ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา Honda ได้ตัดสินใจยุติการทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ไปหลายโมเดล และหนึ่งในนั้นคือโมเดลสุดสำคัญที่แม้จะมีการขายแค่เฉพาะในญี่ปุ่น แต่สาวกทั่วโลกรู้จัก อย่าง Honda CB400 Super Four ไปด้วย

โดยสาเหตุที่ทำให้ Honda ต้องตัดสินใจยุติการวางจำหน่าย Honda CB400 Super Four หรือ CB400 SF ไปเมื่อปลายปี 2022 หลักๆแล้วก็เป็นเพราะการที่เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 399cc เสียงสุดหวาน พร้อมพ่วงระบบวาล์วแปรผัน Hyper VTEC Revo ของมันนั้น ไม่ผ่านมาตรฐานไอเสียใหม่สุดเข้มงวดของประเทศญี่ปุ่นที่ถูกบังคับใช้ในช่วงเวลาดังกล่าวได้

แต่ล่าสุด กลับมีสื่อญี่ปุ่นระบุว่า Honda ไม่ได้ถอดใจในรถมอเตอร์ไซค์ชื่อตำนานรุ่นนี้ไปเลยเสียทีเดียว เพราะเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้พวกเขาได้มีการก่อตั้ง Honda Motorcycle Shanghai ขึ้นมา

โดยประเด็นน่าสนใจคือมีความเป็นไปได้สูงที่บริษัทใหม่นี้จะให้ความสนใจ และตั้งใจในการทำรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 400cc รุ่นขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายในประเทศตนเอง เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ในคลาสนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศดังกล่าว ด้วยเหตุผลในเรื่องของความคุ้มค่าต่อประสิทธิภาพ และสมรรถนะที่ไม่ว่าใครจะมือใหม่ หรือมือเก่าก็ขี่ได้

นอกจากนี้ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Kawasaki สามารถไปได้ดีกับ Kawasaki Ninja 400 รถซุปเปอร์สปอร์ตอย่าง Kawasaki ZX-4R ที่แม้จะยังไม่ถูกส่งไปวางจำหน่ายในประเทศจีน แต่ก็ได้รับความสนใจ และมีเสียงเรียกร้องจากนักบิดชาวจีนอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

ดังนั้น แม้อันที่จริง Honda จะมีพิมพ์เขียวรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 400cc ที่ผ่านมาตรฐานไอเสียในปัจจุบันได้สบายๆอยู่แล้ว ใน Honda CBR400R/CB400X ซึ่งทั้งสองรุ่นคือคู่แฝดของ Honda CBR500R และ Honda CB500X ในไทย แค่ใช้เครื่องยนต์ที่ถูกลดช่วงชักลง เพื่อลดความจุลง ให้เป็นไปตามกฏหมายใบขับขี่ในประเทศเท่านั้น

แต่หากเป็นไปได้ พวกเขาก็ยังอยากที่จะขายรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์ 400cc แบบ 4 สูบเรียงมากกว่าอยู่ดี เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในประเทศที่มีการแข่งขันสูงมาก ชนิดที่ว่าหากเป็นไปได้ก็อยากจะรีบขายให้เร็วที่สุด เพื่อชิงยอดขายให้ได้ไวที่สุด มากที่สุด ตามสไตล์ชาวจีน

อย่างไรก็ดี อย่างที่เราได้ระบุไว้ข้างต้นว่า เครื่องยนต์ 400cc แบบ 4 สูบเรียง ลูกล่าสุดที่พวกเขาขาย คือลูกเดียวกับที่อยู่ใน Honda CB400 SF และ CB400 SB (Super Bol d’Or) ซึ่งไม่สามารถปรับปรุงให้ผ่านมาตรฐานไอเสียของรัฐบาลญี่ปุ่น(และอาจรวมถึงรัฐบาลอื่นๆทั่วโลก ไม่เว้นแม้กระทั่งในประเทศจีน)ได้ง่ายๆแล้ว

เพราะฉะนั้น หากทาง Honda Motorcycle Shanghai ยังยืนกรานที่จะขายรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 400cc ให้ได้ และสุดท้ายทาง Honda บริษัทแม่ เห็นสมควร อนุมัติโปรเจ็กท์ขึ้นมา เครื่องยนต์รูปแบบดังกล่าว ก็จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่หมดจด จนแทบไม่มีชิ้นส่วนใดหลงเหลือจากเครื่องยนต์ที่ถูกใช้ใน CB400 SF/SB เลยแม้แต่น้อย

แน่นอนว่านั่นอาจรวมถึงเทคโนโลยีระบบวาล์วแปรผัน Hyper VTEC REVO ด้วยว่า จะยังคงถูกยัดเข้ามาให้ในเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้อยู่หรือไม่ ? แต่หากทางค่ายต้องการจะขิง หรือเกทับขุมกำลังของ Kawasaki ZX-4R ที่สามารถปั่นแรงม้าได้มากถึง 77 PS (สเป็คไทย 75 PS) ทางค่ายปีกนกก็ไม่ควรที่จะทิ้งมันไปเด็ดขาด

ส่วนตัวรถ หรือรูปทรงรถที่คาดว่าจะถูกทำออกมา หนึ่งในนั้นก็ย่อมหนีไม่พ้นการฟื้นชื่อ Honda CB400 SF/SB ให้กลับมาโลดแล่นใหม่อีกครั้ง แม้จะพึ่งตายไปไม่ถึงปีก็ตาม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะชื่อนี้ถือว่ามีความสำคัญมากจริงๆสำหรับทาง Honda

ติดแค่เพียงว่าโดยหลักการแล้ว ชื่อ “Super Four / Super Bol d’Or” คือชื่อของรถมอเตอร์ไซค์ ที่ทางค่ายอยากสงวนไว้จำหน่ายแค่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่เว้นแม้กระทั่ง Honda CB1300 Super Four / Super Bol d’Or ที่ตอนนี้มีวางจำหน่ายในไทยก็ตาม

เพราะในความเป็นจริงแล้ว ทางวิศวกรของ Thai Honda ได้เคยเปิดเผยกับผู้เขียนไว้ว่า จริงๆแล้ว Honda Japan ไม่มีความคิดที่จะส่งพวกมันออกไปวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆนอกจากบ้านเกิดตนเองเลยด้วยซ้ำ และหวงตัวรถตระกูลนี้มากๆด้วย

หากแต่พวกเขาเห็นว่ามีคนไทยที่อยากได้รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลนี้ในครอบครองจริงๆ ตามการนำเสนอข้อมูลของทาง Thai Honda จึงทำให้ตอนนี้มีแค่ประเทศไทยของเราเท่านั้น ที่เป็นประเทศเดียวในโลกเท่านั้น ที่รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล “Super Four / Super Bol d’Or” ถูกส่งมาทำตลาดอย่างเป็นทางการนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น

ดังนั้น แม้ Honda CB400 ขุมกำลัง 4 สูบเรียง จะถือกำเนิดขึ้นใหม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะไม่ได้ใช้ชื่อ “Super Four” กับ “Super Bol d’Or” และหน้าตาของตัวรถ อาจไม่ได้เป็นแบบคลาสสิค หรือออริจินอลดั้งเดิมจ๋า แต่อาจได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นแบบ Neo Classic เพื่อเพิ่มความทันสมัย และขายในชื่อ CB400R/CB400F/ หรือ CBX400 แทน (แม้ว่าชื่อหลังสุดจริงๆแล้ว ดั้งเดิมจะต้องเป็นรหัสของ 1978-1982 Honda CBX ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1,000cc แบบ 6 สูบเรียง เท่านั้น ก็ตาม)

นอกจากนี้ เพื่อให้การทำตลาดเป็นไปได้อย่างครอบคลุม จึงมีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะไม่ได้มีแค่ร่างเนคเก็ทไบค์ (จะโมเดิร์นคลาสสิค หรือสปอร์ตเนคเก็ทจ๋าใดๆก็ตามแต่) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจจะมีการทำร่างสปอร์ตฟูลแฟริ่งที่ใช้รหัส “CBR” เปิดตัวขายคู่กันด้วย

แต่จะเป็นสปอร์ตไบค์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลักด้วยรหัส “R” (อาร์เดี่ยว) หรือสปอร์ตเรพลิก้าจ๋า ด้วยรหัส “RR” (อาร์อาร์/สองอาร์/ดับเบิ้ลอาร์ จะเรียกอะไรก็แล้วแต่) ยังต้องรอติดตามกันต่อไป แม้ว่าเมื่อมองจากความเป็นไปได้แล้ว มันควรจะได้ใช้รหัสหลังมากกว่า เพื่อการบ่งบอกว่าคู่แข่งของมันคือ Kawasaki ZX-4R อย่างตรงๆตัว

นอกจากนี้ กลับไปที่ข้อมูลจากสื่อต้นทาง พวกเขายังระบุอีกว่า มีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย ที่แม้โปรเจ็กท์นี้จะมีตัวตั้งตัวตีเป็นบริษัท Honda Motorcycles ในประเทศจีน แต่ในเมื่อทางบริษัทแม่ตัดสินใจพัฒนาเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่แล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่มันจะกลายเป็นรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งมีไว้วางจำหน่ายในแบบ Global Model ด้วย

และหากเป็นเช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะถูกผลิตขึ้นในไทย เพราะในปัจจุบัน รถมอเตอร์ไซค์ระดับ Global Model เกือบทุกรุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 650cc ลงมา (เว้นเพียงแค่ Honda 350 Series และอื่นๆอีกเล็กน้อย) ทาง Thai Honda Manufacturing เป็นผู้รับผิดชอบผลิตและส่งออกไปวางจำหน่ายทั่วโลกอยู่

ส่วนกำหนดการเปิดตัว ทางสื่อเปิดตัวคาดการณ์ไว้ว่า เราอาจจะได้เห็นรถถูกเผยโฉมออกมาภายในช่วงกลางปีนี้เลย ก่อนที่มันจะถูกขายจริงอีกทีในปี 2025 ซึ่งอาจจะดูเร็วไปพอสมควร เพราะหากเป็นโปรเจ็กท์ที่ถูกตั้งใหม่จากที่แทบไม่มีอะไรเป็นตัวตั้งต้น โดยเฉพาะเครื่องยนต์จริงๆ

การพัฒนารถโดยส่วนใหญ่แล้วมักใช้เวลาราวๆ 2-3 ปี เป็นอย่างน้อย ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกท่านรอติดตามข้อมูลกันต่อไป แม้ทางสื่อต้นทางจะระบุว่ามันจะมีโอกาสเป็นไปได้จริงถึง 80 กว่าเปอร์เซ็นต์เลยก็ตามที

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่