ขณะที่ค่ายส่วนใหญ่ ขาดแคลนชิปประมวลผล สำหรับระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จนทำให้ไม่สามารถประกอบรถให้กับลูกค้าได้ ซึ่งทางฝั่ง Ford เอง ก็เดือดร้อนในเรื่องการส่งมอบรถเช่นกัน แต่สาเหตุดันมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนโลโก้ประจำแบรนด์แทนเสียอย่างนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Ford ในสหรัฐอเมริกา ตามการรายงานของสื่อฯใหญ่ประจำประเทศ The Wall Street Journal ที่เปิดเผยว่า ในขณะนี้ทางค่ายกำลังประสบปัญหาไม่สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้ เนื่องจากขาดชิ้นส่วนสำคัญสำหรับการประกอบรถขั้นสุดท้าย นั่นคือ “ป้ายโลโก้ประจำแบรนด์” สำหรับติดที่กระจังหน้า หรือฝากระโปรงท้าย ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่รถแทบทุกคัน แทบทุกรุ่นจากแบรนด์ต้องมี

โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ป้ายโลโก้แบรนดน์ขาดแคลน จนไม่มีชิ้นส่วนดังกล่าวมาประกอบเข้ากับตัวรถเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้านั้น แม้ทางค่ายจะไม่ได้มีการออกมาเปิดเผยข้อมูลที่แน่ชัด แต่ทางสื่อฯต้นทาง ได้ระบุว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดจากกรณีที่บริษัทซัพพลายเออร์ ที่รับหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนนี้ให้กับทาง Ford ในสหรัฐอเมริกาอย่างบริษัท Tribar Technologies, Inc., มีปัญหาปล่อยสารเคมีที่ใช้ในการผลิตสินค้าของตนเองสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ

จึงทำให้ทางบริษัทต้องหยุดการผลิต เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนที่จะถูกปรับหนักจากทางภาครัฐ และมีผลถึงการผลิตโลโก้แบรนด์ให้กับทาง Ford ในที่สุด

และในขณะที่ปัญหานี้ กระทบถึงการผลิตรถทุกรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรถกระบะ Ford F-Series ซึ่งเป็นตระกูลรถกระบะที่ขายดีที่สุดในประเทศ ทาง Ford เอง ก็ไม่ได้ชักช้า รอชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์เพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาก็ได้มีการเร่งหาทางออกทางอื่นไปด้วย ติดก็ตรงที่มันดันเป็นวิธีซึ่งยุ่งยากกว่าที่คิด

เพราะจากรายงานในเบื้องต้น ระบุว่าวิธีที่ Ford ใช้ในการแก้ปัญหาโลโก้แบรนด์ขาดแตลนในครั้งนี้ ก็คือการลองผลิตชิ้นส่วนดังกล่าวขึ้นมาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ทว่าชิ้นงานที่ออกมากลับมีคุณภาพที่ดีไม่พอสำหรับการนำไปประกอบใส่ตัวรถ แล้วส่งมอบมันให้กับลูกค้า

นั่นทำให้เรายังต้องรออัพเดทกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วทางแบรนด์จะมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เนื่องจากตอนนี้พวกเขามีรถประกอบเกือบเสร็จสมบูรณ์ที่ค้างอยู่ในโรงงานแล้วราวๆ 40,000 – 45,000 คัน เพียงเพราะมันขาดชิ้นส่วนโลโก้แบรนด์ เลยไม่สามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่