ใน 2-3 ปีทีผ่่านมา เราต้องยอมรับ กันว่ า”รถยนต์ไฟฟ้า” เข้ามามีบทบาทพูดถึงกันอย่างมาก ในกระแสสังคม ไม่ว่าจะคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหารถยนต์สักคัน มาจนถึง คนรุ่นวัยทำงาน ที่อยากจะมีรถสักคัน พร้อมช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มันดูจะเป็นคำตอบในวันนี้

นับตั้งแต่ปี 2018 ตั้งแต่ การเปิดตัว รถยนต์ไฟฟ้า Hyundai ioniq , Nissan Leaf มาจนแบรนด์ ผู้ผลิตชาวจัน เปิดตัวรถยนต์ MG ZS EV ด้วยราคาที่หลายคนเอื้อมถีง จนกลายเป็นรถยนต์ที่ทุกคน ต้องมองหา มีทางเลือกมากขึ้น และกลายเป็น ตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

คนตระหนัก เพราะ อยากเอาชนะค่าน้ำมัน

สาเหตุที่คนไทย ให้ความสนใจ กับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แม้ว่าในการโปรโมทรถยนต์ไฟฟ้า ส่วนใหญ่ จะให้ข้อมูล ทางด้วยการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ และอีกมากมาย ที่เกี่ยวเนื่อง กับเรื่องสิ่งแวดล้อม

แต่ ในท้ายที่สุดแล้ว คนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า จำนวนมาก มีความคิดคล้ายกัน คอื อยากจะหลุด จากวังวน การใช้พลังงานน้ำมัน ในการเดินทาง

ส่วนสำคัญ มาจาก ค่าชาร์จไฟฟ้า นั้น ถูกกว่าน้ำมัน กว่า 4-5 เท่าตัว ยกตัวอย่างเช่น ใช้น้ำมันแก๊ส โซฮอล 95 ในการขับขี่ เฉลี่ยปัจจุบัน ตกลิตร ละ 35 บาท กลับกัน ค่าชาร์จไฟฟ้า 1 Kwh หรือ 1 หน่วยไฟฟ้า มีค่าใช้จ่ายเพียง 8.5 บาท เท่านั้น จากการใช้บริการตู้สาธารณะ และ ถูกกว่านี้ เมื่อชาร์จที่บ้าน โดยเฉพาะ มิเตอร์ แบบ Tou หรือ Time of Usage

ยิ่งทวีความน่าสนใจ ในการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทดแทน รถยนต์น้ำมัน ที่นับวัน ค่าน้ำมัน จะแพงขึ้นตามลำดับ และมีความผันผวน สูง อันส่วนหนึ่ง สืบเนื่อง จาก ภาวะ จาโรคระบาดทั่วโลก อย่าง Covid 19 และ สงคราม รัสเซีย-ยูเครน

ภาครัฐสนับสนุน

ประการถัดมา , ส่วนสำคัญ ที่ทำให้ คนไทยจำนวนมาก สนใจรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น มาจาก แรงหนุน ของภาครัฐบาล ที่ออกส่วนลด ทางภาษี และ มาตรการสนับสนุนผู้ลิต ทั้งยังมีส่วนลดมาให้ผู้ซื้อ คล้ายกับ ตอนโครงการรถยนต์คันแรก ในอดีต

ส่วนลด คิดเป็นตัวเงินราวๆ 200,000 บาท มีให้กับ รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ทุกบริษั ที่เตรียมจะเข้ามาประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ขายในประเทศไทย ปัจจุบัน มีผู้ผลิต 7 ราย ได้ร่วมในโครงการดังกล่าว

ส่งผล ให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลง อย่างเห็นได้ชัด อาทิ ORA Good CAT เปิดราคาแรห ๆ ราคา 1.2 ล้านบาท วันนี้ ราคาเริ่มต้น ไม่ถึง ล้านบาท หรือ อย่าง MG 4 EV ที่เพิ่งเปิดตัว มีราคา ราวๆ 8 แสนกว่า บาท ก็สามารถหาซื้อ รถยนต์ไฟฟ้าได้

ตลอดจน เริ่มมีทางเลือก ตลาดรถยนต์ มือสองด้วย ทำให้ การแผ่ขยายรถยนต์ไฟฟ้า เพิ่มทวีมากขึ้น ตามลำดับ

การเข้า มาของ ปตท. ทำให้ ความกังวล จุดชาร์จ น้อยลง

ประเด็นสำคัญ ที่ทำให้ รถยนต์ไฟฟ้า น่าสนใจมากขึ้น จริงๆ ต้องยอมรับว่ามาจาก การเข้ามาของยักษ์ใหญ่ บริษัทน้ำมันในประเทศไทย ปตท,​หรือ Ptt or ที่เปิดให้บริการจุดชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก ให้บริการเต็มรูปแบบ ในปั้ม PTT

