รถยนต์ไฟฟ้า กลายเป็นกระแสนิยม ที่หลายคนต่างพูดถึงกัน ในช่วงนี้ และ ทุกครั้งจะมีประเด็นต่าๆงมากมาย ให้เราได้ศึกษา และพูดถึง

หนึ่งในเรื่องเผือกร้อน ที่กำลังพูดถึงในโซเชี่ยล คือ เรื่องยางรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหลายคันถึงวาระคราวจะต้องเปลี่ยนกันแล้ว และ ในยุคนี้ ก็มี ยางรถยนต์ไฟฟ้าออกมาด้วยสิ

ยางรถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร

ยางรถยนต์ไฟฟ้า น่าจะเรียกว่ส เป็นการพัฒนาชุดยาง ขึ้นมาสำหรับรถยนต์ ที่ขับเคลื่อนด้วยชุดขับมอเตอร์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพิ่งจะเริ่มวางจำหน่ายเมื่อปีทีผ่านจากหลายแบรนด์ยางชั้นนำ ไม่ว่า จะมิชลิน , ฮันกุ๊ก และ อีกมากมาย ที่ต่างลงมาทำตลาดกลุ่มนี้

ยางรถยนต์ไฟฟ้า มีข้อแตกต่างจากธรรมดาอย่างไร ?

ในเรื่องนี้ ทางผู้ผลิต ยางรถยนต์ชั้นนำ Continental ซึ่งพัฒนายาง มานับร้อยปี และ ปัจจุบัน ให้การสนับสนุน การแข่งขัน Extreme E ระบุว่า

รถยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาขายในปัจจุบัน มีปัจจัย ที่ทำให้ยางรถยนต์ปกติ เสื่อมสภาพได้เร็วกว่า เพราะ พวกมัน มีน้ำหนักตัวมากกว่ารถยนต์สันดาป ทั่วไป ถึง ร้อยละ 30 ยกตัวอย่างเช่น

รถยนต์ MG 4 รถยนต์ Compact Car ไฟฟ้า มีน้ำหนักตัว 1,650 กก. ขณะที่ Honda Civic จะมีน้ำหนักตัว เพียง 1,320 – 1,429 กก. ในรุ่นไฮบริด จะเห็นว่า น้ำหนักเปล่า ตัวรถ ต่างกัน อยู่ราวๆ 200-300 กก. หรือต่างราวๆ 20% โดยประมาณ

เช่นเดียวกัน คุณลักษณะ ระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าเอง ก็เป็นผู้พิฆาตยางเป็นอย่างดี เนื่องจากมันสามารถ ปล่อยพลังแรงสูงลงชุดยางในเสี้ยววินาที สามารถสร้างแรงบิด กดลงไปบนยางแบบไม่ทันตั้งตัวได้ง่ายมากและเร็วกว่า รถสันดาปเดิมๆ ทำให้ การสึกหรอของยางมีมากกว่าปกติ

ในอดีต ยางที่รองรับพลังขับสูงแบบนี้จะเป็นยางสปอร์ต ที่มีเนื้อยางออกแบบมาพิเศษ ให้ทนไม้ทนมือ เครื่องยนต์รอบจัดพลังขับสูง นั่นไม่ใช่กับยางรถยนต์ทั่วไป และที่สำคัญ ผู้ใช้เอง ก็ต้องการระยะทางการขับขี่เพิ่มขึ้น ย้อนแย้ง กับ พลังขับมหาศาล

ไม่เพียงเท่านี้ ด้วยการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ ทำให้ รถมีความเงียบมากกว่าปกติ กลายเป็น เสียงมที่จะรบกวนในห้องโดยสาร กลายเป็นเสียงยาง เสียมากกว่า เสียจากท่อไอเสีย หรือ เครื่องยนต์ ต่างจาก รถสันดาปดั้งเดิม

ด้วยปัจจัย ต่างๆ ผู้ผลิตยาง ส่วนใหญ่ จึงมองไปในทางเดียวกันว่า ท้ายที่สุด รถยนต์ไฟฟ้า หรือ แม้แต่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า อย่างไฮบริด จำเป็นต้องใช้ยางพิเศษเฉพาะ เพื่อตอบสนองในการขับขี่มากขึ้น

จับไต๋โซเชี่ยล

ผมเชื่อว่า ทุกคนที่กำลังจะเปลี่ยนยาง รถยนต์ไฟฟ้าคันเก่ง จะมีคำถามเดียวกัน แล้ว เราจำเป็นไหม ที่ต้องใช้ยางรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Tire ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ

ยิ่ง ตอนนี้ บางเพจ ในโซเชี่ยล เริ่มก่อหวอด ออกปากออกเสียงว่า ไม่จำเป็นหรอก ใช้ยางรถยนต์ปกติทั่วไปก็ได้ แล้วมันจริงไหม

