ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสารอย่างแท้จริง จะทำอะไร สิ่งที่ขาดไม่ได้ดูจะไม่พ้นข้อมูลต่างที่จำเป็นเพื่อตอบโจทยืใจชีวิ สำหรับรถยนต์ระบบเชื่อมต่อทางไกลผ่านเครือข่าย   Telematic System  เป็นสิ่งที่คนไทยกำลังตื่นเต้น บริษัทรถยนต์หลายเจ้ากำลังแนะนำระบบลักษณะนี้ออกมาเอาใจลูกค้า และหนึ่งในนั้นคือค่ายฮอนด้า ที่เผยระบบ   Honda  Connect   ออกมาให้สาวกได้ใช้กัน

ระบบ Honda  Connect   เป็นระบบเชื่อมต่อทางไกลระหว่างอุปกรณ์มือถือกับรถยนต์ที่เราใช้ โดยใช้การเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไปยังรถยนต์ด้วยอุปกรณ์ที่เรียกว่า   TCU  (Telematic Control Unit)   โดยกล่องดังกล่าวจะถูกเชื่อมต่อหน่วยประมวลผลกลางของรถยนต์ หรือ  ECU (Electronic Control Unit)  อ่านค่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วทำการส่งข้อมูลของรถยนต์ที่เราใช้ไปยังระบบเครือข่ายของฮอนด้า จัดเก็บบนเซิฟเวอร์ระบบคลาวน์ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลรถยนต์ของตัวเองจากอุปกรณ์ในมือ

การเริ่มใช้ระบบ ฮอนด้า คอนเนค   ทางผู้ใช้จะต้องติดตั้งกล่อง   TCU   จากศูนย์บริการเสียก่อน (ไม่ได้มากับตัวรถจากโรงงาน)  เมื่อติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาโหลดแอพพลิเคชั่น   Honda connect   ผ่านทาง   Play Store   สำหรับระบบแอนดรอยด์ และ   App Store สำหรับโทรศัพท์  I phone   ระบบจะบังคับการลงทะเบียนเกี่ยวกับตัวรถแล้วก็พร้อมใช้งานได้ทันที

ในการทดลองใช้งาน  Honda  Connect   ของเราในวันนี้ ทางฮอนด้า จัดเตรียมรถยนต์   Honda  Civic Hatchback   (คันเดิมที่เราเคยนำมารีวิวก่อนหน้านี้) พร้อมโทรศัพท์  Iphone   มาให้หนึ่งเครื่องเพื่อทดลองใช้งานดู ..

เมื่อเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมา (หน้าหลัก) จะประกอบด้วย ระดับน้ำมัน โดยบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ของน้ำมันที่เหลือในเวลานั้น  และ ระดับความร้อนอุณหภูมิหม้อน้ำในเวลานั้น โดยข้อมูลทั้ง 2 จะเป็นข้อมูลที่อัพเดทล่าสุดก่อนดับเครื่องยนต์ และจะอัพเดทอีกครั้งเมื่อสตาร์ทรถ หรือในระหว่างการใช้งานรถทุกๆ 5 นาที

ถัดลงเป็นสถานะหลักของรถในแง่ต่างๆ ได้แก่   สถานะรถ , สถานะพิกัดรถ  และ สถานการณ์ทำงานถุงลมนิรภัย โดยในส่วนของฟังชั่นลึกเข้าไปในแอพพิลเคชั่นยังมี การตรวจสอบการใช้งานรถยนต์ โดยระบุเป็นวัน , ระยะเวลาใช้งาน เส้นทางที่ขับ ตลอดจนยังสามารถตรวจสอบพฤติกรรมในการขับขี่  ทั้งการใช้งานเบรกและคันเร่งในแต่ละทริปได้ด้วย

ตรวจสอบทริปการเดินทางได้ด้วย ว่าขับไปนานเท่าไหร่…

ตลอดจนยังสามารถตรวจสอบการเข้ารับบริการจากศูนย์บริการฮอนด้า รวมถึงระยะทาง / นัดหมายครั้งต่อไป พร้อมค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสีย ตลอดจนยังสามารถจะบริหารการใช้งานและตรวจสอบสถานะรถได้ถึง 10 คัน ถ้าบ้านคุณรักฮอนด้าจริงๆ

การทดสอบในวันนี้เราจำลองสถานการณ์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบการทำงานของระบบ   Honda  Connect   ว่าจะตอบโจทย์ได้หรือไม่

ด่านแรกทางทีมงานฮอนด้าให้เราตบแต่งแอพพลิเคชั่น ให้สวยเก๋ตามต้องการ ซึ่งลูกค้าสามารถปรับแต่งได้เองตามต้องการ  ทั้งรูปพื้นหลัง หรือรูปโปรไฟล์ของตัวเอง การใช้งานเปลี่ยนรูปดูจะซับซ้อนไปสักนิด แต่ถ้าเรียนรู้การใช้งานก็คงไม่ยากแล้วครับ

