หลังการเผยโฉมเป็นครั้งแรกไปเมื่อกลางปีก่อน ล่าสุด 2024 Hyundai Ioniq 5 N ก็ได้พร้อมแล้วสำหรับการวางขายจริง โดยประเดิมก่อนในประเทศสหรัฐอเมริกา

Hyundai Ioniq 5 N มาพร้อมกับหน้าตา ที่ไม่ได้หนีไปจากร่างต้นเท่าไหร่นัก เพราะมันยังคงใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน แต่ก็ยังได้รับการตกแต่งเพิ่ม “ความซิ่ง” ให้กับตัวรถเข้าไปในหลายๆจุด ตั้งแต่กันชนหน้าแบบใหม่ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น เพิ่มโป่งซุ้มล้อให้ยื่นออกมาด้านข้างตัวถังมากกว่าเดิม ปรับรายละเอียดสปอยเลอร์หลังเล็กน้อย

และชุดกันชนท้ายก็ได้ถูกปรับใหม่หมด ทั้งการเพิ่มช่องระบายอากาศด้านข้าง และเพิ่มแถบครีบดิฟฟิวเซอร์ทางด้านล่างเข้าไป ปิดท้ายด้วยการเปลี่ยนมาใช้ชุดล้อใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นขอบ 21 นิ้ว แถมยังเป็นล้อน้ำหนักเบาแบบอลูมิเนียมฟอร์จ รัดด้วยยาง Pirelli P Zero ขนาด 275/35 R21

จากการปรับเปลี่ยนรูปทรงตัวถังในข้างต้น ทำให้ตัวรถเตี้ยลง 20 มิลลิเมตร, กว้างขึ้นอีกถึง 50 มิลลิเมตร, และยาวขึ้นกว่าเดิมอีก 80 มิลลิเมตร

และแม้การปรับเปลี่ยนหน้าตาภายนอกของมัน จะไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทาง Hyundai ได้จัดการอัพเกรดไส้ในของมันชุดใหญ่ ตั้งแต่โครงสร้างตัวถังที่ถูกสป็อตจุดเชื่อมเพิ่มขึ้นอีกกว่า 42 จุด เช่นเดียวกับการเพิ่มกาวที่ใช้ในการสมานรอยต่อตัวถังให้มากขึ้นอีก 2.1 เมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างตัวถัง

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการปรับปรุงระบบเบรกใหม่ โดยเปลี่ยนไปใช้จานเบรกขนาดใหญ่ขึ้น เป็น 400 มิลลิเมตร สำหรับชุดล้อคู่หน้า และ 360 มิลลิเมตร สำหรับชุดล้อคู่หลัง ทำงานร่วมกับปั๊มเบรก 4 พอท ซึ่งหากแค่นั้นยังไม่พอ ทางค่ายยังมีการออกแบบระบบ Regenerative Brake ให้สามารถสร้างแรงหน่วงชะลอตัวรถได้มากถึง 0.6g อีก ซึ่งทาง Hyundai ระบุว่า มันจะสามารถผสานการทำงานร่วมกับการหน่วงชะลอของตัวระบบเบรกได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติแน่นอน

ทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามา ก็ทำขึ้นเพื่อให้รถสามารถรองรับพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ถูกใส่เข้ามาเพื่อแบ่งกันขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้า และคู่หลังได้อย่างอยู่หมัด ซึ่งในฝั่งมอเตอร์ที่มีไว้ขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้า ก็จะสามารถปั่นแรงม้าสูงสุดได้ 225.7 แรงม้า PS และมอเตอร์ที่มีไว้สำหรับปั่นชุดล้อคู่หลัง ก็จะสามารถทำกำลังสูงสุดได้อีก 383.4 แรงม้า PS

