ถ้าคุณจะถามว่าอะไร คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในรถยนต์ ที่มาของออพชั่นรถยนต์ใหม่ๆ ทันสมัย รถที่มีความประหยัด ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งหมดมาจากมันสมองของบรรดาทีมวิศวกรในหน่วยงานวิจัยและพัฒนาสินค้า และปีที่ผ่านมา ทางบริษัทรถยนต์ญีปุ่่น ทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อให้รถของพวกเขา ออกมาน่าสนใจ 

รายงานจาก  Nikkei Asian Review   เผยตัวเลขเม็ดเงินลงทุนมหาศาลถึง 25 พันล้านดอลล่าร์ หรือ 2.85 ล้านล้านเยน ของบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เร่งพัฒนารถยนต์ใหม่เต็มสูตร  หรือเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2016 ราวๆ 7 %

 โดย 4 บริษัทรถยนต์ ที่รายงานว่า ทุ่มทุนในการวิจัยมากที่สุด ได้แก่   Honda  Motor , Suzuki Motor , Mazda และ   Subaru  

ส่วน  Toyota   และ Nissan  มีรายงานว่ายังคงลงทุนเท่ากับเมื่อปี 2015 ส่วน ค่ายที่เร่งเครื่องอย่างหนัก คือ  Mitsubishi Motor มีรายงานว่า ทุ่นทุนงานวิจัย ถึงร้อยละ 20 เลยทีเดียว 

ตามรายงานมีการระบุเพียงเม็ดเงินลงทุนของ  Toyota  ที่ใช้เพียง 1 ล้านล้านเยน ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2015 
โดยบริษัทรถยยนต์ส่วนใหญ่ ลงทุนในการวิจัยรถหลังงานสะอาด,ระบบขับอัตโนมัติ และ เทคโนโลยีใหมๆ่ อื่นๆ ที่กำลังน่าสนใจและควรติดตั้งในรถยนต์  ซึ่งตามข้อมูลชี้ว่า  Toyota  ก็มองแนวทางนี้เป็นหัวใจสำคัญ โดยมองถึงการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์, ระบบปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ , รวมถึงระบบขับอัตโนมัติในรถยนต์

 

2018-Subaru-XV-CrossTreck-8

นาย อากิโอะ โตโยดะ ประธานของ  Toyota Motor  กล่าวถึง การลงทุนในงานวิจัยว่ ามันดีกว่าการที่คุณลงทุนบางสิ่งแล้วทำกำไรเพียงสั้นๆ เราควรต้องลงทุนต่อเนื่อ งเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสกว่า 

ส่วนทางด้านฮอนด้าได้หันมาจับมือกับ   Google   ในการพัฒนาระบบขับอัตโนมัติ โดยใช้หลักการยืมองค์ความรู้จากภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ มาใช้ ตามวิสัยทัศนของนาย ทาคาฮิโระ คาชิโกะ ประธาน Honda   คนปัจจุบัน 

ทั้งนี้แม้ว่าจะฟังดูเยอะมาก แต่ความจริงแล้ว เม็ดเงินลงทุนของบรรดาค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น อาจจะยังไม่มากนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรถยุโรปอย่าง   Volkswagen   ซึ่งลงทุนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.4  คิดเป็นมูลค่า 15.2 พันล้านดอลล่าร์ และค่ายเยอรมันรายนี้มีแผนในการลงทุนเพิ่มถึงร้อยละ 9 ในอีก 5 ปีข้างหน้า ส่วนทางด้าน   General Motor เพิ่งจะเพิ่มเม็ดเงินลงทุนถึง 8.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น ราวๆ 8%  ในปีนี้ 

ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา   ridebuster.com 



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่