณะเดียวกันขีดความสามารถของตัวรถ โดยเฉพาะเรื่องของระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จ กลับยังไม่สูงขึ้นตาม แถมค่าประกันอุบัติเหตุยังสูงกว่ารถยนต์สันดาปภายในพอสมควร จึงทำให้ชาวเกาหลีใต้ต้องคิดหนักมากขึ้น เมื่อพวกเขาอยากจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้สักคันในตอนนี้
จากรายละเอียดปัญหาในข้างต้น จะเห็นได้ว่ามันอาจเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับชาวไทยในเร็ววัน แต่ภาครัฐของบ้านเรา จะสามารถแก้ปัญหาและนโยบายสนับสนุนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า นอกไปเสียจากการอุดหนุนมูลต่าตัวรถ กับสนับสนุนการเปิดโรงงาน ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งส่วนแรกของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าได้ดีแค่ไหน ? ยังต้องรอติดตามดูกันต่อไปหลังจากนี้
