จากกระแสความต้องการที่ยังคงถาโถมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุด Honda Automobile (Thailand) Co., Ltd. ได้มีการประกาศเตรียมเปิดรับจองตัวแรง “Honda Civic Type R” ล็อตใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้
2023 Honda Civic Type R มาพร้อมกับรหัสตัวถัง 6BA-“FL5” ด้วยการถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Honda Civic เจเนอเรชันที่ 11 รุ่นตัวถังแฮทช์แบก รหัสตัวถัง FL ซึ่งไม่มีโอกาสถูกนำมาผลิตและขายในบ้านเรา หลังจากที่ยอดขายของ Honda Civic Hatchback รุ่นก่อนหน้ารหัส FK ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก
และหากให้เทียบกับ Civic Type R เจเนอเรชันก่อนหน้ารหัสตัวถัง FK8 เราก็จะพบอีกว่าตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดนั้นมาพร้อมกับงานออกแบบที่ดูสะอาดตามากกว่า ทั้งนี้ เพื่อให้ตัวรถดูเรียบง่ายมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ยังสามารถจัดการเรื่องหลักอากาศพลศาสตร์ได้ดีกว่าเดิมตั้งแต่หัวจรดท้าย ไม่เว้นแม้กระทั่งชายล่างกันชนรอบคัน
ด้านงานออกแบบและการตกแต่งภายในห้องโดยสาร หน้าตาชิ้นงานคอนโซลก็แทบไม่ได้มีความแตกต่างไปจาก Civic ร่างต้นเท่าไหร่นัก ทั้งงานออกแบบคอนโซล, แผงประตู, พวงมาลัย และหน้าจอที่ใช้สำหรับการแสดงผลมาตรวัดกับระบบอินโฟเทนเมนท์
แต่ในส่วนชุดเบาะนั่งภายในห้องโดยสารรนอกจากการปรับรูปทรง ให้ดูมีความโอบกระชับผู้นั่งมากยิ่งขึ้น ก็ยังเปลี่ยนมาหุ้มด้วยหนังกลับสีแดง ขณะที่ตัวหัวเกียร์ ก็เลือกใช้เป็นชิ้นงานโลหะขัดเงา เพื่อความดิบ และกระชับในการเปลี่ยนเกียร์
แต่หากลองสังเกตกันให้ดี ตัวหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.2 นิ้ว ที่ว่า ก็จะมาพร้อมกับการแสดงผลฟีเจอร์พิเศษสำหรับตัวรถโดยเฉพาะ Civic Type R เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลข้อมูลสถานะตัวรถ โหมดการขับขี่ และอื่นๆอีกมากมาย
ด้านโครงสร้างตัวถังเอง แม้จะบอกว่าถูกพัฒนาขึ้นมาจากตัวรถ Civic Hatchback รหัส FL แต่เพื่อให้มันรองรับกับสมรรถนะและการใช้งานที่หนักหน่วงขึ้น ทาง Honda จึงได้ทำการเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างตัวรถ FL5 ใหม่ทั้งคัน ตัวปีกนกของระบบกันสะเทือนหน้า-หลัง ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มีทั้งความแข็งแรง และเก็บอาการ Torque Steering ที่มักเกิดขึ้นกับรถขับเคลื่อนล้อหน้าแรงม้าสูง ให้อยู่หมัดมากขึ้น
ชุดล้ออัลลอยด์ก็ถูกปรับใหม่ให้มีขนาดเล็กลงจาก 20 นิ้ว ใน Civic Type R รุ่นก่อนหน้า เหลือ 19 นิ้ว ในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งที่ได้มาก็คือน้ำหนักของชุดล้อที่เบาลง ช่วยเพิ่มความเฉียบคมในการเข้าโค้งที่ดีกว่า ขนาดยางที่ให้มา ยังขยายความกว้างขึ้นจาก 245/30-20 เป็น 265/30-19 เพื่อความสามารถในการยึดเกาะขณะเข้าโค้งที่ดีขึ้น ปิดท้ายด้วยการอัพเกรดระบบเบรกเป็นของ Brembo ยกชุด โดยเฉพาะกับระบบเบรกทางด้านหน้า ที่ใช้จานเบรกแบบมีครีบระบายอากาศขนาด 350 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรก 4 พอท
ไฮไลท์สำคัญที่สุดของ Honda Civic Type R ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องของขุมกำลัง ทีในคราวนี้ ยังคงใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ความจุ 2.0 ลิตร พ่วงระบบ VTEC+VTC และเทอร์โบชาร์จเจอร์ รหัส F20C เหมือนรุ่นพี่ แต่ด้วยการปรับจูนชิ้นส่วนต่างๆใหม่ ทำให้คราวนี้ มันสามารถเบ่งพลังได้มากขึ้นเป็น 330 แรงม้า PS ที่ 6,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 2,600-4,000 รอบ/นาที กลายเป็นรถ Civic Type R ที่แรงที่สุดตั้งแต่ออกโรงงานเท่าที่ Honda เคยทำมา
ระบบส่งกำลัง ก็จะมีให้เลือกเพียงแบบเดียว คือ ระบบเกียร์ธรรมดา พร้อมชุดเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบ Revmatch system โดยอัตราทดของแต่ละเกียร์ไม่ต่างจากรุ่นพี่ แต่อัตราทดเฟืองท้ายถูกปรับใหม่ จาก 4.111 เป็น 3.842 เพื่อการเค้นความเร็วปลายที่ลื่นไหลกว่า และระบบขับเคลื่อน ก็ยังคงเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ตามฉบับ Civic Type R
โดย Honda Civic Type R ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย เป็นตัวรถที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน และ พร้อมจำหน่ายในราคา 3,990,000 บาท โดยมีสีภายนอกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาโซนิค (มุก) สีแดงแรลลี่ สีขาวแชมเปียนชิป และสีน้ำเงินเรซซิง (มุก)
ส่วนการเปิดรับจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ Honda Civic Type R ครั้งใหม่ อย่างเป็นทางการ จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 เริ่มเวลา 10:00 น. เป็นต้นไป ผ่านทาง www.honda.co.th โดยตัวรถที่ถูกเปิดจองครั้งใหม่นี้ จะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