การเข้ามาของแบรนด์พลังงานคนไทย เพื่อคนไทย นั้น ทำให้ ความกังวลเรื่องจุดชาร์จน้อยลง มีสถานีชาร์จมากขึ้น รวมถึง ยังลดข้อครหา ว่า ในที่สุด รถยนต์ไฟฟ้า จะถูกสกัดดาวรุ่ง จาก บริษัทน้ำมัน ตามขี้ปากของชาวโซเชี่ยลจำนวนมาก ที่ไม่เชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้า จะได้รับความนิยม

นั่น เป็นกระแส ดีกว่า ตอนที่การไฟฟ้า ทั้ง ภารไฟฟ้า นครหลวง ภูมิภาค และ ฝ่าผลิต หันมาติดตั้งตู้ชาร์จเอง ในแบรนด์ ต่างๆ เสียอีก

ส่วนสำคัญ​ที่ ตู้ชาร์จ ปตท.​ มีบทยาท สำคัญ ในการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็มาจาก ความพร้อมในเรื่องของพื้นที่ การเข้าถึงตู้ชาร์จ และ ณ จุดชาร์จ ยังมีสาธารณูปโภค พื้นฐานรองรับ อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ,​ห้องน้ำ ตลอดจน ร้านกาแฟ และ ร้านอาหาร

ช่วยให้ ไม่ต้องนั่งเหงาๆ อยู่ในรถอีกต่อไป เมื่อคุณต้องรอชาร์จ

รายใหญ่ เริ่มลงมาเล่นเอง

ในอดีต รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยม มาจากจีน ส่วนในตลาดพรีเมี่ยม ก็เป็นเพียงแบรนด์ รองเท่านั้น

ปีทีผ่านมา การเข้ามาของ Mercedes , BMW ตลอดจน แบรนด์ อย่าง โตโยต้า เริ่มทำให้ คนไทย มองภารรถยนต์ไฟฟ้า และมั่นใจ ต่อทิศทาง ของเทคโนโลยี อนาคต มากขึ้น

คนไทยส่วนใหญ่ ยังกังวล การโดนลอยแพ ดั่งในอดีต อาทิ เทคโนโลยี NGV เป็นต้น

คนสนใจ ตลาดเติบโต แต่ยังไม่กว้าง อย่างที่คิด

แม้ว่า ตอนนี้ เราต้องยอมรับว่ามีคนจำนวนมาก สนใจรถยนต์ไฟฟ้า โดยข้อมูลจาก google ชี้ว่า มีคนจำนวนมาก ค้นหา และ ดูวีดีโอ ที่เกี่ยว เนื่องกับ รถยนต์ไฟฟ้า มากขึ้นตามลำดับ ถึง 96% ของ วีดีโอ เรื่องรถยนต์

แต่เมื่อ มาดู เรื่องการเติบโต ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า อย่างจริง จะพบว่า มียอดขายจริงไม่เยอะมาก น้อยกว่ารถสันดาป อยู่พอสมควร

รายงานจากกลม การขนส่งทางบก ชี้ว่า ในปี 2021 ที่ผ่านมา มียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 1,935 คัน โดยปีที่แล้ว นำโด่ง โดยค่าย MG

ส่วนในปีนี้ ตลาดผู้นำ ดูจะเป็นของ Great Wall Motor , ในรุ่น Ora Good Cat ขณะที่ MG มีการส่ง รถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV ใหม่ และ ตลาดพรีเมี่ยม ยังเป็นของรถยนต์วอลดว่ ในรุ่น XC40 และ C40 ที่มีการส่งมอบอย่างต่อเนื่อง

โดยแหล่ง ข่าวที่เชื่อถือ ได้ ทางด้านการตลาดยานยนตื ชี้ว่า ในปีนี้ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ล้วน สุทธิ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือน กันยายน ที่ผ่านมา มียอดขายไปแล้วกว่า 6,900 คัน โดยประมาณในปีนี้

และมีความเป็นไปได้ ที่ปีนี้ จะมียอดขายเฉียด 10,000 คัน เนื่องจากการเข้ามาของอีกยักษ์ใหญ่ BYD ที่เพิ่งเปิดตัว BYD Atto 3ไปหมาดๆ และคาดว่าปีนี้ จะส่งมอบได้ ราวๆ 5,000 คัน

Honda อาจจะเป็นรถญี่ปุ่น แบรนด์ต่อไปที่จะเข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในปีหน้า

หรือ ถ้าเทียบกับ ยอดจดทะเบียน ปีที่แล้วไม่ถึง 2,000 คัน ปีนี้ เรียกว่า เติบโต ราวๆ 5 เท่า อย่าง คร่าวๆ และคาดว่าไม่น่าเกิน 15,000 คัน ในจำนวนนี้ไม่นับจากตลาดนำเข้าอิสระ ที่อาจจะมีอีกประมาณหนึ่ง โดยเฉพาะทางแบรนด์ Tesla

สัดส่วนจริง อาจแค่ 1%

แม้ว่า นี่จะเป็นสัญญาณ ที่ดี ของการเติบโต ของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จนน่าจะพูดว่า ตลาดบ้านเรา เนื้อหอม จน ขนาด Tesla ยังหมายตาไทย เป็นเป้าหมายต่อไป

