นับตั้งแต่การมาของ Kawasaki ZX-25R หลายคนต่างก็รอคอยการมาของรุ่นพี่ที่เหนือไปอีกนิดอย่าง Kawasaki ZX-4R และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มันก็ได้ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการสู่สายตาชาวโลกแล้ว

เป็นไปตามคาด 2023 Kawasaki ZX-4R ได้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Kawasaki ZX-25R ดังนั้น เราจะจึงเห็นได้ว่ามันมีหลายชิ้นส่วนทั้งในส่วนหน้าตาภายนอก และโครงสร้างภายในที่ใกล้เคียงกับน้องเล็กอยู่หลายรายการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ชุดแฟริ่งรอบคันทั้งหมด ที่ยังคงโดดเด่นด้วยหน้าตาแบบไอ้เข้, โคมไฟสหกรณ์ที่เคยลากใช้มาตั้งแต่ Ninja 400 วกขึ้นไปถึง Versys 1000 ลงมา ZX-6R และ Ninja 250, ปากช่องแรมแอร์กลางไฟหน้าอันเป็นเอกลักษณ์

ชุดแฟริ่งข้างก็ยังคงใช้แบบเดิมกับ ZX-25R เนื่องจากแต่เดิมมันก็ถูกออกแบบไว้เผื่อสำหรับ ZX-4R มาแต่แรกอยู่แล้ว และแน่นอนว่าแม้กระทั่งแฟริ่งท้าย, กันล้มข้าง (เฉพาะรุ่น SE), ถังน้ำมันความจุ 15 ลิตร ก็ยังคงเดิมทุกอย่าง ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น เว้นเพียงปลายท่อไอเสียที่ดูเหมือนจะยาวกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ก็เพื่อให้รับกับเครื่องยนต์ที่มีความจุมากกว่าเดิม

ในส่วนระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆเอง ก็เรียกได้ว่าแทบจะยกมาจาก ZX-25R ทั้งหมดอีกเช่นกัน ทั้ง ชุดหน้าจอแสดงผลข้อมูลตัวรถแบบ TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ฟังก์ชันระบบนำทางผ่านแอพพลิเคชัน Kawasaki RIDEOLOGY ก็ยังคงใส่มาให้

และที่ขาดไม่ได้คือในส่วนระบบเพื่อความปลอดภัย และลูกเล่นในการใช้งาน ทั้ง ระบบ ABS แบบ Dual-Chanel ที่ไม่สามารถปิดค่าได้, ระบบป้องกันล้อหลังลื่อนไถล KTRC (Kawasaki Traction Control), ระบบปรับโหมดเครื่องยนต์ 4 รูปแบบ ได้แก่ Sport, Road, Rain, Rider (ปรับค่าเองแล้วแต่ผู้ใช้) และสุดท้ายคือระบบควิกชิฟท์เตอร์แบบ 2 ทางขึ้นลง (เฉพาะรุ่น SE และ RR ขึ้นไป)

โดยจุดที่เปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด ก็คือเรื่องขุมกำลังของมัน ที่เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 249cc กำลังสูงสุด 45-46 แรงม้า PS (สเป็คประเทศไทย) เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ที่มีความจุใหญ่ขึ้นเป็น 399cc และให้กำลังสูงสุดมากขึ้นเป็น 77 แรงม้า PS หรือพร้อมจะขยับขึ้นเป็น 80 แรงม้า PS เมื่อปากท่อ Ram-Air ได้รับอากาศเข้าสู่หม้อกรองเต็มที่ ส่วนแรงบิดสูงสุดก็มีตัวเลข 35.9 นิวตันเมตร ที่ 11,000 รอบ/นาที

และถึงแม้ว่ารอบเครื่องยนต์สูงสุดจะลดลงจาก 18,000 รอบ/นาที เหลือ 15,000 รอบ/นาที แต่นั่นก็ยังถือว่าสูงในระดับที่เข้าใจได้ว่ามันคือเครื่องยนต์ของรถซุปเปอร์สปอร์ตไบค์อยู่ดี แม้แต่อัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์ ยังมีตัวเลขสูงถึง 12.3 : 1 ซึ่งก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่านี่คือเครื่องยนต์ที่ถูกออกแบบมาให้เค้นสมรรถนะสูงสุดเป็นหลักเช่นกัน

