เมื่อต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) หรือ กฏมายจราจรใหม่ 2565 ,ได้เริ่มมีผลบังคับใช้ มาตั้งแต่วันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา

การบังคับใช้ กฏหมายนี้ นับเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งมโหราฬ ถึง ระเบียบการจราจรในประเทศไทย และวันนี้ ทางทีมงาน Ridebuster เราจะออกมาเปิดเผย บรรดาเรื่องสำคัญที่ควรรู้ กฏหมายจราจรใหม่ 2565 ที่เพิ่งเริ่มบังคับใช้ ล่าสุด

1.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เวลาโดยสาร

ในกฏหมายใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มบังคับใช้ ทางภาครัญฐ ให้น้ำหนักความสำคัญในเรื่องการคาดเข็มขัดนิรภัยมากขึ้น

โดยมาตรา 123 ที่มีการบัญญัติใหม่ กำหนดให้

rear-seat-seatbelt (2)

ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่ง จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ขณะโดยสารยานพาหนะ
สำหรับผู้โดยสารเด็กเล็ก ที่อายุไม่ถึง 6 ขวบ กำหนดให้ต้องนั่งพิเศษ หรือ Car Seat เพื่อความปลอดภัยในการโดยสาร ระหว่างการเดินทาง

2.ตอนหน้านั่งได้ แค่ 2 คน

ตามประมวลกฏหมายใหม่ มาตรา 123/2 ระบุให้ การโดยสาร ตอนหน้า ไม่สามารถนั่งได้เกิน 2 คน กล่าวคือ คุณสามารถนั่งได้เพียงผู้ขับ และผู้โดยสาร 1 คนเท่านั้น การนั่ง 3 ในกระบะตอนเดี่ยวหรือ รถที่ใช้เบาtนั่งแถวยาว หรือ Bench Seat จะมีความผิดดังกล่าว

3.นัดรวมตัว คาร์คลับพึงระวัง

ใครที่เป็นสายชอบรวมตัว กับกลุ่มเพื่อนที่ชื่นชอบรถ ต้องระวัง เพราะ มาตรา 134 งวดนี้มาแรง … มาก

โดยตามประมวลกฏหมาย หากมีการรวมตัวกันมากกว่า 5 คันขึ้นไป ให้ถือว่า “มีความพยายามแข่งรถในทาง” ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

  • มีการดัดแปลงสภาพรถ ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย
  • มีการนัดหมายกันมาก่อน
  • มีพฟติกรรมในกลุ่มแสดงว่าจะแข่งรถในทาง

ตามกฏหมายใหม่ การแข่งรถในทาง ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)

4. ร้านแต่งรถโดนด้วย

ในกฏหมายใหม่ ร้านแต่งรถทั้งหลาย ต้องพึงอบรมลูกค้าให้ดีด้วย ถ้าตำรวจสืบคดี พบว่า รถที่นำมาแข่งในทางมาจากร้านของคุณ ร้านจะต้องมีส่วนรับผิดชอบ โดยรับโทษในฐานะผู้สนับสนุน มีโทษ 2 ใน 3 ของเรื่องนี้

5.ระงับการใช้รถ ได้ ถ้าเห็นว่าไม่ปลอดภัย

นอกจากการแข่งรถในทางแล้ว สำหรับใครที่ใช้รถเก่า และไม่ค่อยบำรุงรักษา ให้อยู่ในสภาพดี ในครั้งนี้ กฏหมายใหม่ อนุญาตให้ เจ้าพนักงาน สามารถสั่งห้ามใช้รถ และ ห้ามใช้รถ ชั่วคราวได้ โดยแบ่งเป็นกรณี

การสั่งห้ามใช้รถ จะเป็น รถมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรงและหากให้ใช้รถต่อไปอาจเกิดอันตรายได้โดยชัดแจ้ง เจ้าหน้าที่ สามารถ ให้ผู้ขับขี่ นำรถให้พ้นทาง หากไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ หรือผู้ได้รับหน้าที่ สามารถดำเนินการแทนได้

กล่าวง่าย รถที่อยุ่ในสภาพไม่ปลอดภัย ตำรวจ สามารถ สั่งห้ามใช้รถในทางได้ทันที ที่พบ

กรณี ห้ามใช้รถชั่วคราว เป็นการสั่งโดยเจ้าพนักงาน ให้ผู้ขับขี่ หรือ ผู้ครอบครอง นำรถคันดังกล่าวไปปรับปรุงความปลอดภัย ให้เป็นไปตาม กฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก โดยให้เวลา อย่างน้อย 15 วัน แต่ ไม่เกิน 60 วัน

โดยระหว่างคำสั่ง จะมีการติดเครื่องหมาย คำสั่งห้ามใช้ที่รถคันดังกล่าวอย่างชัดเจน และหากทำลาย เครื่องหมายดังกล่าว มีโทษปรับหนัก สูงสุด 4,000 บาท ตามมาตรา 156/1

ในกรณีนี้ เช่น รถไฟท้ายแตก ตำรวจ สามารถสั่งห้ามใช้รถชั่วคราวได้ เพื่อให้ไปซ่อมแซมปรับปรุง เมื่อทำแล้ว ให้ไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ ว่ามีการปรับปรุงแล้ว เพื่อยกเลิกคำสั่งต่อไป คล้ายในต่างประเทศ

6. ขับรถ ระหว่าง โดนพักใบอนุญาตขับขี่ มีโทษ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

7.สายเมาต้องทราบ

ข้อหาเมาแล้วขับในหนนี้ มีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม โดย แบ่งเป็น

กระทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

ในกรณี ทำผิดซ้ำ ในข้อหาเมาแล้วขับในเวลา 2 ปี นับแต่วันที่โดนโทษครั้งแรก เพิ่มอัตราโทษ เป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 50,000 – 100,000 บาท และศาลจะลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ

1280px-Japanese_car_accident

8.สายเสี่ยงปรับแรงขึ้น

ในกรณีที่ขับรถ ด้วยความเสี่ยงในรูปแบบต่างๆ ค่าปรับในงวดนี้ มีความรุนแรงมากขึ้นตามลำดับ ดังนี้

  • ขับรถเร็วเกินกำหนด ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
  • ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
  • ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย ปรับไม่เกิน 4,000 บาท
  • ขับรถย้อนศร ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ไม่สวมหมวกนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท
  • ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

นอกจากนี้ยังนี้ ยังเพิ่มโทษผู้ขับขี่ที่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น เป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในภาพรวม จะเห็นว่า การปรับประมวลกฏหมายจราจร ทั้งหมด กระทำ เพื่อให้ความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น รวมถึง ยังเพิ่มประมวลค่าปรับให้แพงขึ้นด้วย ที่แน่ๆ ความตั้งใจในครั้งนี้ เพื่อทำให้ ถนนเมืองไทยปลอดภัยมากกว่าที่เคย ซึ่งจะได้ผลไหม น่าจะเห็นกันเร็วๆ นี้

ที่มาข้อมูลบางส่วน ตำรวจ สอบสวนกลาง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่