ก่อนอื่น ต้องบอกครับว่า การเลือกยางรถยนต์ มีหลายปัจจัยประกอบ การตัดสินใจ ไม่ว่าจะ งบประมาณ ,พฤติกรรมการขับขี่ และอีกมากมาย

เท่าที่ผม ตามอ่าน จากคำแนะนำ ของบนอินเตอร์เน็ต รวมถึง บางเพจ ที่คุย เรื่องประเด็น EV Tire ส่วนใหญ่จะยก เรื่องของ Weight index ขึ้นมาพูดถึง แล้วบอก กับคนส่วนใหญ่ว่า เอาเพียง ตัวเลขเท่ากับของเดิม ก็เพียงพอแล้ว ไม่มีปัญหา

สำหรับท่าผู้อ่านที่ไม่ใช่สายลึก อาจจะมีคำถามว่า Weight index คืออะไร

Weight index คือ ดัชนี บ่งบอก น้ำหนัก ที่ยางเส้นนั้นๆ จะรับได้ เมื่อเราเติมลมยางในระดับสูงสุด ที่ยางรับได้

ยกตัวอย่างครับ ยางขนาด 215/50/17 Weight index “95” จะรับน้ำหนักได้ราวๆ 690 กก. ต่อเส้น ยาง 4 เส้นจะรับได้ 2,760 กก เมื่อเราเติมลมที่ค่าสูงสุด เช่นยางเส้นนั้นรับค่าลมได้มากสุด 51 Psi การรับน้ำหนักเต็มที่จะทำได้เมื่อ เราเติมลมตามค่าดังกล่าวเท่านั้น

และนั่นหมายความว่า ถ้าเราเติมลมยางไม่ถึงตามค่าลมยางสูงสุด ยางก็จะรับน้ำหนักได้น้อยกว่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีผู้ผลิตรายใด แนะนำให้เติมลมยางที่ค่าสูงสุดของยางอยู่แล้ว และคนไทยจำนวนไม่น้อย นิยมเติมลมยางอ่อนกว่าปกติ เพื่อให้รถรู้สึกนั่งสบายไม่กระด้าง

อีกค่าที่ ทางกูรูโซเชี่ยลยกมาก คือค่า Speed Index ที่เป็นค่า ความเร็วสูงสุด ที่ยางเส้นนั้นๆ จะรับได้ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้รับกับอัตราเร่งได้

ตรงนี้ก็เหมือนจะแนะนำดี แต่ก็ไม่ใช่อีกเช่นกันครับ

ค่า Speed index เป็นค่าที่เกิดจากการทดสอบ เพื่อชี้วัดว่า ยางเส้นนั้น สามารภทนความเร็วสูงสุดได้ เร็วเพียงใด ก่อนที่ จะเริ่มมีผลกระทบต่อ สมรรถนะของยาง ตามที่ผู้ผลิตได้พัฒนาออกมา แต่ไม่ได้หมายความว่า พอเร็วเกินค่านั้น แล้วยางจะระเบิด ล้อจ๋า ยางลาก่อน

ค่านี้ เป็นการแทนค่าด้วยอักษร เช่น V, W, อะไรแบบนั้น ต่อจาก ตัวเลข ชุดของ Weight Index ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้า หลายรุ่น ไม่ได้มีความเร็วสูงมาก บ้างล็อกไว้ที่ 170,180 และ 200 ก.ม./ช.ม.​แล้วแต่ยี่ห้อ ไม่ได้มากกว่า ค่าที่ speed indexกล่าวเลย

เพราะ อย่างค่า V ก็สามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ 240 ก.ม./ช.ม. ซึ่งมากเกินพออยู่แล้ว

แล้ว ต้องใช้ไหม

จากที่เราพูดมาข้างต้น น่าจะเห็นแล้วว่า ค่าที่โซเชี่ยลพูดถังนั้น แมว่า จะฟังดูมีหลักการ แต่มีความคลาดเคลื่อน พอสมควร ได้แก่

Weight index ก็คือ ถ้าเติมลมน้อยก็จะไม่สามารถรับได้ตามค่าสูงสุด ที่ทางผู้ผลิตยางแนะนำ ทำให้ความจริง ค่าที่ยางรับได้ นั้นจะแปรผัน ตามการเติมลม

ส่วน speed Index เป็นค่าความเร็วสูงสุด ไม่ใช่ค่าอัตราเร่ง ที่รถยนต์ไฟฟ้า ทำได้เร็วแรงทันใจ

อย่างรถยนต์ของผม MG4 0-100 ก.ม./ช.ม.​เท่าที่วัดดู อยู่ที่ 7 วินาที ซึ่งค่อนข้างจะไว กว่ารถปกติทั่วไป อยู่พอตัว