จุดที่น่าสนใจกว่านั้นคือ แม้อัตราทดเกียร์ขั้นสุดท้าย จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะสเตอร์หลังเปลี่ยนจาก 50 ฟัน เหลือ 48 ฟัน โดยที่สเตอร์หน้ายังคงเป็นแบบ 14 ฟันเท่าเดิม และอัตราทดเกียร์ขั้นต้น (ฟันเฟืองจากชามคลัทช์ กับฟันเฟืองจากชามเพลาข้อเหวี่ยง) ก็เปลี่ยนไป จาก 87/30 เป็น 69/34 เพื่อทดรอบเครื่องยนต์ต่อความเร็วให้ต่ำลง แต่อัตราทดเกียร์ตั้งแต่ 1-6 กลับยังคงเดิม เหมือนกับ ZX-25R ทั้งหมด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า มันจะใช้ชิ้นส่วนชุดเกียร์เหล่านี้ร่วมกัน

และถึงแม้ชุดเมนเฟรมที่เป็นแบบโครงเหล็กถักของมัน จะยังคงเดิมกับ ZX-25R แต่ชิ้นส่วนช่วงล่างอื่นๆนอกจากนั้น ล้วนได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่แทบทั้งหมด เพื่อให้รับกับพละกำลังจากเครื่องยนต์ที่มากขึ้น

เริ่มจาก ชุดโช้กหน้าตะเกียบคู่หัวกลับ Showa SFF-BP ที่ยังไม่บอกขนาดแกน แต่คาดว่าจะมีขนาด 37 มิลลิเมตรเท่า ZX-25R โดยที่ฟังก์ชันการปรับเซ็ทค่าพรีโหลดจะมีให้เฉพาะในรุ่น SE และแน่นอนว่าไส้ในถูกปรับเซ็ทใหม่ด้วย, จานเบรกเปลี่ยนมาใช้ขนาดที่เล็กลงจากขนาด 310 มิลลิเมตร เหลือ 290 มิลลิเมตร แต่เป็นจานคู่ ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท ขณะที่จานเบรกหลังยังคงเป็นจานเบรกเดี่ยว ขนาด 220 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มโฟลทติ้งเมาท์ 1 พอร์ท เช่นเดิม

ส่วนชุดระบบกันสะเทือนหลัง จะยังคงใช้กลไกเดิม คือสวิงอาร์มเหล็กแขนคู่ และทำงานร่วมกับโช้กเดี่ยวผ่านกลไกกระเดื่องทดแรง Kawasaki Uni-Trak ซึ่งตัวโช้กที่ว่า ก็จะมีทั้งโช้กธรรมดาที่สามารถปรับเซ็ทพรีโหลดได้เพียงเท่านั้น ทั้งในรุ่นพื้นฐาน และรุ่น SE

สุดท้ายคือ ชุดล้ออัลลอยด์ขอบ 17 นิ้ว ที่แม้จะยังคงมีลายก้านเหมือนเดิม แต่ก็มีหน้ากว้างมากขึ้น และรัดด้วยขนาดยางที่ใหญ่ขึ้น เป็นขนาด 120/70ZR17M/C ทางด้านหน้า และ 160/60ZR17M/C ทางด้านหลัง ซึ่งคาดว่าจะเป็นชุดล้อที่หยิบยืมมาจาก Kawasaki Ninja 650

นอกนั้นในส่วนรายละเอียดเรื่องมิติตัวรถ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ ZX-25R นั่นคือ

  • มิติด้านยาว 1,990 มิลลิเมตร × มิติด้านกว้าง 765 มิลลิเมตร × มิติด้านสูง 1,110 มิลลิเมตร
    (ของ ZX-25R มีมิติตัวรถ 1,980 × 750 × 1,110 ในหน่วยเดียวกัน)
  • ระยะฐานล้อ 1,380 มิลลิเมตร (เท่ากับ ZX-25R)
  • ความสูงใต้ท้องรถ 135 มิลลิเมตร (ของ ZX-25R ใต้ท้องรถสูง 125 มิลลิเมตร)
  • ความสูงเบาะ 800 มิลลิเมตร (ของ ZX-25R เบาะสูง 785 มิลลิเมตร)
  • น้ำหนักตัวรถ 188 กิโลกรัม ในรุ่น ZX-4R และ 189 กิโลกรัม ในรุ่น ZX-4R SE
    (ของ ZX-25R หนัก 183 กิโลกรัม และ ZX-25R SE หนัก 184 กิโลกรัม)

โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มีการประกาศตัวเลขเอาไว้แล้ว ว่าจะอยู่ที่

  • Kawasaki ZX-4R Standard : 320,000 บาท : มีสีเดียวคือสีดำ, ไม่มีควิกชิฟท์เตอร์, โช้กหน้าปรับพรีโหลดไม่ได้
  • Kawasaki ZX-4R SE : 360,000 บาท : มีสีเดียวคือสีเขียว ลาย KRT ออพชันเต็ม
แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่