การเล่นเกมที่ติดมากับรถยนต์ตั้งแต่ออกโรงงาน อาจไม่ใช่เรื่องใหม่เท่าไหร่นักในปัจจุบัน แต่ประสบการณ์เหล่านั้นกำลังจะถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการมาของยักษ์ใหญ่ในวงการเกมอย่าง Nvidia

Nvidia อาจไม่ใช่ผู้ผลิตเกม แต่เป็นบริษัทผู้ผลิตที่โด่งดังจากการสร้างเทคโนโลยีที่ทำให้เกมสามารถเล่นได้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์อย่างการ์ดจอ และล่าสุดพวกเขาก็ยังมีส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบ Cloud-Gaming เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงการเล่นเกมระดับ “AAA” ได้อย่างง่ายดายมากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ราคาแพง ขอเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ทดีๆไว้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกมและการเล่นจากระบบส่วนกลางมาแสดงบนหน้าจอก็พอ

และเนื่องจากในปัจจุบัน การใช้งานรถยนต์ของผู้คน ไม่ได้มีแค่เพียงการขับไป แล้วก็จอดเมื่อถึงที่หมายเท่านั้น แต่นับวันก็เริ่มจะกินอยู่บนรถมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผู้ขับอาจต้องใช้เวลานั่งรอชาร์จไฟกันนานหลัก 10 นาที ขึ้นไป ซึ่งหากไม่อยากเบื่อ ก็ไม่หาซื้อของกินมาแก้ปากว่างได้ แต่ถ้าอยากลดความอ้วนขึ้นมา การเล่นเกมในรถแก้เหงา คงเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

จากไอเดียดังกล่าว จึงทำให้ผู้ผลิตยักษ์ใหญ่หลายๆแบรนด์เริ่มหันมาพัฒนาซอฟท์แวร์ระบบเกม สู่ระบบอินโฟเทนเมนท์ภายในตัวรถควบคู่ไปกับเทคโนโลยีในด้านอื่นๆด้วย แต่เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องต้นทุน หรือพื้นที่และความสำคัญ จึงทำให้ระบบการเล่นเกมภายในรถที่ว่า อาจทำให้มันไม่สามารถเล่นเกมที่ดีมากพอเท่ากับการเล่นเกมบนเครื่องคอนโซล หรือ PC ได้

ดังนั้น ด้วยการมาของระบบ Cloud-Gaming ที่ทาง Nvidia ได้สร้างขึ้น จึงทำให้ล่าสุดมีหลายผู้ผลิตรถยนต์ ทั้ง Hyundai, Kia, Genesis, Polestar หรือแม้แต่ BYD ได้มีการเซ็นสัญญาทำข้อตกลงกับบริษัทดังกล่าวเพื่อนำเอาระบบเล่นเกมผ่านสัญญาณอินเตอร์เน็ทไร้สายที่ว่า มาใส่ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆของตนเอง

โดยหากการจับมือร่วมกันในครั้งนี้ไม่มีอะไรผิดพลาด รถยนต์รุ่นใหม่ๆของเหล่าผู้ผลิตที่จับมือกับ Nvidia จะสามารถเล่นเกมระดับ AAA ได้ไม่น้อยกว่า 1,000 เกม ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น A Plague Tale: Requiem, The Witcher 3: Wild Hunt, และ Cyberpunk 2077 ผ่านยูสเซอร์ของร้านเกมออนไลน์ชื่อดังหลายๆเจ้าที่เหล่าเกมเมอร์รู้จักกันดี เช่น Steam, Electronic Arts (Origin), Ubisoft, Epic Games Store, และ GOG.com รวมถึงยังสามารถเล่นเกม Free-To-Play ที่เกมเมอร์ทั่วโลกนิยมกันอย่าง Fortnite, Lost Ark, และ Destiny 2 ได้อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนบนรถสามารถสนุกสนานกับเกมได้อย่างทั่วถึง ระบบ Cloud-Gaming ที่ว่านี้ จะไม่ถูกจำกัดให้สามารถเล่นได้กับหน้าจอระบบอินโฟเทนเมนท์ตรงกลางคอนโซลเท่านั้น แต่ยังสามารถเล่นบนหน้าจอหัวเบาะ หรือจอกลางที่ต่อลงมาจากหลังคารถได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการเล่นแยกกัน หรือเล่นด้วยกันระหว่างผู้โดยสารภายในรถ ก็แล้วแต่ว่าผู้ผลิตรถยนต์แต่ละแบรนด์จะออกแบบ และใจป้ำในการทำระบบให้จัดเต็มมากแค่ไหนอีกที

นอกจากนี้ อีกส่วนที่ยังเป็นคำถามคือ การเล่นเกมผ่านระบบคลาวน์ของ Nvidia ที่ว่านี้ จะเป็นออพชันที่ลูกค้าต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในลักษณะใด (เสียทีเดียวพร้อมกับตอนออกรถ หรือ จะเสียเป็นค่าสมาชิกรายเดือน-รายปี) ก็ยังต้องรอติดตามข้อมูลกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่