แม้จะผ่านเวลาไปปีกว่า หลังการเปิดตัวในไทยครั้งแรกเมื่อต้นปี 2022 แต่กระแสตอบรับในตัวรถ Ford Ranger และ Ford Everest รุ่นใหม่ล่าสุดก็ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องมาจนถึงกลางปี 2023
เพราะจากรายงานล่าสุด ทาง Ford ประเทศไทย ได้มีการเปิดเผยตัวเลขยอดขาย Ford Ranger และ Ford Everest รุ่นล่าสุด ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2023 ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าตัวรถสามารถทำตัวเลขยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ จนสามารถครองอันดับหนึ่งของกลุ่มในเรื่องอัตราการเติบโตได้ทั้งสองรุ่น
โดยในฝั่ง Ford Ranger สามารถทำยอดขายในตลอดช่วงเวลา 5 เดือนแรกของปี 2023 ไปได้ทั้งสิ้น 11,749 คัน และสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มรถกระบะไปได้ถึง 9% พร้อมกลายเป็นที่ 3 ของกลุ่ม
และไม่เพียงเท่านั้น หากคิดเป็นตัวเลขอัตราการเติบโตก็จะมีตัวเลขที่ดีขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนถึง 14% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงสุดที่สุดของตลาด ในขณะที่คู่แข่งแม้จะทำยอดขายได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้มีอัตราการเติบโตมากเท่ากับ Ranger
ส่วน Ford Everest แม้จะขายได้น้อยกว่าคู่แฝดร่างกระบะ ด้วยตัวเลข 5,153 คัน แต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้มันกลายเป็นรถที่มียอดขายในตลาดรถอเนกประสงค์กลุ่ม PPV ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้นเป็น 18% พร้อมกลายเป็นที่ 3 ของกลุ่มเช่นกัน ในแบบที่เขยิบเข้าไปใกล้อันดับ 2 มากขึ้น
ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นก็คือ ด้วยความสามารถในการส่งมอบที่เริ่มสอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่สูงมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ต้นปี 2023 ที่ผ่านมา จึงทำให้เมื่อเทียบตัวเลขยอดขายในข้างต้น กับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ก็จะเท่ากับว่า มันสามารถทำยอดอัตราการเติบโตได้ดีขึ้นถึง 178% ชนิดที่ว่าไม่มีคู่แข่งรายไหนสามารถเทียบได้
และหากคิดตัวเลขยอดขายของรถยนต์ทั้งสองรุ่นรวมกัน ก็จะเท่ากับว่าในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา Ford ประเทศไทย สามารถทำยอดขายรถยนต์ให้กับผู้ใช้ในประเทศไทย ได้มากถึง 16,911 คัน และกลายเป็นอันดับ 4 ของแบรนด์รถยนต์ที่ขายดีที่สุดในไทย ด้วยอัตราการเติบโตรวม 39% ซึ่งสูงที่สุดในตลาด
โดยในปัจจุบัน Ford ประเทศไทย มีรถยนต์ที่วางจำหน่ายเพียง 2 รุ่นหลักๆเท่านั้น นั่นคือ Ford Ranger ที่มีราคาเริ่มต้น 564,000 บาท ไปจนถึง 1,399,000 บาท หรือหากนับ Ranger Raptor ด้วย ก็จะมีราคาสูงสุดที่ 1,919,000 บาท
ขณะที่ Ford Everest ก็จะมีราคาเริ่มต้นที่ 1,354,000 บาท และสูงสุดที่ 1,874,000 บาท
