ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง รถยนต์รุ่นใหม่ในวันนี้ ออพชั่นต่างๆ เริ่มมีการเปลี่ยนหน้าตา บ้างให้ความสะดวกมากขึ้น บ้างทอนหายไปตามวันเวลา และ สิ่งหนึ่งที่กำลังเข้าข่ายใกล้สูญพันธ์ุ ก็ไม่พ้น ไฟตัดหมอก ที่เคยได้รับความนิยมในวันวาน

ไฟตัดหมอก เป็น ออพชั่น ที่มาในรถยนต์ใหม่ ที่แนะนำในช่วงปี 2000 ขึ้น มา โดยจุดประสงค์ไฟชุดนี้ คือ เพื่อ เสริมการส่องสว่าง ให้แก่ ชุดไฟปกติ หรือ ไฟใหญ่ ให้มีกำลัง ความเข้มแสงมากขึ้นในยาม ทีศนวิสัยในการขับขี่ลดต่ำ หรือ มองเห้นได้ยาก

สาเหตุที่เรียกว่า ไฟตัดหมอก ก็มาจาก ชุดไฟนี้พัฒนาทางแถบ แสกนดิเนเวีย และใช้ในยามขับเวลาหิมะตก หรือ หมอกลงจัด ในช่วงยุค 90 คุณสมบัติใช้หลอดไฟที่มีไส้แนวขวาง ส่องออกทางด้านข้าง เพื่อกระจายแสงให้กว้างขึ้น เพิ่มการสะท้อนไปยัง วัตถุต่างๆบนถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่รับทราบเหตุการณ์ได้เร็วขึ้น

จนในยุคนั้น กลายเป็น ออพชั่น ของต้องมีในรถยนต์ เรียกว่าใครไม่มีถูกหมางเมิน

ไฟตัดหมอก เริ่มหายไปในรถรุ่นใหม่ๆ เพื่อความสะอาดในการออกแบบ และ กำลังไฟ ที่สว่างมากขึ้น ของรถรุ่นใหม่ๆ

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ระบบไฟหน้า ถูกพัมนาให้มีความสามารถมากขึ้น การส่องสว่างไกลขึ้น ทางบริษัทรถยนต์หลายราย จึงเริ่มถอดชุดไฟตัดหมอก ด้วยเหตุผลว่า ไฟหน้าเดิมก็สว่างเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องใส่ชุดไฟเสริมเพิ่มเติม ทั้งยังทำให้งานออกแบบสะอาดตา และไม่รบกวนในเรื่องของหลักอากาศพลศาสตร์ด้วย

แต่ความจริง ไฟหน้ายุคใหม่ที่เริ่มหันมาใช้ ชุดไฟ LED ในการส่องสว่างมากขึ้น ให้ความสว่างชัดเจน ท่ามกลางทัศนวิสัยปกติ อาจจะไม่เป็นมิตรอย่างที่เห็นในยามวิกฤติ เช่นฝนตก หิมะลงจัด เนื่องจาก แสงสีขาว ที่ใช้ในการให้ความสว่าง จะจับพื้นฐานถนนได้ไมีดี และ หรือ สะท้อนกลับ ในยามเจอหมอกลงจัด

ทั้งสอง อาจจะเป็นทัศนวิสัย ที่หาได้ยากมากในไทย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลยในบ้านเรา

ในรถบางรุ่น ทางผู้ผลิตแก้เกม โดยการใส่ไฟตัดหมอก LED ที่มีรูปทรงหลากหลาย และให้ความสว่างได้ดีกว่า ไฟตัดหมอก ที่ใช้หลอดไส้แบบดั้งเดิม ทว่า แสงสีขาว จากไฟแบบนี้ อาจจะสว่างในยามปกติ หากกลับไม่ตัดอุปสรรคได้ ดีเท่าแสงสีส้ม หรือ เหลือง ในยามทัศนวิสัย ไม่ดี จน ไฟตัดหมอกเป็นเพียงเครื่องประดับมากกว่า มีประโยชน์ในยามจำเป็น ทำให้หลายคนคิดถึงประโยชน์ของพวกมันน้อยลง

อย่างไรก็ดี ,​ถึงแม้ว่า บริษัทผู้ผลิตส่วนใหญ่มองว่า ไฟแบบนี้ อาจไม่จำเป็นแล้ว และเริ่มไม่ให้มาในรถรุ่นใหม่ ๆ ที่นำเสนอในปัจจุยัน หากก็ไม่ควรใช้กลยุทธบังคับลูกค้า

ที่จริง ออพชั่นแบบนี้ บางคนอาจต้องการ , บางคนอาจมองว่าไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับว่า ลูกค้าใช้รถที่ไหน และใช้รถอย่างไร ควรจะมีให้เลือกตามความต้องการ ไม่ต้องบังคับติดตั้งจากโรงงาน ก็ได้

กรณีที่น่าศึกษาหนึ่ง คือในญี่ปุ่นเอง ใบปัดน้ำฝนหลัง สำหรับ รถซีดาน ถูกวางเป็นออพชั่นให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ ตามต้องการ ให้เลือกซื้อในพื้นที่ ที่หิมะตกหนักบ่อยครั้ง

เรื่องทำนองเดียวกัน อาจจะสามารถนำมาปรับใช้กับในประเทศไทย กับไฟตัดหมอก ที่สามารถหาซื้อได้ หรือ ลูกค้าสามารถเลือกได้ แต่กับรถที่ใช้เดินทางอย่าง รถอเนกประสงค์ ควรจะมีมาให้ ยังไม่ควรถูกตัดออกไป

ถ้าจะถามว่า ไฟตัดหมอก จำเป้นไหมในยุคนี้ แต่ละคน อาจจะมองไปในทางที่แตกต่างกันไป แต่ ไฟแบบเสริม อาจจะยังจำเป้นในบางสถานการณ์ ที่แม้นวัตกรรมไฟส่องสาว่างจะก้าวหน้า แต่อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ ทั้งหมดในยามสถานการณ์จริง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่