หลังการเผยโฉมครั้งแรกเมื่อต้นปี ในที่สุดก็ถึงเวลาสักทีที่ YangWang U9 รถซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าหน้าใหม่ จะได้ฤกษ์เผยรายละเอียดทางเทคนิค โดยเฉพาะในเรื่องของพละกำลังสูงสุดที่สามารถทำได้จากขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสี่ในตัวรถร่างขายจริงที่อวดสรรพคุณไว้ว่าจะไม่มีทางต่ำกว่า 1,000 แรงม้า สักที

YangWang U9 คือรถซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้า จากแบรนด์ลูกภายใต้เครือเดียวกันกับ BYD ที่ทางค่ายได้เผยโฉมมันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมกราคม ต้นปี 2023 ที่ผ่านมานี้เอง และความโดดเด่นของมันก็ไม่ได้มีแค่เพียงในเรื่องของงานออกแบบที่เป็นการผสมผสานระหว่างความปราดเปรียวและหรูหราไว้ด้วยกันอย่างลงตัวเท่านั้น

แต่ยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย โดยเฉพาะระบบช่วงล่างที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบกันสะเทือน “Disus-X” ซึ่งเป็นระบบช่วงล่างไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับลูกเล่นครบๆ ทั้ง Intelligent Damping Body Control System (Disus-C หรือ ระบบควบคุมความหนืดในการยืด-ยุบของช่วงล่าง เพื่อควบคุมการทรงตัว), Intelligent Hydraulic Body Control System (Disus-P หรือ ระบบไฮดรอลิกควบคุมความสูงของช่วงล่างอย่างอิสระ เพื่อควบคุมการทรงตัว), และ Intelligent Air Body Control System (Disus-A หรือ ระบบควบคุมความแข็ง-อ่อนของถุงลม เพื่อควบคุมการทรงตัว)

ซึ่งหากที่ไล่เรียงมาอาจดูแล้วก็ไม่ได้ต่างจากช่วงล่างไฟฟ้าของรถยนต์ซุปเปอร์คาร์คันอื่นๆ แต่แท้จริงแล้ว ระบบช่วงล่างของมัน ยังมีฟังก์ชันที่สามารถทำให้ “รถกระโดดได้” เพื่อหลบสิ่งกีดขวาง, “ทรงตัวขับ 3 ล้อ ได้” หากรถพบว่ามียางของล้อใดล้อหนึ่งเกิดแตกขึ้นมา, และ “ระบบรักษาการทรงตัว ให้รถอยู่ในระนาบเดิมตลอดเวลา” ซึ่งเป็นระบบที่มีลักษณะการทำงานคล้ายๆกับรถยนต์ Roll Royce หรือ Mercedes-Maybach

แต่ข้อมูลเหล่านี้ ล้วนเป็นข้อมูลที่ทางค่ายเปิดเผยมาหมดแล้วตั้งแต่ต้นปี

ส่วนข้อมูลใหม่ล่าสุดที่พึ่งมีการปล่อย หรือเปิดเผยออกมา ก็คือ ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 4 ตัว ที่มีไว้ขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 แบบแยกอิสระ 1:1 นั้น แต่ละตัวจะสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ 240 kW หรือราวๆ 326.3 แรงม้า PS เท่ากับว่ารถซุปเปอร์คาร์คันนี้ จะมีแรงม้าพกติดตัวมามากถึง 1,305 PS เลยทีเดียว

ซึ่งนั่นถือว่ามากกว่าการระบบสเป็คคาดการณ์เอาไว้ตอนแรกพอสมควร (ในตอนที่เผยโฉมครั้งแรก ทาง YangWang ระบุว่า U9 จะมีแรงม้าพกติดตัวมาไม่น้อยกว่า 1,100 PS) และยังช่วยให้รถสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 2.0 วินาที เท่านั้น

แต่ด้วยข้อจำกัดทางกลไก จึงทำให้มันสามารถเค้นความเร็วสูงสุดได้เพียง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งดูน้อยไปพอสมควร เมื่อเทียบกับรถซุปเปอร์คาร์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีพละกำลังสูงสุดพอๆกันที่มักจะทำความเร็วสูงสุดได้อย่างน้อยราวๆ 370 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขึ้นแทบทั้งสิ้น

ทั้งนี้ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวรถ ไม่ไม่ควรจะวิ่งเร็วไปมากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะน้ำหนักตัวที่มากถึงราวๆ 2.5 ตันของมัน เพราะต้องแบกแบตเตอรี่ขนาด 100 kWh สำหรับวิ่งให้ได้ระยะทางสูงสุดราวๆ 700 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC

สุดท้ายคือเลขมิติตัวถัง ที่มีการเปิดเผยออกมาเช่นกัน ว่ามันจะมีขนาดตัว 4,966 มิลลิเมตร ในด้านยาว, 2,029 มิลลิเมตร ในด้านกว้าง, 1,295 มิลลิเมตร ในด้านสูง และระยะฐานล้อยาว 2,900 มิลลิเมตร

ส่วนข้อมูลลูกเล่นภายในห้องโดยสาร ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา และในด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็ยังไม่มีการเปิดเผยเช่นกัน แต่ก็มีการประมาณการเอาไว้ว่าจะอยู่ที่ราวๆ 1 ล้าน หยวน หรือราวๆ 5 ล้านบาท สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศจีน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่