แม้ว่าทุกอย่างดูจะเริ่มดีขึ้น หลังจากการระบาดใหญ่ของ Covid 19 ใน ปีที่ผ่านมา หากในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ดูเรื่องของ การขาดแคลนชิพ กลับกลายเป็นประเด็นร้อน ที่ทำให้หลายคนต้องกระวนกระวายใจ เวลาซื้อรถใหม่ป้ายแดง
เหตุการณ์นี้ ทั่วโลก เรียกว่า Shortage of Semiconductor จน ตอนหลัง เรียกกันย่อๆ ว่า Chip Shortage มันเป็นภาวะที่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับอุปกรณ์ที่ใช้ในรถยนต์สมัยใหม่ บางอย่าง ขาดแคลนชิพในการประกอบสินค้า ให้กับผู้ผลิตรถยนต์
ส่งผล ให้ในแง่มุมบริษัทรถยนต์เอง ก็ไม่สามารถประกอบรถยนต์ใหม่ได้ เนื่องจาก ขาดแคลนชิ้นส่วนที่ต้องนำมาติดตั้งให้กับลูกค้า และด้วยการส่งสินค้าเป็นล็อตๆ ทำให้เกิดความล่าช้า ในการประกอบรถยนต์
ในแง่มุมที่มีส่วนเกี่ยวเนื่องมาถึง ผู้บริโภค อย่างเราๆ ท่านๆ ก็คือ จะต้องรอรถนานกว่าปกติ จากเดิม 15-45 วัน อาจกลายเป็นสูงสุด 9 เดือน ก็มีมาแล้ว
สาเหตุที่ เรื่องนี้เกิดขจึ้น มาจากหลายปัจจัย ข้อแรก, เราต้องยอมรับว่าในช่วง วิกฤติ โควิด 19 ระบาดหนัก ยอดส่งมอบและความต้องการรถยนต์ลดลงจากเดิมค่อนข้างมาก เมื่อความต้องการลดลง ในมุมของผู้ผลิตชิ้นส่วน จึงลดกำลังการผลิตลง เพื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้ชิ้นส่วนมีปริมาณที่จำกัด ในช่วง 2 ปี ของการระบาด
เมื่อสถานการณ์ ในหลายประเทศดีขึ้น ความต้องการรถยนต์กลับเพิ่มขึ้น ทวีคูณ ทำให้ชิ้นส่วนที่มีอยู่น้อยได้รับการจับจอง และทำให้สถานการณ์ เริ่มเลวร้ายลง เพราะ ความต้องการ ทวีสูงมากขึ้น จนเกิด เป็นปัญหา การขาดแคลนชิพดังกล่าว นั่นเอง
ข้อต่อมา, การระบาดในบางพื้นที่ เช่นที่จีน เอง ก็ส่งผลให้ ผู้ผลิตชิ้นส่วน ต้องหยุดการผลิต เป็นระยะเวลานานด้วย เช่น ในรายงานจากต่างประเทศ ระบุว่า ซัพพลายเออร์ ของ ไฟหน้า Matrix LED ของ ฟอร์ด พึ่งจะกลับมาผลิตสินค้าได้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากต้องปิดยาวจากการระบาด เป็นต้น
ไม่เพียงแค่นี้ การเปิดตัว รถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ ผู้ผลิตรถยนต์ต่าง มีความต้องการชิพสูงขึ้น จนเกิดการแย่งชิงกันเอง เพื่อ นำชิ้นส่วนมาผลิตให้กับลูกค้า ได้ตามความต้องการ และสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ จนกลายเป็นสงครามการค้าย่อยๆ ในวงการยานยนต์
แง่มุม ที่กระทบกับเรา
อย่างที่กล่าวไปครับ, ว่า ปัญหานี้ กลายเป็นปัญหาที่น่าปวดหัว สำหรับคนซื้อรถใหม่ช่วงนี้ มันส่งผลกระทบหลายรูปแบบด้วยกัน
ข้อแรก , เราต้องรอรถนานกว่าปกติ อย่างที่กล่าวไปแล้ว เนื่องจาก เมื่อรถยนต์มีความต้องการมาก ก็จะมีผลถึงการรอสินค้าผลิต หรือ Back Order มันก็เหมือนกับการต่อแถว ซื้อขนมร้านดัง ที่ต้องรอรถบางรุ่น เช่น Ford Ranger Raptor จะต้องรอนานกว่า 9 เดือน เพื่อรอชิ้นส่วนบางอย่างจากจีน หรือ อาจจะพูดว่า ซื้อ หรือ จองรถปีนี้ กว่าจะได้ขับก็ปีหน้า
ประเด็นต่อมา ที่เกี่ยวเนื่องกัน คือ บางครั้งรถหลุดจอง เช่น ลูกค้าที่เคยสั่ง อาจเปลี่ยนใจไปรถคันอื่นๆ หรือ หมดใจไม่อยากได้แล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเป็นประจำทำให้รถใหม่ คันนั้นว่างไม่มีเจ้าของ
เมื่อตลาดมีความต้องการมาก รถใหม่จึงข้อเสนอน้อยลง ตามหลักอุปสงค์ อุปทาน บางแห่ง อาจมีลูกเล่น ต้องเพิ่มเงินตามเงื่อนไข หากอยากจะได้รถ ก็มีให้เห็นบ่อยตามโซเชี่ยล
แต่ ข้อที่ทำให้หลายคนอาจจะคิดหนักไม่น้อย ก่อนตัดสินใจ ซื้อรถใหม่ คือ การขาดอุปกรณ์บางอย่าง ที่อยากได้ ยกตัวอย่างเช่น
Volvo ประกาศตัดออพชั่น Matrix LED ไป ในรถยนต์ Volvo XC 40 และ C40 เวอร์ชั่นปี 2023 เพื่อลดปัญหา การรอส่งมอบ
และจะสังเกตว่า จะมีรถรุ่นพิเศษ เรียกว่า เป็นรุ่นทอนออพชั่น ทอนราคาออกมา อยู่หลายรุ่น เพื่อลดปัญหาดังกล่าว
หรือรถบางรุ่น ออกมาแล้ว เรารู้สึกว่าทำไม มันมีออพชั่น ที่แปลกๆ เหมือนมาไม่ครบ จากเมืองนอก บางครั้งต้องยอมรับว่า นั่นเพราะ ผู้ผลิต พยายาม ให้ของที่มีพร้อม และตอบสนองลูกค้าได้เร็วนั่นเอง
ปัญหา Chip Shortage ปัจจุบัน เริ่มดีขึ้น ตามลำดับ แต่ยังไม่กลับสู่เหตุการณ์ปกติ การซื้อรถวันนี้อาจจะต้องพิจารณา เสียหน่อย ในเรื่องของเวลาที่จะต้องรอรับรถ ประกอบกับ รถรุ่นใหม่ในอนาคตที่จะออกมา
ต้องยอมรับว่า เหตุการณ์ นี้ไม่ธรรมดา ดังนั้น ซื้อรถวันนี้ต้องทำใจ อย่างไรเสีย ก็ต้องรอนาน เหมือนกัน ทุกคน