เมื่อรวมพละกำลังกันจะเท่ากับว่า พวกมันสามารถปั่นแรงม้าได้สูงสุดถึง 650 PS ทว่าเพื่อความทนทาน และความปลอดภัย ตัวเลขกำลังสูงสุดดังกล่าว ผู้ขับจะสามารถเรียกใช้ได้เฉพาะด้วยการขับขี่ใน Boost Mode เป็นระยะเวลาสั้นๆเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น (เพื่อไม่ให้มอเตอร์และแบตเตอรี่ร้อนเกินไป) ส่วนในสภาวะการขับปกติ มอเตอร์จะถูกจำกัดกำลังขับไว้ที่ 610 แรงม้า PS ซึ่งก็ถือว่าเกินพอแล้วอยู่ดีสำหรับการใช้งานทั่วๆไป

โดยแม้จะไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขแรงบิดสูงสุด แต่ทาง Hyundai ก็ระบุว่า ตัวรถรุ่นนี้ จะสามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 3.4 วินาที และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ มันจะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากถึง 260 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเยอะพอสมควร สำหรับการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แถมยังมาพร้อมกับรูปทรงแฮชท์แบ็คเช่นนี้

ความน่าสนใจของ Ioniq 5 N ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะตัวรถยังมาพร้อมกับระบบควบคุมอัจฉริยะในตัวอีกมากมาย ที่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีไว้แค่เพื่อเหตุผลทางด้านความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังถูกใส่และออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสนุกสนานในการใช้งานให้กับผู้ขับอีกด้วย

ตั้งแต่ ระบบ N Pedal หรือคันเร่งไฟฟ้าที่ถูกปรับจูนให้มีความเฉียบคมเป็นพิเศษ, ระบบ N Torque Distribution System หรือระบบควบคุมการกระจายแรงบิดของมอเตอร์ไปยังแต่ละล้อ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเน้นความมั่นคง ไปจนถึงการเน้นจังหวะทำเพาเวอร์สไลด์ หรือแม้กระทั่งการดริฟท์ ซึ่งสามารถปรับเล่นได้ถึง 11 ระดับ

และยังมีระบบ N Drift Optimizer ซึ่งจะผสานการทำงานกับลูกเล่น Torque Kick Drift เพื่อให้ผู้ขับสามารถดริฟท์เจ้ารถฮอทแฮชท์คันนี้ได้เหมือนกับว่ามันเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือหากคุณเป็นสายสนามเซอร์กิต มันก็ยังมี Track Mode กับ Sprint Mode ใส่มาให้อีก ขึ้นอยู่กับว่าคุณอยากจะซัดรถในสนามยาวๆ แต่ก็แลกมากับความแรงที่จะถูกทอนลงเล็กน้อย เพื่อยืดระยะทางในการวิ่ง

หรือจะเป็นวิ่งทำเวลาแบบ Hot Lap ที่ตัวรถจะถูกเค้นสมรรถนะอย่างเต็มที่ แต่ก็อาจะจต้องวางแผนการวิ่งให้ดี เพราะมันเช่นนั้นรถอาจหมดสภาพเร็วเกินไป ทั้งจากความร้อนที่เกิดขึ้นกับตัวแบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า และปริมาณกระแสไฟในแบตเตอรี่ขนาด 84 kWh ที่จะลดลงอย่างรวดเร็ว

และมันอาจจะน่าเสียดายไปนิดตรงที่จนตนอนนี้ ทาง Hyundai ก็ยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขระยะทางในการวิ่งต่อชาร์จของมันออกมา แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ระบุว่า ลูกค้าสามารถใช้งานระบบชาร์จเร็ว ด้วยกำลังไฟสูงสุดได้มากถึง 350 kW ซึ่งทำให้รถสามารถชาร์จไฟจาก 10% – 80% ได้ภายในระยะเวลาเพียง 18 นาที เท่านั้น

โดยราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐอเมริกา ของ 2024 Hyundai Ioniq 5 N ก็ได้มีการเปิดตัวเลขเอาไว้ที่ 66,000 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 2,360,000 บาท ส่วนมันจะมีโอกาสถูกนำมาเปิดตลาดในบ้านเราด้วยหรือไม่ ? ยังต้องรอติดตามดูกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่