นับตั้งแต่ที่ Ford GT เจเนอเรชันที่ 2 ได้ถูกเผยโฉมออกมา เมื่อปี 2016 ตอนนี้ก็ถึงเวลาสักทีที่ทางค่ายต้องปิดสายการผลิตมัน พร้อมสั่งลาด้วยเวอร์ชันพิเศษ “LM Edition”
Ford GT LM-Edition มาพร้อมกับแรงบันดาลใจในการสร้าง เพื่อฉลองชัยชนะในการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans เมื่อปี 2016 และความพิเศษของมัน ก็จะเริ่มจากเฉดสีภายนอก ที่มีเพียงเฉดสีเดียวคือเฉดสี Liquid Silver แต่จะถูกตัดโทนด้วยพาร์ทคาร์บอนบริเวณชิ้นส่วนชายล่างรอบคันของตัวรถ รวมถึงครีบบนฝากระโปรงหลัง ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะให้มันเป็นงานคาร์บอนสีน้ำเงิน หรือสีแดง ซึ่งยกเฉดมาจากตัวแข่งต้นแบบ
ไม่เพียงเท่านั้น ชุดล้อขนาด 20 นิ้ว ที่ทำขึ้นจากวัสดุคาร์บอนไฟบอร์ของมัน ยังมาพร้อมกับออพชันเลือกทำสีวงล้อด้านใน ว่าจะให้เป็นสีแดงหรือสีน้ำเงินเช่นเดียวกัน ก่อนที่มันจะถูกนำไปติดตั้งกับจานเบรกซึ่งทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์เบรกจาก Brembo สีดำ ด้วยน็อตล้อไทเทเนียมสีดำ นอกจากนี้ยังมีท่อไอเสียไทเทเนียมเฉพาะรุ่น และเพลทป้ายบ่งบอกความพิเศษงานไทเทเนียม 3D-Print อีกต่างหาก
ส่วนงานตกแต่งภายใน ก็ยังคงคอนเซปท์ให้ลูกค้าเลือกได้ว่าจะเน้นโทนสีดำ-แดง หรือ ดำ-น้ำเงิน เช่นกัน เพราะในส่วนเบาะนั่งแบบหลังแข็งงานคาร์บอน ทางฝั่งผู้ขับ จะมาพร้อมกับการหุ้มหนังอัลคันทาราเฉดสีตามที่เลือก ส่วนฝั่งผู้โดยสาร จะหุ้มด้วยหนังอัลคันทาราสีดำ แต่ลูกค้าสามารถเลือกเดินตะเข็บด้ายสีเดียวกับเบาะฝั่งผู้ขับได้
ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ ในส่วนเพลทโลโก้ประจำตัวรถ ที่ระบุว่าทำขึ้นจากไทเทเนียม และจะติดตั้งอยู่บนแผงคอนโซลรถนั้น แท้จริงแล้ว มันถูกปรินท์ขึ้นจากผงไทเทเนียม ที่ป่นมาจากแครงก์ชาฟท์ หรือเพลาข้อเหวี่ยง ของเครื่องยนต์ที่อยู่ในตัวแข่งหมายเลข 69 ที่ได้อันดับ 3 มาจากการแข่งขัน 24 Hours of Le Mans เมื่อปี 2016 อีกด้วย
ทั้งนี้ Ford GT LM-Edition จะถูกผลิตขึ้นเพียง 22 คันบนโลก และจะผลิตขึ้นเป็นรถกลุ่มสุดท้ายของไลน์อัพรถ Ford GT เจเนอเรชันที่ 2 ซึ่งจะปิดไลน์การผลิตครบ 1,350 คัน ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งลูกค้าที่สามารถจับจองมันได้ ก็ต้องเป็นลูกค้าที่เคยครอบครอง Ford GT ที่ผ่านการคัดกรองมาแล้วอีกทีเท่านั้น
