หลังหยุดประกอบถาวรที่ญี่ปุ่นและยกให้จีนรับช่วงต่อสำหรับ Honda Odyssey เจนที่ 5 ที่เหล่าพ่อบ้านชาวยุ่นต่างรอคอยว่าจะกลับมาขายอีกครั้งหรือไม่

สำหรับตลาดญี่ปุ่นนั้นกลับมาขายแน่นอนช่วงปลายปีแต่งานนี้จีนได้เปรียบเปิดตัวพร้อมขายก่อนญี่ปุ่นกับรุ่นพิเศษ Honda Odyssey e:HEV Black Edition ปรับลุคส์ดูสปอร์ตขึ้นผสมผสานกับความหรูของชุดโครเมียมที่กรอบกระจกและคิ้วช่องระบายอากาศทั้งหน้าและหลังด้วยกระจังหน้าโครเมียมไส้ในรมดำ

ไฟหน้าทรงใหญ่กว่าเดิมแบบ LED กระจกมองข้างทรงสปูนสีดำ ประตูท้ายออกแบบหรูด้วยไฟท้าย LED ผสมคิ้วป้ายทะเบียนโครเมียม ตัวอักษร Odyssey กับ e:HEVติดที่ฝาท้าย ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ประตูข้างสไลด์และประตูท้ายสามารถเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบ Hand Free พร้อมระบบเปิดประตูท้ายแบบเตะใต้กันชนหลัง และประตูสไลด์เปิดได้ด้วยการโบกมือ

ภายในออกแบบคอนโซลหน้าแบบโทนสีดำพร้อมมาตรวัดความเร็วพร้อมจอ MID ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว หน้าจอเพื่อความบันเทิงแบบสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อจาก Apple Car Play และ Android Auto ไฟ LED Ambient Light บริเวณเบาะโดยสารแถวกลาง ที่นั่ง 3 ตอน 7 ที่นั่ง เน้นความสบาย ส่วนเบาะแถวที่สาม ถอดเบาะออกและปรับระดับมาทางด้านหน้า เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น และมีออปชันเพิ่มเติมทั้ง เบาะนั่งตอนที่สองปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางพร้อมที่วางแขนทั้งสอง อุ่นเบาะและยังสามารถพับได้ มีที่ชาร์จไร้สาย คันเกียร์แบบ Shift by Wire พร้อมกุญแจแบบ digital key

ขุมพลังที่จำหน่ายทีจีนแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นด้วยเบนซินไฮบริด I-VTEC e:HEV กับ มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว i-MMD ที่มีขนาดเล็กและเบา 2.0 ลิตร บวกกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่อยู่ใต้พื้นของที่นั่งด้านหน้า ให้กำลัง 146 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตร คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า H4 ให้กำลังถึง 135 แรงม้า แรงบิด 175 นิวตันเมตร เมื่อทำงานร่วมกันได้แรงม้ามากถึง 184 แรงม้า แรงบิด 315 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนระบบเกียร์ E-CVT พร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ “Honda Sensing” แบบเต็มระบบไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก ระยะสั้นแบบใหม่ (new short Collision Mitigation Braking System: CMBS) เปิดไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam : AHB) และระงับการเร่งความเร็วกะทันหัน (Sudden acceleration suppression function) เป็นต้น

Honda Odyssey e:HEV Black Edition ประกอบที่โรงงาน GAC Honda ประเทศจีน ในราคา 235,800 Yuan หรือราว 1,154,000 บาท

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่