ด้วยเหตุนี้ ประเด้นที่จะคุยว่า ยางอะไร จะทน สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ก็คงต้องพูดถึง ยางที่ต้องทนแรงกดสูง , และทนต่อการปล่อยพลังอัตราเร่ง มหาศาล เพิ่มขึ้นมาด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องของน้ำหนักตัวรถเพียงอย่างเดียว

ปัญหา คือ ปัจจุบัน ไม่มีการกำหนดมาตรฐานในการชี้วัดว่ายาง ทนอัตราเร่งดีเท่าไร แบบสองค่าที่กล่าวไป แต่ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ใช้ จะรู้กันดีว่า ถ้าอยากได้ยางที่ทนอัตราเร่ง ต้องเล่นพวกยางสปอร์ต ที่จะมีเนื้อยางพิเศษทนกว่ายางใช้งานทั่วไป

แต่อย่างที่คุณทราบยางสปอร์ต การออกแบบหน้าสัมผัสยางจะเน้นการเกาะถนน จึงมักมีดอกใหญ่ มีเสียงรบกวนเยอะกว่าปกติ

กลับกันคนใช้รถยนต์ EV เอง ต้องการใช้งานทั่วไป ที่ทนแรงพลังมอเตอร์ได้ และจะดียิ่งขึ้น ถ้าสามารถให้ระยะทางต่อการชาร์จได้ และ ไม่อยากได้เสียงรบกวนจากยางมาก

ด้วยเหตุนี้ ยางรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบ มาโดยเฉพาะ ก็น่าจะตอบโจทย์กว่า เพราะ น่าจะทนมือทนเท้า วิธีการขับ ของระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่า

และความทนไม่เพียงหมายถึง การใช้งานได้ยาวนานขึ้น ยังลดการก่อปริมาณขยะยางเก่า ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญ ทางด้านสิ่งแวดล้อมด้วย

ยิ่งกว่านั้น เท่าที่ผม สัมผัสรถยนต์ไฟฟ้าในเจนใหม่ๆที่เริ่มออกมาวางตลาด โดยมากจะเริ่มให้ยางรถยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทางมาแล้ว อาทิ Tesla Model 3 ตัวใหม่ ORA 07 Performance หรือ กระทั่งรถยนต์ไฮบริด รุ่นใหม่ๆ เอง ก็จะให้ยางแนวนี้มาด้วยเช่นกัน อย่าง Honda Accord e:HEV รุ่นใหม่ เป็นต้น

แม้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าใหม่ๆ บางรุ่น ที่มีราคาไม่แพง จะยังไม่ยางรถยนต์ไฟฟ้าติดปลายนวมมาด้วย อาจจะด้วยเหตุทางด้านราคา และ หลายรุ่นยังเป็นรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศจีน จนบางทีเราก็ได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าพลังม้าสูง ใช้ยาง Eco ติดตัวออกจากโรงงาน เนื่องจากบ้านเราไม่มีกฏข้อบังคับอะไรเรื่องนี้

อย่างไรก็ดี, หาก ถ้าวันนี้ วันหน้า คุณจะต้องเปลี่ยนยาง รถยนต์ไฟฟ้าที่คุณใช้ ถ้าเป็นไปได้ ก็ให้เปลี่ยนยางรถยนต์ไฟฟ้า น่าจะตอบโจทย์มากที่สุดครับ เพราะ ผ฿้ผลิตยางคิดมาให้เสร็จสรรพ และออกแบบมาเฉพาะยนตกรรมเหล่านี้

แต่ถ้าราคายางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามันแรงมาก จนกระเป๋าอาจฉีก เซทหนึ่ง 20,000-30,000 กว่าบาท และยังไม่มีทางเลือกมากนัก (บางคนติดยี่ห้ออย่างผม)

ใช่ครับ!! เราสามารถใช้ยางรถยนต์ธรรมดา โดยต้องเลือกยางที่มีขนาดเท่าเดิม และมีค่า Weight index เท่าเดิม แล้วเติมลมยางให้ตรงตามกำหนด รวมถึง สลับยางอย่างสม่ำเสมอ เป็นประจำ เพื่อลดการสึกหรอของชุดยาง

สำคัญที่สุด อายุการใช้งานยางจะอยู่ที่ 30,000-50,000 ก.ม. ต่อชุด ก็ลองดูว่า ยางธรรมดา ชุดเดิม คุณใช้ได้ในระยะประมาณนี้ไหม ถ้าได้ ก็อาจไม่จำเป็น ที่จะต้องเสียงเงินซื้อยาง รถยนต์ไฟฟ้า ก็ได้

หากถ้างบถึง ยาง EV ก็ทำให้คุณได้สมรรถนะที่มากขึ้นไปอีกระดับครับ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่