ขณะที่ชาวไทย กำลังรอคอยการเปิดตัวของ Honda e:N1 อย่างเป็นทางการในบ้านเราสักที แต่ตอนนี้ คู่แฝดของมัน อย่าง Honda e:NS1 กลับปรากฏตัวในโชว์รูมแห่งหนึ่ง ณ ประเทศเพื่อนบ้านของเราเป็นที่เรียบร้อย

ก่อนอื่น เพื่อไม่ให้เป็นการเข้าใจผิด ตัวรถ Honda e:NS1 ที่ถูกนำไปประกาศวางขายในประเทศลาว แท้จริงแล้ว เป็นการนำเข้าโดยผู้จำหน่ายแบบ “เกรย์มาร์เก็ต” ไม่ใช่การวางจำหน่ายโดยทาง Honda Laos โดยตรง ซึ่งจากข้อมูลโดยทาง Phaluay Motor ผู้นำเข้า ระบุว่าตัวรถอเนกประสงค์ไฟฟ้ารุ่นนี้ ที่ตนนำเข้าไปวางจำหน่ายให้ชาวลาวได้ซื้อหากัน จะมีราคาเริ่มต้นที่ 25,500 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 915,000 บาท เท่านั้น

เริ่มจาก ตัวรถรุ่น Standard Range ซึ่งมาพร้อมกับออพชัน มอเตอร์ไฟฟ้าลูกเดียว สำหรับขับเคลื่อนชุดล้อคู่หน้า ที่ให้กำลังสูงสุด 134 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 182 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พร้อมทำความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 53.6 kWh ทำให้มันสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดต่อชาร์จ ที่ 420 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และสามารถชาร์จไฟจาก 5-100% ด้วยระบบชาร์จไฟ AC ภายในเวลา 9 ชั่วโมง กับ สามารถชาร์จไฟจาก 30-80% ด้วยระบบชาร์จไฟ DC ภายในเวลา 40 นาที

ส่วนรุ่น Long Range ซึ่งจะขยับราคาขึ้นมาเป็น 28,500 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,024,000 บาท แม้จะยังคงเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้นเช่นกัน แต่ก็จะได้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกปรับเซ็ทให้สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 150 กิโลวัตต์ หรือราวๆ 204 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พร้อมทำความเร็วสูงสุดที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ไม่เพียงเท่านั้น มันยังใช้แบตเตอรี่ขนาด 68.8 kWh ทำให้มันสามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสุดต่อชาร์จ ที่ 510 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน CLTC และสามารถชาร์จไฟจาก 5-100% ด้วยระบบชาร์จไฟ AC ภายในเวลา 9.5 ชั่วโมง กับ สามารถชาร์จไฟจาก 30-80% ด้วยระบบชาร์จไฟ DC ภายในเวลา 40 นาที

นอกนั้นรายละเอียดอื่นๆของตัวรถ ยังคงเหมือนเดิมกับร่างที่วางจำหน่ายในประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะเป็นแหล่งที่ทาง Phalauy Motor เลือกนำเข้ามา ทั้ง โครงสร้างตัวถังแบบเดียวกับ Honda HR-V รุ่นปัจจุบัน แต่มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบปิดทึบ พร้อมโลโก้ “H Mark” แบบใหม่ ซึ่งแผ่นกระจังหน้านี้ จะมีหน้าที่เป็นแผ่นบานพับที่จะซ่อนพอร์ทชาร์จไฟแบบ CCS Type 2 ไว้ด้านในไปในตัว

นอกนั้นในส่วนงานออกแบบกันชนหน้าก็แค่ปรับรายละเอียดครึ่งบนให้เข้ากับกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้ายังคงเป็นแบบ LED เบ้าเดิมกับ HR-V เช่นเดียวกับไฟท้าย ที่ตัวไฟเบรกยังคงมีงานออกแบบเดียวกัน แค่เปลี่ยนโทนสีเล็กน้อย แถบไฟคาดตามฝาท้ายรถก็เปลี่ยนไปเป็นแบบคาดยาวชิ้นเดียว และเปลี่ยนจากการใช้โลโก้ดั้งเดิมคั่นกลางไฟท้าย เป็นฟรอนท์ตัวอักษร “H o n d a” แปะไว้เป็นตัวอักษรเรียงกันด้านล่างแถบไฟดังกล่าวแทน

และปิดท้ายด้วยชุดล้อขนาด 18 นิ้ว ลายใหม่ แบบเกือบปิดทึบ ตามสมัยนิยมของรถยนต์ไฟฟ้า

ส่วนงานออกแบบภายในห้องโดยสาร จะแตกต่างจากงานออกแบบภายนอกอย่างเห็นได้ใช้ เพราะแทบไม่ได้ใช้การอ้างอิงใดๆจาก HR-V โดยเฉพาะตัวคอนโซลหน้าทั้งแผง ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยแบบใหม่, คอนโซลหน้า มีความเหลี่ยมสันมากขึ้น ช่องแอร์มีการแยกสัดส่วนชัดเจน, คอนโซลกลาง ไม่มีชุดคันเกียร์อีกต่อไป แต่แทนที่ด้วยสวิทช์กดตำแหน่งเกียร์ กับปุ่มปรับโหมดการทำงานของคันเร่ง และปุ่มควบคุมระบบเบรกมือไฟฟ้า

เบาะนั่งด้านหน้า ปรับมาใช้แผ่นรองยูรีเทนแบบหนา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยวัสดุหุ้มเบาะมีให้เลือกแบบหนังสังเคราะห์สีดําหรือสีเทาอ่อนขึ้นอยู่กับสีภายนอก

และยังมอบความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ด้วยฝากระโปรงท้ายต่ำและพื้นราบด้านหลังช่วยให้สามารถขนสัมภาระเข้าออกได้ง่าย โดยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายสามารถจุสัมภาระได้สูงสุด 361 ลิตร และหากพับเบาะลงจะเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 1,176 ลิตร เมื่อนำสัมภาระใส่จนเต็มพื้นที่ด้านหลังจนชนเพดานห้องโดยสาร

ทั้งนี้ เนื่องจากตัวรถ Honda e:NS1 ที่วางจำหน่ายในประเทศลาวข้างต้น เป็นการนำเข้าจากประเทศจีน เพื่อวางจำหน่ายในประเทศตนเอง โดยทางผู้จัดจำหน่ายแบบเกรย์มาร์เก็ท บวกกับการที่ประเทศลาว ไม่ได้มีภาษีรถยนต์นำเข้าที่สูงมากนักเหมือนไทย

จึงทำให้เรายังไม่สามารถนำราคาวางจำหน่ายของรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศลาว มาประเมินแนวโน้มราคาของ Honda e:N1 ซึ่งเป็นคู่แฝดของมัน ที่จะถูกผลิตและวางจำหน่ายในประเทศไทยของเราได้ แต่หากใครที่สนใจ ในช่วงไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2024 นี้ เราคงได้รู้คำตอบที่แท้จริงถึงเรื่องนี้กันแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่