แต่ถ้าเรานำสัดส่วนยอดคาดการณืมาคำนวน อาจจะไม่ 2% ของ ตลาดรถยนต์มวลรวม ในประเทศด้วยซ้ำ

ในปีนี้ หลายแบรนด์คาดการณ์ว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์รวมจะอยู่ราวๆ 880,000 คัน เติบโต หลังจาก วิกฤติ โควิด 19 นิดหน่อย ทำให้ อารมณ์ผู้ซื้อ กลับมาสดใสอีกครั้ง

วอลโว่ กลายเป็น แบรนด์ที่ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดในปีนี้ คาดว่าจะมียอดราวๆ 800 คัน โดยมีรายงาน ว่า ปีทีผ่่านมา ถึงเดือนกันยายน ขายไปแล้ว 594 คัน

แต่เอาเข้าจริง หาก ตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ปีนี้ สุทธิ ที่ 10,000 คัน ตามที่คาดการณ์จาก เรา เมื่อเทียบกับ ยอดคาดการณ์ 880,000 คัน จะมี สัดส่วน Market Share ราวๆ 1.13 % เท่านั้น ของตลาด มวลรวมในประเทศไทย

ปัจจัยหนึ่ง มาจกาก ปัญหา เรื่อง ชิพ ขาดแคลน ทำให้ ส่งมอบไม่ได้ หรือ ส่งได้อย่างล่าช้า ไม่เป็นไปตามกำหนด ที่ควรจะเป็น ทำให้ ยอดต่ำกว่า ที่ควร จากความจริง

ปีหน้า ดูสดใส หลายรุ่น พร้อมขาย และ ส่งมอบ

อย่างไรก็ดี ,​ ปี 2023 น่าจะเป็นปีที่ รถยนต์ไฟฟ้า มีความสดใสมากขึ้น สืบเนื่องจกา การเข้ามาของรถยนต์หลายรุ่นในปีนี้ และ บางรุ่นกว่าจะพร้อมส่งมอบ คือในปีหน้า

อาทิ MG 4 Electric ที่มีรายงานว่าจะเริ่มส่งมอบ ในเดือน กุมภาพันธ์ 2565 และ มีราคาที่ค่อนข้างดึงดูดใจ ผู้ซื้อพอสมควร ไม่เพียงเท่านี้ เดือยเดียวกัน จะเริ่มส่งมอบ Toyota BZ4X ล็อตแรก คาดจะมีจำนวน หลัก สิบ คัน และ กลางปี จะมีอีก รวมสุทธิ 230 คัน ด้วย และ BYD ก็จะนำรถ BYD Atto 3 ก๊อก 2 เข้ามา อีกราวๆ 2,000 คัน

มีรายงานว่า โตโยต้า จะเริ่มส่งมอบ รถยนต์ไฟฟ้า ของบริษัท ในปีหน้า

นี่คือที่ได้รับคำยืนยัน แล้ว .. อย่างเป็นทางการ

ในส่วน รถใหม่เปิดตัว ก็มี น่าสนใจหลายรุ่น MG EP หน้าใหม่ คาดว่าจะมาขายแน่ ปีหน้า ส่วน พรีเมี่ยมแบรนด์ วอลโว่ ,​คาดว่าจะ เปิดตัว รุ่น มอเตอร์เดี่ยว ออกมาทำตลาด โดยมีราคาถูกลง เอื้อมถึงง่ายขึ้น และ ทางเบนซ์ ก็น่าจะส่งมอบ EQS 500 ให้กับลูกค้าที่สนใจ แต่คงไม่ได้เยอะมาก เนื่องจาก ราคาค่อนข้างสูง

ฝั่งรถญี่ปุ่น คงต้องรอลุ้นสักตั้ง กับ Nissan Ariya ว่าจะมาหรือไม่ หลังจาก นิสัน ขยาด จากการขาย Nissan Leaf มาหลายปี ซึ่ง ลีฟเอง มีกระแสว่าจะจับ ตัวใหญ่ แบต 60 Kw มาขาย

ส่วน ฮอนด้า ก็มีแนวโน้ม ดีขึ้นที่จะเข้ามาทำตลาด ด้วย Honda E:N ในฐานะรถยนต์อเนกประสงค์ไฟฟ้า คาดว่า จะนำเข้าตรงจากจีน ส่วนไทย จะประกอบไหม ก็ลุ้นกันต่อไป

และ ORA ตัว Grand Cat น่าจะมาขาย อย่างแน่นอน อาจจะวางเป็น Hi End กว่าตัวปัจจุบัน ก็ไม่น่าแปลกใจนัก

ขณะที่ BYD ลุ้นการทำตลาดของ BYD Seal

และท้ายสุด ที่ตื่นเต้นสำหรับหลายคน คือ การมาของ Tesla Official ที่คาดว่าจะวางจำหน่าย รุ่น Model 3 และ Model Y

ภาพรวมปีหน้า จึงคาดว่าจะเป็น ปีทองของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในบ้านเรา ซึ่งน่าจะเป็นปีแห่งการก้าวกระโดอย่างแท้จริง

เรื่อง และบทวิเคราะห์ โดย ณัฐพิพัฒน์ วรโชติโกศล

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่