เส้นทางวันนี้เราขับไปอัมพวากัน โดยระหว่างทางคุณสามารถใช้แอพพลิเคชั่นตรวจสอบการทำงานของรถได้ตลอดถ้าต้องการ เรามาถึงจุดแรกย่านมหาชัยพักทานกาแฟกันสักนิด แต่ไม่รู้ทีมงานฮอนด้าไปซนอะไรเข้า ปรากฏเจ้า   ฮอนด้า คอนเนค  แจ้งเตือนว่าพบความผิดปกติของรถ เมื่อกดดูก็จะพบรายละเอียดในเบื้องต้นพร้อมคำแนะนำว่าควรทำอย่างไร

เมื่อรถมีปัญหา ระบบจะแจ้งเตือนมาให้ทราบถึงโทรศัพท์

แอพพลิเคชั่นจะบอกข้อบกพร่องของระบบที่เกิดขึ้น

ซ่อมเองไม่ได้เรอะไม่ใช่ปัญหา หาศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด…บัดเดี๋ยวนี้ 

 … เมื่อรถมีปัญหา   Honda  Connect   ช่วยได้ ..ทนหน่อยนะลูก

อาการของเราในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ แต่ดูแล้วทำเองไม่ได้ ต้องเข้าศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุด เราก็สามารถกดได้จากแอพพลิเคชั่น ซึ่งเชื่อมต่อกับแผนที่   Google   หาศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดได้ โชคดี ศูนย์บริการอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เราอยู่นัก เพียงกดนำทางขับตามจีพีเอส จนถึงศูนย์บริการ ปัญหารถเราก็ได้รับการแก้ไข

ไม่เพียงการนำทางไปยังศูนย์บริการเท่านั้น แต่แต่แอพพลิเคชั่นยังสามารถใช้ค้นหาร้านอาหาร ที่เที่ยว และอื่นๆ ได้ด้ว ยเทียบเท่าการใช้   Google Map   และทางฮอนด้าได้บันทึกข้อมูลอื่น ที่จำเป็น เช่นตู้กดเงินสด หรือ  ATM  อำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น 

เพื่อให้ทดลองใช้การนำทางและทดสอบความแม่นยำ   Honda   จึงให้เราลองนำทางไปยังร้านอาหารกลางวันเอง เรียกว่า ทริปนี้ดูแลตัวเองกันตามสะดวก ซึ่งการนำทางของ Honda  Connect   ก็ใช้ข้อมูลของ   google  นี่แหละ แต่มีความละเอียดมากกว่า สักหน่อย จากข้อมุลที่ทางฮอนด้าใส่มาในแอพพลิเคชั่น

ลงจากรถทานข้าวเที่ยง ให้ทีมงานไปจอดรถให้  เผลอแวบเดียวทีมงานเอารถไปซ่อนหาไว้ไหนก็ไม่ทราบ กินอิ่มแบบนี้หงุดหงิดใจยิ่ง ยังดี ฮอนด้า คอนเนค   สามารถค้นหาตำแหน่งรถได้ด้วย

แต่ของฮอนด้าการหาตำแหน่งรถจะแปลกสักหน่อย เมื่อเทียบกับค่ายอังกฤษทุนจีน (MG)  คือ  Honda  จะส่งพิกัดเข้าอีเมลล์ของคุณ แทนที่จะแสดงผลทันที คุณต้องเข้าไปเปิดเมล์เพื่อตรวจสอบอีกที ดูจะซับซ้อนไปสักหน่อยหนึ่ง

ผมมีโอกาสถามฮอนด้าว่า ทำไม ถึงเลือกการส่งเมล์ แทนการแสดงบนแอพพลิเคชั่น  ทางผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น  Honda  Connect   คุณ อิสรภาพ อู่โชตนานันท์ หัวหน้าโครงการฮอนด้า เทเลเมทิกซ์ และ ผู้จัดการส่วนงานสำนักวางแผนธุรกิจ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานของลูกค้า  

ถามผมการใช้แอพพลิเคชั่น ลูกค้าต้องการความสะดวกในการใช้งานมากกว่า การเรียกข้อมูลจากระบบแล้วแอพส่งเข้าอีเมล์ อาจจะเป็นความคิดที่ดี แต่ลองนึกถึงคนกำลังว้าวุ่นใจหารถไม่เจอ แล้วต้องมานั่งเปิดอีเมล์เช็คตำแหน่งเพิ่มมันดูซับซ้อนไปสักหน่อย

เจอรถแล้ว???  แหม ทีมงานฮอนด้าเล่นไปจอดเสีย วัดบ้านแหลม สงสัยจะแอบไปซื้อหวย จนลืมพวกเรา จะเดินก็ใช่จะใกล้ งั้นงานนี้ต้องพึ่งตัวช่วยนั่งเรือน่าจะดีกว่า  ขึ้นเรือมา ใจชื้นรถเราจอดรออย่างดีที่นี่ สงสัยต้องการจะให้เรามาไหว้พระทำบุญ (ทีหลังก็รอหน่อยก็ได้)

เฮ้ย..รถหายต้องขับเรือไปเอารถ …. 

ฟังชั่นเดียวที่เราไม่ได้ทดลองใช้ในวันนี้และคงไม่มีใครอยากลองใช้ คือฟังชั่นถุงลมผิดปกติ ฟังชั่นนี้ตรวจสอบการทำงานของถุงลมที่ติดตังภายในรถว่ามีการทำงานหรือไม่

ในกรณีที่ถุงลมทำงาน หรือเท่ากับว่ารถเกิดอุบัติเหตุทางฮอนด้า  มีมาตรการดังนี้

 1.โทรหาลูกค้าเพื่อตรวจสอบสถานะลูกค้า (ถ้าไม่รับสาย จะดำเนินการต่อ / ถ้ารับสาย จะสอบถามต้องการขอความช่วยเหลือหรือไม่)

2.โทรหาผู้อ้างอิงติดต่อในยามฉุกเฉิน  (จะโทรต่อเมื่อลูกค้าไม่รับสาย จากขั้นตอนแรก)

3.แจ้งข้อมูลรถและการขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์นเรนทร 1669 เพื่อเข้าช่วยเหลือลูกค้า

 

หลังจากลอง   Honda connect   ผมยอมรับว่า มันค่อนข้างมีประโยชน์ใช้งานได้หลายด้านและน่าสนใจกับราคา 5,900 บาท (ฟรีค่าติดตั้ง และค่าสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อการส่งข้อมูลรายปี รวม 2 ปี)

สิ่งเดียวที่ทำให้มันยังไม่แจ่มเท่าระบบของคู่แข่ง คือความสามารถในการใช้งานควบคุมสั่งการตัวรถ ซึ่งทางผู้พัฒนาระบบบอกกับเราว่าในความเป็นจริงสามารถทำได้ เพียงแต่อยากให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์มากกว่านี้ เนื่องจากอาจจะส่งผลเสียทางด้านความปลอดภัยกับลูกค้า

นอกจากนี้การจำกัดรุ่นรถที่สามารถใช้งานระบบได้ ซึ่งรถบางรุ่นต่างเพียงรุ่นปีเท่านั้น กลับไม่สามารถใช้งานได้ ยังเป็นข้อกังขาที่น่าสนใจ ทางฮอนด้าบอกกับเรา นั่นขึ้นอยู่กับหน่วยประมวลผลหรือ   ECU   ที่แตกต่างกัน โดยในขณะนี้มีการทดสอบกับกลุ่มรถยนต์ไฮบริดแล้ว และน่าจะพร้อมให้บริการในอนาคต 

อย่างไรก็ดี ด้วยการเชื่อมต่อที่เป็นเพียงการดึงข้อมูลจากรถไปผ่านแอพพลิเคชั่น และไม่มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้ภายในรถ นับเป็นจุดอ่อนที่สำคัญของระบบนี้ แต่จากที่ทราบจากผู้พัฒนาทางฮอนด้า พวกเขาเร่งมือเต็มที่ในการพัฒนาระบบให้ก้าวหน้าและตอบสนองต่อผู้ใช้งาน

ลงจากรถปลายทาง ผมคิดว่า   Honda  Connect   ก็เจ๋งดีในมุมของมัน การดึงข้อมูลตรวจสอบสถานะรถทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น และสามารถเตรียมพร้อมการใช้งานรถ หรือวางแผนการต่างได้ เช่นการเข้ารับบริการ , ตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้อย่างเข้าใจจริงจัง ดีกว่าเดาสุ่มสัญลักษณ์บนหน้าปัดที่เราอาจไม่มีวันเข้าใจ

แน่นอนในวันนี้ ระบบอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่พวกเขาคาดหวังว่ามันน่าจะดีกว่านี้ในแบบที่ดูหลุดโลกฉลาดล้ำไปเลย ทว่าก็ดีพอที่คุณจะมีข้อมูลสำหรับตระเตรียมการเดินทาง และแก้ปัญหาสำคัญระหว่างการใช้รถได้ ซึ่งในวันหน้าแอพพลิเคชั่นตัวนี้น่าจะมีความสามารถมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com



แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่