การใช้รถในวันนี้ถ้าพูดถึงแล้ว เราต้องการออะไรจากรถยนต์ในปัจจุบัน ในมุมหนึ่งที่ต่างประเทศใช้กันมายาวนา ดูจะไม่พ้นระบบเชื่อมต่อระหว่างรถกับระบบข้อมุลต่างๆ แล้วมันจะดีกว่าไหม ถ้าคุณสามารถมีเพื่อนรู้ใจร่วมทางไปด้วยได้ในทุกเส้นทาง
ระบบ “Honda Connect” กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ และน่าจะถูกใจคนใช้รถยนต์ Honda รถยนต์นั่งอันดับหนึ่งของตลาดในประเทศไทยสองปีซ้อน ซึ่งเพิ่งเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการล่าสุด เพื่อเอาใจลูกคาที่ใช้รถยนต์ฮอนด้าแทบทุกรุ่นในปัจจุบัน
จากข้อมูลที่ทางฮอนด้าชี้ชวนในการเปิดตัวครั้งนี้ ระบุว่า ระบบ Honda Connect เป็นระบบประเภทติดตั้งเพิ่มเติม หรือ Add-on จากรถยนต์ทุกรุ่นของฮอนด้า โดยทางลูกค้าเพียงติดต่อที่ศูนย์บริการใกล้บ้านเพื่อขอรับการติดตั้งอุปกรณ์กล่องเสริม Telematic Control Unit ซึ่งทำหน้าที่เก็บข้อมูลสำคัญผ่านการรับส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ แล้วทำการจัดเก็บและประมวลผล ด้วย Clound Technology รวมถึงยังสามารถระบุตำแหน่งในการใช้รถปัจจุบันด้วยระบบ GPS สามารถให้บริการได้ทั้งข้อมูล และส่งข้อมูลไปยังหน่วยงานช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องในยามต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน

โดยระบบ Honda Connect มี 6 ฟังชั่นการใช้งานหลัก ประกอบด้วย
1.ฟังก์ชั่นสถานะรถยนต์ จะช่วยแจ้งสถานะความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดินทาง เช่น ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น และอื่นๆ รวมถึงแจ้งเตือนการบำรุงรักษา ประวัติการเข้ารับบริการและกำหนดการเข้ารับบริการครั้งถัดไป เพื่อให้ผู้ใช้ได้ดูแลรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
2.ฟังก์ชั่นข้อมูลลักษณะการขับขี่ ที่จะบันทึกข้อมูลการขับขี่และแสดงผลพฤติกรรมการขับขี่ต่างๆ เช่น ระยะทางการขับขี่ ช่วงเวลาการขับขี่ อัตราความเร็วสูงสุด อัตราความเร็วเฉลี่ย และการบันทึกประวัติการเดินทาง
3.ฟังก์ชั่นตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์
ผู้ใช้งานสามารถขอพิกัดของรถยนต์ (Find My Car) ได้โดยผ่านฟังก์ชั่นแสดงพิกัดรถยนต์ เมื่อเลือกฟังก์ชั่นขอพิกัดรถยนต์ ระบบจะทำการส่งพิกัดไปยังอีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้ (เพื่อความเป็นส่วนตัวของข้อมูล)
ในกรณีที่รถยนต์ถูกเคลื่อนย้าย ระบบจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนความผิดปกติมาที่ฟังก์ชั่นสถานะพิกัดรถยนต์ในแอปพลิเคชันบนมือถือสมาร์ทโฟน
4.ฟังก์ชั่นติดต่อเพื่อช่วยเหลือฉุกเฉิน
เมื่อถุงลมทำงานในกรณีเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า (Honda Call Center) เพื่อติดต่อและประสานงานให้ความช่วยเหลือไปยังเบอร์โทรที่ลงทะเบียนไว้ หรือเบอร์โทรสำรองฉุกเฉิน หากไม่สามารถติดต่อได้ ระบบจะทำการติดต่อหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (1669)
ในกรณีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปที่ฟังก์ชั่นเบอร์โทรสำคัญสำหรับกรณีฉุกเฉิน เช่น ศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า สถานีตำรวจ รถพยาบาล บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง รวมทั้งบริษัทประกันภัย เพื่อบริการประสานงานความช่วยเหลือฉุกเฉิน
5.ฟังก์ชั่นค้นหาและแชร์การเดินทาง ทำงานเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแผนที่ เพื่อค้นหาเส้นทางหรือสถานที่ใกล้เคียง เช่น สถานีบริการน้ำมัน ตู้เอทีเอ็ม ร้านสะดวกซื้อ หรือผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถทำการบันทึกสถานที่ที่ใช้ประจำ เพื่อช่วยในการนำทางไปยังจุดหมายได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถแชร์บันทึกการเดินทางพร้อมภาพถ่ายบนเฟซบุ๊กส่วนตัวได้อีกด้วย
6.ฟังก์ชั่นข่าวสารและสิทธิพิเศษ ทำหน้าที่ให้บริการแจ้งข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงแจ้งเตือนการต่อประกันภัยและภาษีรถยนต์ล่วงหน้าให้กับผู้ใช้งาน
ลูกค้าที่สนใจติดตั้ง ฮอนด้า คอนเนค สามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อนัดหมายและนำรถยนต์ฮอนด้าของท่านเข้าติดตั้งกล่องอุปกรณ์รับส่งข้อมูลทางไกล (Telematics Control Unit หรือ TCU) ที่ศูนย์บริการฮอนด้าที่ท่านสะดวกได้ทั่วประเทศ โดยลูกค้าจะต้องทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Honda Connect Thai (รองรับระบบปฎิบัติการสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 8.0 ขึ้นไป และระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0 ขึ้นไป) หลังจากนั้นศูนย์บริการจะทำการลงทะเบียนเชื่อมต่อข้อมูล TCU และ แอปพลิเคชัน เพื่อสร้างบัญชีการใช้งาน
ฮอนด้า คอนเนค พร้อมจำหน่ายในราคา 5,900 บาท (ฟรีค่าติดตั้ง และค่าสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์เพื่อการส่งข้อมูลรายปี รวม 2 ปี) โดยปัจจุบันรองรับรถยนต์ของฮอนด้า รุ่นต่างๆ ดังต่อไปนี้
| รุ่นรถยนต์ |
ปี |
| บริโอ้ / บริโอ้ อเมซ |
2016-2017 |
| ซิตี้ / แจ๊ซ |
2014-2017 |
| โมบิลิโอ |
2014-2017 |
| บีอาร์-วี |
2016-2017 |
| ซีวิค |
2012-2017 |
| ซีวิค แฮทช์แบ็ก |
2017 |
| เอชอาร์-วี |
2015-2017 |
| ซีอาร์-วี |
2012-2017 |
| แอคคอร์ด |
2013-2017 |
| โอดิสซีย์ |
2014-2017 |
หมายเหตุ : รุ่นรถยนต์ที่ยังไม่สามารถรองรับนวัตกรรม “ฮอนด้า คอนเนค” ได้แก่
- รถยนต์ไฮบริด – แอคคอร์ด ไฮบริด, ซีวิค ไฮบริด และแจ๊ซ ไฮบริด
- รถยนต์นำเข้า – ฟรีด, สเตปแวกอน และ ซีอาร์-ซีร์