นอกจากจะโชว์ MG CYBERSTER แล้วยังมีแบรนด์ลูกร่วมทุนจาก IM Motors มาอวดโฉมในไทย นั่นคือ IM LS6 ที่งาน Motor Expo 2023

เอสยูวีทรงสปอร์ตภายใต้การร่วมทุน ของ SAIC Motor ร่วมมือกับ Alibaba และ Shanghai Zhangjiang Hi-Tech Park Development สามารถสร้างสถิติยอดจองล่วงหน้ากว่า 6,000 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 8 ชั่วโมงล่าสุดผ่านมาแล้วหนึ่งเดือนครึ่งกวาดยอดจองไปกว่า 28,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาและเป็นรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบซิลิกอนคาร์ไบด์ขับเคลื่อนสี่ล้อรุ่น Performance ด้วยความจุแบตเตอรี่ลิเธียม 100 kWh ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 787 แรงม้า จากมอเตอร์ด้านหน้า 272 แรงม้า มอเตอร์ด้านหลัง 515 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 3.48 วินาที ความเร็วสูงสุด 252 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 702 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC

รุ่น Super Extended Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยความจุแบตเตอรี่ 100 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 515 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 500 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 5.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 760 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC รุ่น Extended Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยความจุแบตเตอรี่ 90 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 450 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 680 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน Standard Range ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยความจุแบตเตอรี่ 71 kWh ให้กำลังรวมสูงสุด 314 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 450 นิวตันเมตร สร้างอัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้เพียง 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วิ่งไกลสุด 560 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน CLTC

รองรับการชาร์จกระแสตรง DC ด้วยกำลังชาร์จสูงสุด 900 V โดยมีแรงดันไฟฟ้าขณะใช้งานสูงสุดที่ 875 V และเซลล์ในชุดแบตเตอรี่สามารถชาร์จได้สูงสุด 396 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟ DC ภายใน 5 นาที สามารถวิ่งได้ระยะทาง 200 กิโลเมตร และหากชาร์จ DC ภายใน 15 นาที สามารถทำระยะทางได้ไกลถึง 500 กิโลเมตร

ตัวรถมาในร่างเอสยูวีไซซ์กลางมีที่จุสัมภาระด้านหน้า 32 ลิตร ติดตั้งล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้วและขนาดใหญ่ 21 นิ้ว กันชนหน้าพร้อมกระจังหน้าทรงทึบมีช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ในชิ้นเดียว ไฟหน้า LED และไฟ DRL แบบ LED รูปตัวเจ กระจกมองข้าง กระจกรถแบบไร้กรอบ Frameless แบบโอเปร่า และที่เปิดประตูเรียบเนียนกับตัวถังรถ ไฟท้าย LED ดีไซน์รูปตัวเอยาวจากซ้ายไปขวารับกับฝาท้ายมีสปอยเลอร์ในตัว

ภายในเรียบง่ายมีจอลอยตัวขนาดใหญ่ครอบคลุมทั้งแผงในชุดคอนโซลหน้าแบบ Full Frame ตั้งแต่ มาตรวัดความเร็ว และแสดงข้อมูลตัวรถ LCD 26.3 นิ้ว จอสัมผัสฝั่งผู้โดยสาร 15.5 นิ้วเป็นออปชันเสริม และจอฝั่งผู้โดยสารมาตรฐานขนาด 10.5 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการ IM OS 2.0 ประมวลผลรวดเร็วด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้านในปุ่มควบคุมแบบเลื่อน มีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ช่องเสียบชาร์จ USB-C ไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light ปรับได้ถึง 256 สี ประตูท้ายแบบไฟฟ้าและหลังคากระจกพาโนรามิก และพื้นที่สัมภาระด้านท้ายมีความจุ 665ลิตร และ 1,640 ลิตรกรณีพับเบาะ

มาพร้อมกับเทคโนโลยียนตรกรรมที่ล้ำสมัยที่สุดกว่า 100 เทคโนโลยี อาทิ เทคโนโลยีระบบนำทางมาตรฐานโลกอย่าง IM AD เทคโนโลยีระบบการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการออกตัว การเข้าจอด และการติดตามตำแหน่งที่สามารถ ทำได้เพียงกดปุ่มเดียว ผ่านการทำงานของปัญญาประดิษฐ์ ไม่ว่าจะเป็นการจอดหรือการถอยรถ ฟีเจอร์ “ที่นั่งคนขับอัจฉริยะ” อัดแน่น ไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Scene Labels + Fusion Perception + MR Enhanced Display + Image Algorithms” เพื่อลดจุดบอดและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย

IM LS6 จากแบรนด์ IM Motors มีแผนจะทำรถรุ่นนี้เป็นโกลบอลโมเดล และพร้อมโชว์ที่ไทยระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่งาน Motor Expo 2023

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่
Tags: