GWM Tank 300 HEV คือรถยนต์อเนกประสงค์อีกหนึ่งรุ่นที่ถูกนำมาชิมลางในไทยมาแล้วไม่ต่ำก่าปี แต่ตอนนี้มันกลับถูกนำไปขายในประเทศออสเตรเลียซึ่งเป็นอีกหนึ่งแห่งที่นิยมรถยนต์แนวนี้ไม่แพ้กันเสียอย่างนั้น แถมยังถูกเปิดราคาไว้อย่างน่าสนใจด้วย ที่ตัวเลขเริ่มต้นเพียง 1.3 ล้านบาท

GWM Tank 300 HEV ที่ถูกเปิดตัว และวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียนั้น หากมองเพียงแต่หน้าตาภายนอก ก็จะเห็นได้ว่ามันมีหน้าตาที่แทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดยิบย่อยไปจากตัวรถที่ถูกผลิตไว้วางจำหน่ายในประเทศจีน หรือที่เคยนำมาเผยโฉมในประเทศไทยของเราเท่าไหร่นัก

ทั้งจากรูปทรงโดยรวมที่ยังคงความร่วมสมัย ตั้งแต่หัวจรดท้าย, ไฟหน้ากรอบกลม-ไฟท้ายกรอบเหลี่ยม แต่ดวงไฟข้างในล้วนใช้หลอด LED, คิ้วซุ้มล้อขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากตัวถังเป็นเหลี่ยมสันชัดเจน เช่นเดียวกับกันชนหน้า หลัง และบันใดข้าง ไม่เว้นแม้กระทั่งฝากระโปรงแบบอ้อมมาปิดช่วงแก้มข้างก็ด้วย

จุดขายสำคัญนอกเหนือจากงานออกแบบของมัน ก็คือขุมกำลังไฮบริด ที่เป็นการผสานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง ความจุ 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 245 แรงม้า PS และ แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 106 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร

โดยแม้ทาง GWM จะไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขกำลังสุทธิจากขุมกำลังทั้งสองแบบเอาไว้ให้กับลูกค้าในประเทศออสเตรเลีย แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลบนเว็บไซต์กลางของค่ายแล้ว ก็จะพบว่ามันมีพละกำลังสุทธิที่ 304.5 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุด อีก 640 นิวตันเมตร และเคลมอัตราสิ้นเปลืองที่ราวๆ 10-11 กิโลเมตร/ลิตร

ฝั่งระบบส่งกำลัง มีเพียงแบบเดียวคือชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD พร้อมระบบดิฟล็อค หรือระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า เสริมด้วยระบบช่วงล่างอิสระ ด้านหน้าปีกนกคู่ และด้านหลังแบบมัลติลิงค์

ซึ่งทางค่ายระบุว่าด้วยส่วนผสมทั้งหมดนี้ ทำให้มันสามารถรองรับน้ำหนักการลากจูงได้มากสุดถึง 2,500 กิโลกรัม หรือหากวิ่งตัวเปล่า ก็สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในระยะเวลาเพียง 7.9 วินาที เท่านั้น

ด้านออพชันระบบอิเล็กทรอนิกส์ยิบย่อยที่น่าสนใจ ก็ถือว่าให้มาค่อนข้างครบครัน โดยจะแบ่งตามรุ่นย่อยดังนี้

GWM Tank 300 – Lux Hybrid ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการประเทศออสเตรเลีย ที่ 55,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราวๆ 1.3 ล้านบาท

  • ชุดล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว
  • กระจกพร้อมระบบไล่ฝ้าอัตโนมัติ
  • ระบบไฟส่องสว่าง Full-LED พร้อมไฟ Daytime running lights
  • หลังคาซันรูฟ
  • แผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ
  • ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
  • ระบบรักษาแรงยึดเกาะ
  • ระบบ Tank Turn (ระบบหมุนเลี้ยวรถ 360 องศา)
  • ‘Transparent Chassis Function’
  • เซนเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง
  • เบาะคนขับปรับไฟฟ้า
  • เบาะนั่งหุ้มหนัง ‘Comfort-Tek’
  • พวงมาลัยหุ้มหนังผสมผ้าไมโครไฟเบอร์
  • จอแสดงผลมาตรวัดขนาด 12.3 นิ้ว
  • จอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
  • กล้องมองรอบคัน 360 องศา
  • พอร์ทชาร์จไฟ USB สำหรับผู้โดยสารทั้งตอนหน้าและตอนหลัง
  • ลำโพง 9 จุด
  • ระบบไฟแวดล้อมในห้องโดยสาร
  • ระบบวิทยุดิจิตอล DAB+
  • พอร์ทจ่ายไฟ 12V power outlets ที่คอนโซลหน้า และที่ช่องเก็บของด้านหลัง
  • ถุงลมนิรภัย 7 จุด
  • ระบบ Adaptive cruise control (ระบบล็อคความเร็วแปรผันได้กึ่งอัตโนมัติ)
  • ระบบ Autonomous emergency braking (ระบบช่วยเบรกอัตโนัมติ)
  • ระบบ Front collision warning (ระบบแจ้งเตือนความเสี่ยงการชนด้านหน้า)
  • ระบบ Lane-departure warning (ระบบแจ้งเตือนการออกนอกเลน)
  • ระบบ Lane-keep assist (ระบบรักษาการอยู่ในเลย)
  • ระบบ Traffic sign recognition (ระบบตรวจจับป้ายสัญญาณจราจร)
  • ระบบ Rear cross-traffic alert with brake (ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวด้านหลังรถ พร้อมระบบเบรกอัตโนมัติ)

GWM Tank 300 – Ultra Hybrid ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการประเทศออสเตรเลีย ที่ 60,990 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราวๆ 1.43 ล้านบาท ก็จะมีออพชันที่ดูดีขึ้น และเพิ่มขึ้นจากรุ่นเริ่มต้นดังนี้

  • ชุดล้ออัลลอยด์ 18 นิ้ว
  • เบาะนั่งหุ้มหนังแนปป้า
  • เบาะนั่งคู่หน้าพร้อมระบบทำความเย็น และระบบทำความร้อน
  • เบาะนั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า พร้อมระบบนวดในตัว
  • พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมระบบอุ่นมือ
  • ระบบไวเลสชาร์จ
  • ลำโพง 9 จุด จาก ‘Infinity’
  • ไฟแวดล้อมภายในห้องโดยสาร สามารถปรับได้หลากหลายสีมากขึ้น

โดยตัวรถ GMW Tank 300 HEV ที่วางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย จะมีเฉดสีให้ลูกค้าได้เลือกซื้อทั้งหมด 5 แบบ ด้วยกัน ได้แก่ แดง – Lunar Red, ขาว – Hamilton White, ส้ม – Dusk Orange, เทา – Fossil Grey และ ดำ – Crystal Black

ส่วนการวางจำหน่ายในประเทศไทยของเรา ยังต้องรอการแถลงข้อมูลจาก GWM Thailand กันอีกครั้ง แต่อย่างเร็วที่สุดคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงไม่เกินปลายปีหน้า เพราะช่วงต้นปี อาจเป็นเวลาของการทำตลาด Tank 500 HEV ที่พึ่งถูกนำมาเผยโฉมในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมาก่อน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่